โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ลุ้น “กกต.” ชี้ขาดฮั้ว สว.

เดลินิวส์

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ตามประเด็นการเมือง…จับตา

ในที่สุดก็ถึงบทสรุป การตรวจสอบการฮั้ว สว. ก็เดินมาถึงขั้นตอนสำคัญ โดย คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบกรณี เลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 ในฐานความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ได้เชิญบรรดา สว. และกลุ่มบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และเครือข่ายของพรรค เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา รวมจำนวน 229 ราย โดยกรอบระยะเวลาในการทำสำนวนไปยังรองเลขาธิการ กกต. ที่ได้รับมอบหมาย ภายในวันที่ 17 ก.ค. 68 ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการฯ ได้สรุปสำนวนในช่วงค่ำ ของวันที่ 16 ก.ค. เสนอสำนวนพร้อมความเห็นดำเนินคดีไปยังรองเลขาธิการ กกต.

โดยให้ดำเนินคดีต่อ ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 229 ราย ได้แก่ สว.ตัวจริง จำนวน 138 ราย และกก.บห.พรรค ภท. และเครือข่ายของพรรค จำนวน 91 ราย ประกอบด้วย มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 62 มาตรา 76 และ มาตรา 77 (1) อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เล็งเห็นว่า ในส่วนของมาตรา 76 มีพฤติการณ์ระบุว่า "กก.บห.หรือ ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใด ในพรรคการเมือง สส. สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ใดกระทำการโดยวิธีใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือให้ผู้สมัครผู้ใดได้รับเลือกเป็น สว. หรือทำให้ผู้สมัครผู้ใดไม่ได้รับเลือก" ย่อมถือว่ามีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นการได้มาซึ่ง สว.โดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม

เมื่อประกอบการพิจารณากับ กฎหมายรัฐธรรมนูญ (รธน.) 2560 จะพบว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดนั้น เข้าข่ายเป็นความผิดตาม รธน.มาตรา 113 ซึ่งระบุว่า “สว.ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ๆ” นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า สำหรับ ฐานความผิดมาตรา 76 แห่ง พ.ร.ป.สว.61 และมาตรา 113 แห่ง รธน.2560 ที่คณะอนุกรรมการฯ มีมตินั้น หากสำนวนคดีฮั้ว สว. ถูกนำเสนอไปจนถึงชั้น 4 กกต. ที่มี นายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน มีการพิจารณาชี้ขาด หรือสั่งการโดยพ้อง ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจนำไปสู่กระบวนการที่ กกต. ต้องยื่นคำร้องต่อศาล รธน. ให้ยุบพรรคต่อไป

จากนี้ต้องรอดูว่า รองเลขาธิการ กกต. จะใช้เวลาในการพิจารณา สำนวนนานเท่าไหร่ ก่อนจะส่งสำนวนไปให้ กกต.พิจารณา ซึ่งถ้ากกต. ให้ความเห็นชอบ ตามนั้น ก็ต้องส่งสำนวนไปให้ศาลฎีกาพิจารณา และอาจส่งผลโยงไปถึงการเสนอให้ศาล รธน. ยุบพรรคภท.

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบ คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับ การได้มาซึ่ง สว. รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือ คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ว่าการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีการจ่ายเงินในหลายพื้นที่ มีมูลในการกระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาเกิดขึ้น ทั้งอั้งยี่ และ การฟอกเงิน ซึ่งกำหนดสอบพยานอีกส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะพิจารณา เรียกผู้ถูกกล่าวหา มารับทราบข้อกล่าวหาในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ การสอบสวนในตอนนี้ มีความคืบหน้าแล้ว 60-70% สำหรับการสอบปากคำพยานในคดีอั้งยี่-ฟอกเงินที่ผ่านมา รวมแล้ว 90 ปาก โดย 90 ปากนี้มีทั้งกลุ่มที่เข้าไปรู้เห็น การวางแผน การทำหน้าที่ต่าง ๆ โดยเป็นการรู้เห็นด้วยตนเอง และพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเงินด้วย

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ผลการให้ปากคำในส่วนของผู้ที่มี เส้นทางการเงิน เกี่ยวข้อง มีประมาณ 7-8 ราย แต่เราดู หลักฐานการเดินบัญชี (สเตตเมนต์) เป็นหลัก ส่วนใหญ่พยานจะอ้างว่าเป็น การโอนเงินตามมูลหนี้ ซึ่งจะพิสูจน์ว่าบรรดาผู้ช่วยหรือผู้เชี่ยวชาญหรือ ที่ปรึกษาประจำตัว สว. ที่มีการแต่งตั้งมีที่มาอย่างไร เพราะมีเงินบางส่วนได้ถูกโอนกลับไปที่คณะบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งอีกประมาณ 1 เดือน จะเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น หรืออาจเป็นขั้นตอนเรียก มารับทราบข้อกล่าวหา เลยก็ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการได้มาของพยานหลักฐาน โดยการฟอกเงิน พฤติกรรมคือการรับโอนเงินและทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิด ส่วนอั้งยี่ คือ การเป็นคณะบุคคล หรือจัดตั้งเป็นคณะบุคคล ปกปิดวิธีดำเนินการ เพื่อไปกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตอนนี้มันก็ชัดแล้วว่ามีการจัดตั้งคณะขึ้นมาและแบ่งหน้าที่กันทำ

“การฮั้วนั้น พฤติกรรมแวดล้อม มันจะบ่งบอก อย่างช่วงเลือกตั้งบางทีไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการรับโอนเงินก้อนใหญ่ หรือเงินกระจาย ไปยังบุคคลอื่นหลาย 10 เส้น และบุคคลเหล่านั้นก็ไปสมัคร สว.ในช่วงนั้น แล้วก็มีการเลือกคนที่อยู่ในโพย ซึ่งมันก็มีความโยงใยกัน จึงยืนยันว่าเรา ไม่ได้ดูแค่พยานหลักฐาน เรื่องเส้นทางการเงินเพียงอย่างเดียว และทราบว่าเส้นทางการเงินกระจายมากกว่า 30 จังหวัด” อธิบดีดีเอสไอ ระบุ

เมื่อถามจำนวนเป้าหมายผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า อาจมีอย่างน้อย ประมาณหลักร้อยคน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องเส้นทางการเงิน มีความเชื่อมโยงไปยังนักการเมืองท้องถิ่น กับขบวนการจัดฮั้วบ้างแต่จะเชื่อมโยงถึงระดับกก.บห.หรือไม่นั้น ยังไม่ถึงขนาดนั้น พบว่าเชื่อมโยงถึงกลุ่มคนใกล้ชิดของ กก.บห. เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. ยกคำร้อง 206 ผู้สมัคร สว. ระดับอำเภอ จ.อำนาจเจริญ เนื่องจาก ไม่พบเส้นเงิน จ้างลงสมัคร ขณะที่ทางนางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรค ภท. มีการบ่งชี้แล้วว่า ไม่มีการจัดฮั้ว อธิบดีดีเอสไอชี้แจงว่าเป็น คนละเหตุการณ์คนละส่วน และพยานหลักฐานก็คนละชุดกัน ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

คงต้องรอดูบทสรุป ในการสอบสวน เรื่องนี้ เพราะถือเป็นขั้นตอนใน การดำเนินคดีอาญา โดยเฉพาะหลักฐานเรื่องเส้นเงิน จะมีน้ำหนัก มากขนาดไหน

ส่วนอีกเรื่อง ที่เป็นปมร้อน เมื่อศาล รธน.มีการพิจารณาคำร้องที่ "นายภัณฑิล น่วมเจิม" สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) และสส. รวม 121 คน (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาล รธน.เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตาม รธน.มาตรา 144 วรรคสาม กรณี "นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภา คนที่หนึ่ง ผู้ถูกร้องเป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภา ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 โดยให้ผู้ถูกร้อง ยื่นคำชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายในวันจันทร์ที่ 21 ก.ค. นี้ ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และ ไต่สวนพยานบุคคล ในวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ค. เวลา 10.00 น. หากผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดี ให้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือภายในวันอังคารที่ 29 ก.ค. 2568 และศาล รธน. นัดแถลงด้วยวาจา และลงมติ ในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค. 2568 เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัยเวลา 15.00 น.เป็นต้นไป

ก่อนหน้านั้น "นายพริษฐ์ วัชรสินธุ" สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ออกมาเปิดโปงว่ามี “คำขอ” ปรับปรุงอาคารรัฐสภา โดยมีอย่างน้อย 15 โครงการที่ส่อมี มูลค่าสูงกว่า 2,773 ล้านบาท แบ่งเป็น 10 โครงการที่ได้รับการจัดสรร งบประมาณ 2569 โดย ครม. และอยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบฯ (ล้านบาท) รวม 956 ล้านบาท

1.ก่อสร้าง และปรับปรุงพื้นที่พิพิธภัณฑ์รัฐสภา (รวมค่าจ้างที่ปรึกษา) = 44 ล้านบาท

2.พัฒนาระบบภาพยนตร์ 4D ห้องบรรยายใหญ่ B1-2 = 180 ล้านบาท

3.ปรับปรุงไฟส่องสว่างเพิ่มเติม บริเวณห้องประชุมสัมมนาชั้น B1 และ B2 = 117 ล้านบาท

4.ปรับปรุงศาลาแก้ว 2 หลัง = 123 ล้านบาท

5.ปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ = 118 ล้านบาท

6.ปรับปรุงพื้นที่ครัวของอาคารรัฐสภา = 117 ล้านบาท

7.ติดตั้งภาพ และเสียงประจำห้องจัดเลี้ยง ชั้น B2 = 99 ล้านบาท

8.จัดซื้อจอ LED Display = 72 ล้านบาท

9.พัฒนาปรับปรุงพื้นที่ส่วนภูมิทัศน์ และผลิตปุ๋ยอินทรีย์ = 43 ล้านบาท

10. ปรับปรุงห้องจัดเลี้ยง ชั้น 1 โซน C = 43 ล้านบาท

ส่วน 5 โครงการ ที่หน่วยงานทำคำขอ แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2569 โดย ครม. (ล้านบาท) รวม 1,817 ล้านบาท

ก่อนหน้านั้นการจัดทำงบประมาณ ปรับปรุงอาคารรัฐสภา ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก เนื่องจากอาคารรัฐสภาเพิ่ง ก่อสร้างได้ไม่นาน ต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาล รธน. ซึ่งจะมีผลต่อสถานะของ "นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภา คนที่หนึ่ง

ทีมข่าวการเมือง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

วิเคราะห์ตลาดนักเตะซัมเมอร์กับ”เทรนด์”ที่เปลี่ยนไป-ซื้อเร็ว-จบเร็วแถมดีลใหญ่?

18 นาทีที่แล้ว

‘ภูมิธรรม’ สั่งการ ‘อธิบดีป้องกันบรรเทาสาธารณภัย’ เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ

19 นาทีที่แล้ว

นายกเหล่ากาชาดอยุธยา มอบสิ่งของเยียวยาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง

20 นาทีที่แล้ว

ลูกค้าโวย! พนักงานส่งของบริษัทเฟอร์นิเจอร์ดัง พูดจาไม่สุภาพ หลังขอเปลี่ยนสินค้าที่มีตำหนิ

20 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

เดือด ! "ภูมิธรรม" สั่งสอบ "สถ." ปมเอกสารแจง "งบกระตุ้นเศรษฐกิจ" หลุด ยันงบกระจุกจริง

สยามรัฐ

ป.ป.ช.แจ้งข้อหา 'พีระพันธ์ุ' คดีถุงยังชีพ ขีดเส้นมาแจง 15 วัน

กรุงเทพธุรกิจ

"สิริพงศ์" ย้อนแสบ! ผู้นำไทยเรียกผู้นำเขมร "Uncle" ถามกลับ ใครขายชาติกันแน่?

The Better

‘บิ๊กเล็ก’ รอผลตรวจทุ่นระเบิด ลั่น! หากเป็นของใหม่ ไม่หยุดนิ่งแน่

The Bangkok Insight

อิ๊งค์ ย้ำ 3 ทหาร-ครอบครัว กำลังใจดี ยัน รัฐบาลพร้อมหนุนเต็มที่ อุบตอบการเมือง

MATICHON ONLINE

“แพทองธาร” ย้ำเยี่ยม3ทหารบาดเจ็บในฐานะตัวแทนครม.

INN News

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดหน้ากระหน่ำฟาดภูมิใจไทย

เดลินิวส์

อุตุฯ ประกาศเตือนฉบับ 3 เปิดรายชื่อจังหวัดเจอ ‘ฝนถล่ม’ ลากยาว 6 วัน

เดลินิวส์

หนุ่มอินเดียหัวหมอออฟสาวบาร์กลับห้อง อ้าง ‘ไม่ตรงปก-หน้าอกเล็ก’ แจ้งตร.จับเฉย

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม