ว่าด้วย‘นักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ’
หนังสือพิมพ์รายวันยุคก่อนๆ เมื่อหลายต่อหลายสิบปีที่แล้ว…หรือตั้งแต่ยุคที่ยังไม่มี Fax ไม่มี Internet เลยต้องอาศัย Telex หรือระบบสื่อสารทางไกลแบบโทรเลข ติดตั้งเครื่องที่ออกจะใหญ่โต เทอะทะ พอสมควร เอาไว้ให้กับฝ่ายข่าวต่างประเทศ หรือที่เรียกๆ กันว่า โต๊ะข่าวต่างประเทศ ไว้รับข่าวด่วน ข่าวล่า-มาเรือ จากบรรดาพวกสำนักข่าวต่างประเทศที่ล้วนแล้วแต่เป็นสำนักข่าวตะวันตกซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่ารอยเตอร์ เอพี ยูพีไอ ฯลฯ และอะไรต่อมิอะไร เป็นต้น…
ไม่ว่าจะมีข่าวเล็ก ข่าวน้อย ข่าวใหญ่ ข่าวโต…เครื่อง Telex แต่ละเครื่อง มันจะเดินเครื่องชึ่กๆ ชั่กๆ ส่งเสียงดังพอๆ กับน้องๆ รถมอเตอร์ไซค์ ก่อให้เกิด บรรยากาศแห่งความเป็นหนังสือพิมพ์ ได้ไม่น้อยไปกว่าเสียงรัวพิมพ์ดีดไม่ว่าแบบชนิดข้าวตอกแตก หรือแบบดอกต้อยติ่งค่อยๆ ระเบิดออกมาทีละดอก-สองดอก ก็แล้วแต่จะว่ากันไป เครื่อง Telex กับหนังสือพิมพ์รายวันที่เน้นในเรื่องข่าวด่วน-ข่าวร้อน จึงเป็นอะไรที่แทบแยกกันไม่ออก แม้ว่าสิ่งที่เรียกว่า ข่าวต่างประเทศ นั้น อาจไม่ถึงกับมีบทบาท อิทธิพล ต่อความรู้สึก-นึกคิดของผู้คนเท่ากับ ข่าวในประเทศ มากมายซักเท่าไหร่…
อย่างไรก็ตาม…จะด้วยเหตุเพราะเครื่อง Telex หรือด้วยเหตุเพราะสำนักข่าวต่างประเทศโดยส่วนใหญ่ มักเป็น สำนักข่าวตะวันตก ก็ตามที มันเลยส่งผลให้พวก โต๊ะข่าวต่างประเทศ หรือจะเรียกว่า นักข่าวต่างประเทศ ของหนังสือพิมพ์บ้านเราก็คงพอได้ เลยออกจะหนักไปทาง นักแปล หรือ นักเรียบเรียง คือแค่ฉีกเอาข่าวจากเครื่อง Telex มาถ่ายทอดเป็นภาษาไทยแบบวรรคต่อวรรค คำต่อคำ หรือจะดัดแปลงข้อความให้ดูกระชับ ดูสละสลวยยิ่งขึ้น เพียงเท่านั้นก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิด ต้องวิเคราะห์ ต้องสังเคราะห์ ฯลฯ อะไรมาก สิ่งที่บรรดาผู้อ่านจะมีโอกาสได้รับรู้-รับทราบ ก็เลยกลายเป็นสิ่งที่ สำนักข่าวตะวันตก ต้องการให้รับรู้-รับฟัง กันไปตามนั้น…
โลกทั้งโลก…รวมทั้ง สังคมไทย เลยกลายเป็น โลกตะวันตก ไปอย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ โอกาสที่จะได้รับรู้สิ่งอันมีที่มาจากการคิด การวิเคราะห์ สังเคราะห์ การใคร่ครวญ พินิจพิจารณา โดยมีเหตุมีผลเป็นที่ตั้ง หรือมีความ ถูกต้อง-ชอบธรรม เป็นหลักยึด จึงเป็นอะไรที่…ยากส์ส์ส์เอามากๆ เพราะบรรดา นักข่าวต่างประเทศ ทั้งหลาย ท่านได้แปรสภาพตัวเองไปเป็น นักแปล ไปแล้วเป็นแถบๆ ฝรั่งว่าอะไร?…ท่านก็ว่าไปตามฝรั่งแบบชนิดวรรค-ต่อ-วรรค คำ-ต่อ-คำ แถมถ้าหากว่าไปตามฝรั่งได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ลอกฝรั่งได้ทุกวรรค ทุกคำพูด ก็ยิ่งเป็นอะไรที่ดูเก๋ ดูเท่ ดูดี ยิ่งขึ้นไปใหญ่…
แต่ครั้นเมื่อโลกใบเดียวกันนี้มันได้เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ Telex เท่านั้นที่ตกยุค ตกสมัย กระทั่ง Fax ยังน่าจะเหลืออยู่แค่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแต่เพียงเท่านั้น ขณะไอ้สิ่งที่เรียกว่า Internet มันได้เปลี่ยนโลกทั้งใบ ให้กลายเป็นโลกที่เชื่อมต่อ เชื่อมโยง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัย ฝรั่ง ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว อันนี้นี่แหละ…ที่มันน่าจะทำให้บรรดา ข่าวต่างประเทศ ทั้งหลาย นับจากยุคโน้นถึงยุคนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปแบบ คนละเรื่อง-คนละม้วน อย่างเห็นได้โดยชัดเจน และส่งผลให้นักข่าวต่างประเทศประเภทที่หนักไปทาง นักแปล-นักเรียบเรียง ทั้งหลาย เลยมีสภาพแทบไม่ต่างอะไรไปจาก Telex หรือ Fax นั่นเอง คือต่าง ตกยุค-ตกสมัย กันไปเป็นแถบๆ…
โดยเฉพาะช่วงที่เกิดข่าวด่วน-ข่าวร้อน ข่าวจริง-ข่าวปลอม แผ่กระสานซ่านเซ็นไปตามความสับสน-อลหม่านของโลกทั้งโลก อย่างเช่นการดวลจรวด ดวลโดรน ดวลระเบิด ฯลฯ ที่อุบัติขึ้นมาในแถบภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นต้นใคร? ที่ยังพยายามเงี่ยหูฟังข่าวคราวต่างๆ จากประเภท นักแปล-นักเรียบเรียง ก็เลยแทบไม่ต่างไปจากพวกที่ยังคิดจะอาศัย Fax อาศัย Telex เป็นเครื่องมือในการสื่อสารนั่นแหละ ต่างจากพวกที่หันมาอาศัย นักคิด-นักวิเคราะห์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะใช้ความรอบรู้ รอบด้าน ในการกลั่นกรองข่าวสารจาก สำนักข่าว ต่างๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะสำนักข่าวตะวันตกเท่านั้น แต่ยังได้พยายามนำเอาความสุขุม ลุ่มลึก ฉลาด ลึกซึ้ง แหลมคม เฉียบคม ฯลฯ มาใช้เป็นคำตอบ คำอธิบาย ต่อเหตุการณ์ความเป็นไปต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจ เอามากๆ…
อย่างเช่น นักคิด-นักวิเคราะห์ 3 ราย…ที่ต้องถือเป็น มือวางอันดับต้นๆ ของข่าวคราวต่างประเทศในช่วงระยะนี้ 2 รายแรกคือพี่-น้องตระกูล อารีย์ อย่าง ศราวุฒิ อารีย์ และ มาโนช อารีย์ ที่ดูเหมือนจะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง-แห่งใดก็ไม่ถึงกับแน่ใจ อีกรายคือ พลโทดอกเตอร์สมชาย วิรุฬหผล อดีตนายทหารประชาธิปไตย ที่แม้ว่าจะแก่แล้ว เกษียณแล้ว แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าอะไรจะเฉียบคม แม่นยำ ลึกซึ้ง ถึงแก่น ไม่ว่าในแง่ข้อมูล ข่าวสาร หรือข้อวิเคราะห์ สังเคราะห์ ที่ทั้งหนักแน่น ทั้งเป็นกลาง ทั้งมีวุฒิภาวะ สมกับที่เคยเป็นนายทหารผู้หลัก-ผู้ใหญ่มาก่อนหน้านี้ ใคร? ที่อยากจะรู้ว่าโลกมันจะเป็นไปในแบบไหน? แนวไหน? รวมทั้งคนไทย สังคมไทย ควรจะเป็นไปเช่นไร? คงต้องขออนุญาตเชิญชวน ให้ลองไปเอียงหูรับฟังในช่อง ยูทูบ อาจพอเกิดอาการ ตาสว่าง ขึ้นมาได้มั่ง.