กรุงเทพฯ ติดอันดับ 11 เมืองที่ ‘ค่าครองชีพแพงสุดในโลก’
รายงาน Global Wealth and Lifestyle Report 2025 ที่จัดทำโดย‘จูเลียส แบร์’ นอกจากจะเผยให้เห็นถึงเทรนด์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High-Net-Worth Individuals - HNWIs) ทั่วโลก ยังมีการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองแพงสุดในโลก โดยพบว่า
‘สิงคโปร์’ ยังคงครองอันดับ 1 เมืองที่ค่าครองชีพแพงสุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ตามมาด้วย อันดับ 2 ‘ลอนดอน’ และอันดับ 3 ‘ฮ่องกง’
สำหรับ ‘กรุงเทพฯ’ เมืองหลวงของประเทศไทยติดอยู่ในอันดับ 11 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมา 6 อันดับ ส่วน ‘โตเกียว’ อยู่ในอันดับ 17 ซึ่งทั้งกรุงเทพฯและโตเกียว ถือเป็นสองเมืองที่มีค่าครองชีพพุ่งแรงมากสุดในปี 2025
สิ่งที่ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงขึ้นในสายตาของผู้มั่งคั่งโลก เนื่องจาก สินค้าฟุ่มเฟือยมีราคาแพงที่สุดในโลก โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นสำหรับสตรีและบุรุษ, รถยนต์ และนาฬิกา ขณะที่สินค้าอื่นมีราคาสมเหตุสมผล
เอเชียแปซิฟิกแหล่งรวมผู้มีความมั่งคั่ง
รายงานฉบับดังกล่าว ยังได้เปิดเผยว่า ‘เอเชียแปซิฟิก’ เป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วสุดในโลก แม้ในปี 2567 เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงแซงหน้าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ความมั่งคั่งในภูมิภาคนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2567 มีการเติบโตของ GDP 4.5% ลดลงเล็กน้อยจาก 5.1% ในปี 2566 แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 3.3%
จากแนวโน้มนี้ ส่งผลโดยตรงต่อจำนวนผู้ที่มีความมั่งคั่งระดับสูงในเอเชียที่คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี แตะระดับ 855,000 คนในปี 2567
สำหรับแรงขับเคลื่อนสำคัญก็มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของ‘จีน’ และ ‘อินเดีย’ ซึ่งคาดการณ์ว่า จะช่วยเพิ่มสัดส่วน HNWIs รายใหม่ในเอเชียให้สูงถึง 47.5% ระหว่างปี 2568 – 2571 โดยจากตัวเลขดังกล่าวย้ำให้เห็นว่า เอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นศูนย์กลางของโอกาสทางเศรษฐกิจและเป็นแหล่งกำเนิดความมั่งคั่งที่สำคัญของโลก