ท่องเที่ยวสหรัฐฯ ซบเซากระทบหนัก ‘ค้าปลีก’ เสี่ยงฉุดเศรษฐกิจหดตัว
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
ซาคราเมนโต, 25 ก.ค. (ซินหัว) — รายงานจากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (BI) และทราเวล แอนด์ ทัวร์ เวิลด์ (TTW) ซึ่งเผยแพร่วันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) ระบุว่ากลุ่มผู้ค้าปลีกในเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังสูญเสียรายได้อย่างมากหลังจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลงอย่างรวดเร็ว โดยตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.47 แสนล้านบาท) ในปี 2025
แบรนด์หรูและเครือข่ายค้าปลีกชื่อดังตามมหานครศูนย์กลางอย่างนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส และชิคาโก ได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาเมืองเหล่านี้มักพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ใช้จ่ายหนักกับเสื้อผ้า อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าหรู โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าปลีกมองว่าสาเหตุมาจากหลายปัจจัยสำคัญ
ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในตลาดแหล่งนักท่องเที่ยวหลักได้ลดทอนกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างประเทศ กอปรกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องทำให้ความสามารถจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลง นำสู่การชอปปิงน้อยลงระหว่างเดินทางท่องเที่ยวสหรัฐฯ
ตัวอย่างเช่นมหานครนิวยอร์กมีแนวโน้มสูญเสียรายได้จากการค้าปลีกราว 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 แสนล้านบาท) ส่วนนครลอสแอนเจลิสอาจสูญเสียรายได้จากการค้าปลีกราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.47 หมื่นล้านบาท)
การสูญเสียรายได้เหล่านี้สะท้อนแนวโน้มการเดินทางระหว่างประเทศลดลง ซึ่งลดลงอย่างชัดเจนจากระดับสูงสุดก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ โดยทีมนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเตือนว่าแนวโน้มนี้อาจยืดขยายจนถึงปี 2026 เว้นแต่สภาพเศรษฐกิจโลกจะพัฒนาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะย่านการค้าปลีก โดยเฉพาะที่พึ่งพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างหนัก ประสบปัญหาลูกค้าเข้าร้านน้อยลงและยอดจำหน่ายซบเซา โดยร้านค้าตามถนนชื่อดังอย่างฟิฟธ์อเวนิวในนิวยอร์กและแมกนิฟิเซนต์ไมล์ในชิคาโกเผชิญภาวะซบเซารุนแรงที่สุด ส่วนแบรนด์หรูในย่านเหล่านี้มียอดจำหน่ายลดลงมากกว่าร้อยละ 15 เมื่อเทียบปีต่อปี
ส่วนรายได้จากภาษีการขายที่ลดลงและโอกาสจ้างงานที่น้อยลงในภาคค้าปลีกยังส่งผลกระทบต่องบประมาณระดับเมือง โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ประจำเมืองและผู้นำธุรกิจต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวเพิ่มขึ้นด้วย
เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ ผู้ค้าปลีกบางส่วนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปให้ความสำคัญกับลูกค้าภายในประเทศผ่านโครงการส่งเสริมการขายและสะสมแต้มเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในท้องถิ่น แต่ทีมนักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กมองว่ามาตรการเหล่านี้อาจไม่สามารถชดเชยการสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอย่างเต็มที่
ภาวะการค้าปลีกซบเซายังสร้างความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ซึ่งรายงานวิจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจ ปี 2025 ของสภาการท่องเที่ยวและการเดินทางโลก (WTTC) เมื่อเดือนพฤษภาคม คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลดลง 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.79 แสนล้านบาท) อาจทำให้เกิดการตกงาน 2.3 แสนอัตรา แรงงานเสียรายได้ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.28 แสนล้านบาท) และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัว 2.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.49 แสนล้านบาท)