ชื่นชมผลสำเร็จการสร้างสรรค์งิ้วหมิ่นจี้ว์–เส้นทางสี จิ้นผิง(190)
ชื่นชมผลสำเร็จการสร้างสรรค์งิ้วหมิ่นจี้ว์--เส้นทางสี จิ้นผิง(190)
วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 ในการประชุมที่เมืองฝูโจวจัดขึ้นเพื่อรำลึกวันครบรอบ 50 ปีการตีพิมพ์เผยแพร่ “คำปราศรัยของประธานเหมา เจ๋อตุงในที่ประชุมศิลปะและวรรณกรรม ณ เมืองเหยียนอาน” นายสี จิ้นผิงได้ชื่นชมโดยเน้นถึงผลสำเร็จของการสร้างสรรค์งิ้วหมิ่นจี้ว์ และเห็นว่า “งิ้วหมิ่นจี้ว์กำลังเปล่งประกายเจิดจรัสด้วยบทละครที่ดีและบทละครใหม่ๆ ทุกปี” เขายังเรียกร้องให้วรรณกรรมและศิลปะทุกประเภท “เรียนรู้จากงิ้วหมิ่นจี้ว์เรื่อง ‘งานเลี้ยงหงส์’”และมุ่งมั่นที่จะผลิตผลงานที่ทรงพลัง ดีเลิศ สำคัญ และเป็นชิ้นเอกมากยิ่งขึ้น”
ต่อจากเรื่อง “งานเลี้ยงหงส์” งิ้วหมิ่นจี้ว์เรื่อง “จิตวิญญาณแห่งศิลปะการวาดภาพ” ก็ได้คว้ารางวัลสำคัญหลายรางวัลติดต่อกัน เช่น รางวัลการสร้างสรรค์บทละครยอดเยี่ยมแห่งชาติครั้งที่ 6 เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1992 ซึ่งนายสี จิ้นผิงได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีเป็นพิเศษ ทางการเมืองฝูโจวก็ได้เผยแพร่เอกสารประกาศเชิดชูเกียรติโดยเฉพาะพร้อมมอบรางวัลใหญ่ให้กับผู้สร้างสรรค์ทั้งสองคน คือ อู๋ หย่งอี้ และเถา หมิ่นหรง เป็นเงินคนละ 5,000 หยวน,คว้า “รางวัลบทละครใหม่เหวินหวา” แห่งชาติครั้งที่ 3 เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1993 และในเดือนมิถุนายนของปีเดียวกันนั้น ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล“โครงการทั้งห้าประเภท”ของฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
วันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและทางการเมืองฝูโจวได้จัดการประชุมสัมมนาพิเศษเกี่ยวกับการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรม นายสี จิ้นผิงยืนยันว่า “ในแง่ของการสร้างสรรค์และการแสดงงิ้วหมิ่นจี้ว์นั้น ได้บรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูงิ้วหมิ่นจี้ว์ในขั้นแรกแล้ว”
ทว่า แม้เป้าหมาย “มีเรื่องยอดเยี่ยมทุกปี มีเรื่องใหม่ทุกปี” สำหรับงิ้วหมิ่นจี้ว์ได้สำเร็จลุล่วงตามกำหนด แต่บรรดาผู้ทำงานงิ้วหมิ่นจี้ว์ต่างก็รู้ดีว่า “หน้าตา” ที่ดูดีนี้ไม่อาจปกปิด “ภายใน” ที่ยากลำบากได้ เพราะคณะงิ้วหมิ่นจี้ว์ในเวลานั้นยังไม่มีรายได้ที่แน่นอน การนำเข้าบุคลากรเป็นเรื่องยาก และสถานที่ฝึกซ้อมและจัดการแสดงก็ไม่เพียงพอ
นางหลิน อ้ายจือ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการประจำและผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองฝูโจวเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เธอเล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ตามนโยบายในขณะนั้น คณะวรรณกรรมและศิลปะทั้งสี่คณะในฝูโจว ซึ่งได้แก่ คณะงิ้วหมิ่นจี้ว์ที่หนึ่ง คณะงิ้วหมิ่นจี้ว์ที่สอง คณะร้องเพลงและเต้นรำ และคณะศิลปะพื้นบ้านนั้น จะได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่าย โดยคณะต่างๆ จะต้องหารายได้เองอีก 60 เปอร์เซ็นต์
“หลังจากสังเกตดูแล้วพบว่า พวกเขาไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ด้วยวิธีนี้! เนื่องจากคณะเหล่านี้มีหน้าที่รับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์ของเมือง แล้วพวกเขาจะเอาเวลาที่ไหนไปหา 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้?” นางหลิน อ้ายจือ กล่าว
เนื่องด้วยคณะแสดงงิ้วมักจะ “ไม่สามารถหาเลี้ยงชีพได้” ตลอดทั้งปี จึงจำเป็นต้องรับจัดการแสดงพื้นบ้านบ้างเพื่อหารายได้ เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะขัดแย้งกับการแสดงที่จัดโดยเมือง ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินภารกิจประชาสัมพันธ์ประจำปีให้เสร็จสมบูรณ์ได้
นางหลิน อ้ายจื้อ เคยตกที่นั่งลำบากบ่อยครั้ง เธอกล่าวว่า “มีอยู่สองครั้งที่ฉันโทรหาหัวหน้าคณะเพื่อขอให้พวกเขารีบนำคณะนักแสดงกลับมาทำภารกิจของเมืองให้เสร็จ แต่หัวหน้าคณะบอกว่า ‘ท่านผู้อำนวยการ ขออภัย เรากลับไปไม่ได้ เราทำการแสดงตามสัญญาที่ทำไว้กับพวกเขาไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เราจะกลับไปได้อย่างไร?’”
นี่คือความจริง นายหวง เจ๋อหลิน หัวหน้าคณะที่หนึ่งของสถาบันงิ้วหมิ่นจี้ว์เมืองฝูโจวในขณะนั้นกล่าวว่า “เวลานั้น หลังจากที่ ‘งบอุดหนุนรายหัว’ ซึ่งเดิมจัดสรรโดยรัฐบาลถูกตัด คณะของเราก็ไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้และเป็นหนี้กว่า 100,000 หยวน เมื่อไม่มีเงิน เราจะมีกำลังใจในการปลูกฝังบุคลากรและอุทิศตนให้กับการสร้างสรรค์ได้อย่างไร?”
เพื่อแก้ไขปัญหาความยากลำบากที่คณะศิลปะระดับรากหญ้าต้องเผชิญ นางหลิน อ้ายจื้อได้เสนอแนวคิดหลังสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัย โดยเสนอให้การคลังรับประกัน “กับข้าวสี่จานและซุปหนึ่งถ้วย” (หมายถึง เงินเดือนขั้นพื้นฐาน) หากคณะต้องการ “กับข้าวเพิ่มอีกหนึ่งจาน" หรือ "ดื่มซุปเพิ่มอีกหนึ่งถ้วย" พวกเขาสามารถหารายได้เองได้ภายใต้เงื่อนไขพวกเขาต้องทำภารกิจประชาสัมพันธ์ของเมืองให้สำเร็จ เธอได้จัดทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับแนวคิดนี้เสนอต่อนายสี จิ้นผิง ซึ่งให้ความสำคัญกับแนวคิดนี้มาก ทั้งยังได้ทำการสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัยเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
วันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 ได้มีการจัดสัมมนาผลการสำรวจข้อมูลประกอบการวิจัย ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็น “การยังชีพ” ของงิ้วหมิ่นจี้ว์เมืองฝูโจว
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(CMG)
ติดตามตอนก่อนหน้าได้ที่