รู้เท่าทันความเสี่ยง Geopolitics ใกล้ไกล...ความท้าทายที่ต้องพร้อมรับมือ
คอลัมน์ : เลียบรั้วเลาะโลก ผู้เขียน : ฝ่ายวิจัยธุรกิจ EXIM BANK
แม้ว่าทั่วโลกจะคลายความกังวลลงได้บ้าง จากการที่อัตราภาษี Reciprocal Tariffs ของสหรัฐมีความชัดเจนในทิศทางบวก โดยภาษีของประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับที่เคยประกาศไปก่อนหน้า รวมถึงไทยที่สามารถเจรจาลดภาษีลงจาก 36% เหลือ 19% ซึ่งใกล้เคียงกับคู่แข่ง ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าไทยยังคงรักษาศักยภาพในการแข่งขันด้านต้นทุนจากอัตราภาษีใหม่ไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้าโลกและไทยยังต้องเผชิญความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่มีแนวโน้มจะสร้างความปั่นป่วนและเป็นความท้าทายต่อเศรษฐกิจ โดยประเด็นที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญและต้องจับตามองมีดังนี้
-รัสเซีย-ยูเครน…ถูกสหรัฐใช้มาตรการภาษีเป็นหนึ่งในเกมกดดันรัสเซีย แม้จะเข้าสู่ปีที่สาม แต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังคงเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก จากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีท่าทีแข็งกร้าวขึ้น ด้วยการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ขั้นสูงให้ยูเครน และเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศที่ยังคงค้าขายกับรัสเซีย (Secondary Sanctions)
โดยได้ขึ้นภาษีนำเข้าอินเดีย ผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียรายใหญ่อันดับ 2 อีก 25% (On Top) เพื่อกดดันให้หยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย และขู่จะขึ้นภาษีจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน ถือเป็นการใช้ Trade War เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้กับเกมการเมืองโลก โดยการวิเคราะห์จาก Russia Matters โครงการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับรัสเซียของ Harvard Kennedy School ของสหรัฐ ประเมินว่าหากรัสเซียส่งออกน้ำมันลดลง 10-20% อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 6-11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
-อิสราเอล-อิหร่าน…ความขัดแย้งที่พร้อมระเบิดความรุนแรง จากสถานการณ์ที่ยังคงตึงเครียดสูง เนื่องจากอิสราเอลยังไม่บรรลุเป้าหมายที่แท้จริง คือการทำลายโครงการอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด รวมถึงทำให้รัฐบาลอิหร่านอ่อนแอลงจนไม่สามารถเป็นภัยคุกคามได้อีก ขณะที่อิหร่านก็ได้ฟื้นฟูกำลังทหารเพื่อรับมือและตอบโต้ในทันทีหากเกิดการปะทะ
สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลและกลายเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อความมั่นคงในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญต่อพลังงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ยุทธศาสตร์อย่างช่องแคบฮอร์มุซ ที่หากถูกปิดจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันโลกหายไปทันทีถึง 20% โดย Goldman Sachs
คาดว่ากรณี Worst Case หากอิหร่านถูกตัดการส่งออกน้ำมันทั้งหมดราว 2 ล้านบาร์เรล/วัน ราคาน้ำมัน Brent อาจพุ่งแตะ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 4 ปี 2568 จากระดับราคากรณี Baseline ที่ 64-66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ การโจมตีเรือสินค้าในบริเวณทะเลแดงโดยกลุ่มฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยังทำให้เรือสินค้าต้องหลีกเลี่ยงคลองสุเอซและแล่นอ้อมทวีปแอฟริกา ซึ่งเพิ่มต้นทุนและเวลาในการขนส่งสินค้าอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2568 กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือบรรทุกสินค้า 2 ลำในทะเลแดงอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้เรืออับปางลง มีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายราย
-ไทย-กัมพูชา…เมื่อ Geopolitics ประชิดชายแดน ความขัดแย้งไทยและกัมพูชาในปี 2568 ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี หลังจากมีการปะทะกันหลายจุดตามจังหวัดชายแดน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งทหารและพลเรือนหลายสิบราย พร้อมกับมาตรการปิดชายแดนและห้ามค้าขายข้ามแดน
ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งจากการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีมูลค่า 1.74 แสนล้านบาทในปี 2567 ต้องหยุดชะงักอย่างไม่มีกำหนด และยังกระทบห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะธุรกิจไทยที่พึ่งพาวัตถุดิบจากกัมพูชา รวมถึงธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในกัมพูชาที่จะได้รับผลกระทบเช่นกัน
นอกจากนี้ กัมพูชายังระงับการนำเข้าสินค้าบางประเภทจากไทย เช่น พลังงาน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปไปกัมพูชาที่มีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปี คิดเป็นตลาดส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปสัดส่วน 16% ของไทย ทั้งนี้ การส่งออกไทยไปกัมพูชาเริ่มส่งสัญญาณความเสียหาย โดยมูลค่าส่งออกติดลบราว 3% ในเดือนมิถุนายน 2568 ทิศทางความขัดแย้งที่ยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลายในเร็ววัน เป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะแนวโน้มความขัดแย้งที่ยืดเยื้อจะยิ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจไทยมากยิ่งขึ้น
จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงจาก Geopolitics ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้เท่าทันและต้องวางแผนรับมือ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียม Scenario Planning กรณีต้นทุนพลังงานและโลจิสติกส์สูงขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด การเสริมสร้างความยืดหยุ่นในห่วงโซ่อุปทาน เช่น การหาเส้นทางขนส่งสำรอง และการกระจายความเสี่ยงโดยไม่พึ่งพาตลาดหรือซัพพลายเออร์รายใดรายหนึ่งมากเกินไป
รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้ทันต่อเหตุการณ์ การเตรียมพร้อมเชิงรุกจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถรับมือกับความท้าทายจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ท่ามกลางความผันผวนและซับซ้อนของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์โลก
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รู้เท่าทันความเสี่ยง Geopolitics ใกล้ไกล…ความท้าทายที่ต้องพร้อมรับมือ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net