Gen Z นำเทรนด์สุขภาพ ตลาด Wellness โต 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในยุคที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติ คนรุ่นใหม่ Gen Z และ Millennials กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า "ความสำเร็จ" และ "ความสุข" ที่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับทรัพย์สินเงินทองอีกต่อไป

แต่คือ “คุณภาพชีวิต” ปรากฏการณ์นี้ได้กลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่พลิกโฉมตลาด Wellness ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

จากรายงาน "Future of Wellness 2025" ของ McKinsey พบว่า Gen Z และ Millennials เกือบ 30% ให้ความสำคัญกับสุขภาวะมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าคนรุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด

"พวกเขาไม่ได้เพียงใช้จ่ายมากขึ้น แต่ยังใช้จ่ายแตกต่างออกไป โดยทุ่มเงินให้กับอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ, แอปพลิเคชันสุขภาพจิต, โภชนาการเชิงฟังก์ชัน, ไปจนถึงบริการเสริมความงามเชิงป้องกัน"

เทรนด์นี้ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้นภายใต้แนวคิด "Health is the new wealth" หรือ "สุขภาพดีคือความมั่งคั่งใหม่"

ข้อมูลจาก Deloitte เผยว่า Gen Z และ Millennials ในไทยกว่า 62% มีความเครียดทางการเงินและใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน

ความกดดันจากหน้าที่การงานและค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจดูแลตัวเองในเชิงรุก เพื่อรับมือกับความท้าทายรอบด้าน

โดย 84% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา, 79% ในสหราชอาณาจักร และสูงถึง 94% ในประเทศจีน จัดให้ "สุขภาพ (Wellness)" เป็นเรื่องสำคัญหรือ "สำคัญที่สุดในชีวิต"

'ความสำคัญนี้ทำให้การใช้จ่ายด้านเวลเนสมีความยืดหยุ่นสูงและไม่ถูกลดทอนลงง่ายๆ แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน'

เกือบ 30% ของชาว Gen Z และ Millennials ในสหรัฐฯ ระบุว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสุขภาพ "มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ" เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าคนรุ่นก่อนหน้าที่มีเพียง 23%

แม้คนกลุ่มนี้จะคิดเป็นเพียง 36% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ แต่พวกเขากลับเป็นผู้ขับเคลื่อนการใช้จ่ายด้านเวลเนสสูงถึง 41% ของทั้งตลาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอำนาจซื้อที่เหนือกว่าสัดส่วนประชากรอย่างมาก

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า แบรนด์ที่ต้องการครองใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ ต้องนำเสนอ "โซลูชัน" ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่ "ผลิตภัณฑ์" เดี่ยวๆ

โดยต้องอาศัยการสื่อสารที่อิงหลักวิทยาศาสตร์แต่เข้าถึงง่าย และสร้างประสบการณ์ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "กิจวัตร" ประจำวันของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

ที่มา : McKinsey, contentgrip,