โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ค้นประวัติ ตึกเปโตรนาส มาเลเซีย ใครออกแบบ ทิดอลงกตอ้างเหตุหนีทหาร

Thaiger

อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 3.59 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thaiger ข่าวไทย

ประวัติ ตึกเปโตรนาส ตำนานแห่งฟากฟ้ามาเลเซีย สร้างเมื่อไหร่ ใครออกแบบ หลัง อดีตหลวงพ่ออลงกตอ้าง หนีทหารไปมาเลเซีย ไปเขียนแบบตึกคู่เปโตรนาส

หากเอ่ยถึงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ภาพแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของใครหลายคนคือ “ตึกคู่เปโตรนาส” ส่องแสงระยิบระยับกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน 2 เสาที่สูงเสียดฟ้าคู่นี้เป็นแลนด์มาร์กของเมือง ตัวแทนความทะเยอทะยานของชาติที่ก้าวขึ้นสู่เวทีโลก ถูกกลับมาพูดถึงในไทยอีกครั้ง หลังทิดอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าที่ไม่ไปเกณฑ์ทหารเมื่อปี พ.ศ. 2524 เพราะไปมาเลเซีย เขียนแบบตึกนี้

ประวัติการก่อสร้างตึกเปโตรนาส

ตึกเปโตรนาสถูกสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2534–2541 ช่วงเวลาที่มาเลเซียกำลังผลักดันแผนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง รัฐบาลในขณะนั้นมุ่งหมายให้ตึกนี้ไม่ใช่แค่สำนักงาน แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าและความทันสมัย ระหว่างการก่อสร้างมีการทุ่มกำลังวิศวกรและสถาปนิกจากนานาชาติเข้ามามีส่วนร่วม

ผู้ชนะการออกแบบคือ César Pelli สถาปนิกชื่อดังชาวอาร์เจนตินา ที่ตีความ “ความเป็นมาเลเซีย” ผ่านเส้นสายของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ผสานศิลปะอิสลาม

สิ่งที่ทำให้ตึกเปโตรนาสยืนหยัดเป็นหนึ่งในตึกสูงที่ผู้คนทั่วโลกต้องจดจำคือความสูง 452 เมตร บนจำนวนชั้นทั้งหมด 88 ชั้น เคยครองตำแหน่ง “ตึกที่สูงที่สุดในโลก” ในช่วงปี 2541–2547 สิ่งที่โดดเด่นอีกประการคือ Skybridge สะพานเชื่อมระหว่างตึกทั้งสองที่ชั้น 41 และ 42 ไม่เพียงทำหน้าที่ด้านโครงสร้าง แต่ยังกลายเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์ “เดินอยู่บนฟ้า” การเลือกใช้โครงสร้างเหล็กกล้าและกระจกเงาสะท้อนตัดกับท้องฟ้า ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นเมืองโลกยุคใหม่

หากมองจากมุมสูงลงมา เราจะเห็นว่าตึกเปโตรนาสออกแบบบนพื้นฐานของรูปดาวแปดแฉก ซึ่งเป็นลวดลายสำคัญในศิลปะอิสลาม ลวดลายนี้ไม่ใช่แค่ความงามเชิงศิลป์ แต่ยังสื่อถึงความสมดุล ความสมานฉันท์ และความเป็นหนึ่งเดียว ตึกคู่ก็สะท้อนแนวคิดเดียวกัน คือความร่วมมือของคนมาเลเซียที่หลากหลายเชื้อชาติศาสนา ทว่าอยู่ภายใต้ร่มธงเดียวกัน

ตึกที่สร้างเศรษฐกิจและสังคมให้มาเลเซีย

ตึกเปโตรนาสยังเป็นหัวใจทางเศรษฐกิจ ภายในตึกเป็นสำนักงานใหญ่ของ Petronas บริษัทน้ำมันแห่งชาติของมาเลเซีย รวมถึงสำนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่จากทั่วโลก รอบฐานตึกมีศูนย์การค้า Suria KLCC ที่หรูหราทันสมัย เป็นที่จับจ่ายใช้สอยของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีหอประชุม ศูนย์วัฒนธรรม และพื้นที่สาธารณะอย่างสวน KLCC Park ที่เปิดกว้างให้ผู้คนทุกชนชั้นมาใช้ชีวิตร่วมกัน ตึกนี้จึงกลายเป็นทั้ง สัญลักษณ์เศรษฐกิจ และพื้นที่สังคม ในคราวเดียวกัน

นอกจากการเป็นแลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวแล้ว ตึกเปโตรนาสยังถูกบันทึกไว้ในวัฒนธรรมสมัยนิยมหลายครั้ง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Entrapment (1999) ที่แสดงให้เห็นฉากโรแมนติกบน Skybridge ทำให้ตึกนี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น รวมทั้งยังถูกนำไปใช้เป็นฉากหลังในโปสเตอร์ งานโฆษณา และกลายเป็น “เช็คอินบังคับ” ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อเดินทางมามาเลเซีย

ดังนั้น สรุปจากปีไทม์ไลน์ที่ตึกเปโตรนาสเริ่มโครงการประกวดหาผู้ออกแบบ ไม่ตรงกับปีที่นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว หรืออดีตพระอลงกตอ้างหนีทหาร ปี 2524 โดยให้หลังถึง 10 ปี ทั้งยังมีชื่อผู้ออกแบบจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชัดเจน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thaiger

บัณฑิตกฎหมาย วัย 22 ดับสลดหลังทำ CT สแกน แพทย์ชี้เคสหายาก 1 ใน 10000

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถอดรหัส ปฏิทินจีน หวยงวด 1/9/68 รวบครบ 4 ฉบับ ชี้เป้าเลขตรงกัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ครม. ไฟเขียวร่างประกาศ “ห้ามนำเข้ารถยนต์ใช้แล้ว” เปิดทางเฉพาะรถโบราณ

PPTV HD 36

‘สุกี้ตี๋น้อย’ หาเช่าโชว์รูมเก่าทำร้านอาหาร สะท้อนอะไรเกี่ยวกับธุรกิจ

SMART SME

LivingInsider ประกาศความสำเร็จเป็นปีที่ 3

Manager Online

Tatler Thailan หนุนบุคคลตัวอย่างสร้างธุรกิจเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

เดลินิวส์

“สุริยะ”หารือ Tesla แลกเปลี่ยน นำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

Manager Online

ทรัมป์จ่อขึ้นภาษีอีก เฟอร์นิเจอร์-เครื่องใช้ทำจากไม้ จีนและอาเซียนอ่วม | คุยกับบัญชา | 26 ส.ค. 68

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...