“เยอรมนี” กดดัน “สหรัฐ” ขอระบบโควตาเหล็กในดีลการค้า หวังบรรเทาภาระภาษี 50%
"เยอรมนี" กดดัน "สหรัฐ" ขอระบบโควตาเหล็กในดีลการค้า หวังบรรเทาภาระภาษี 50% แม้ EU บรรลุข้อตกลงรอบแรกกับรัฐบาลทรัมป์แล้ว รมว.คลังเยอรมันเตรียมเร่งเจรจาให้ได้ข้อยุติในไม่กี่วันข้างหน้า
วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายลาร์ส คลิงไบล์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนีเตรียมผลักดันให้มีระบบโควตาการส่งออกเหล็ก รวมอยู่ในข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับสหรัฐระหว่างการประชุมกับรัฐมนตรีคลังสหรัฐ นายสก็อตต์ เบสเซนต์ ในวันจันทร์ (4 ส.ค.68) โดยให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Deutschlandfunk
“ตอนนี้มีการพูดคุยถึงระบบโควตาเหล็ก และมันคงจะเป็นเรื่องดีหากเรามีระบบนี้” คลิงไบล์กล่าว ก่อนออกเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน
เขาเผยว่ายังมีหลายบทในข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับสหรัฐที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยเหล็กเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานของเยอรมนี
“ผมจะทดสอบดูว่าสหรัฐพร้อมจะก้าวไปข้างหน้าในระดับใด และแนวทางการแก้ปัญหาจะเป็นอย่างไร” คลิงไบล์กล่าว แม้เขาจะย้ำว่าสหภาพยุโรปเป็นฝ่ายรับผิดชอบการเจรจาโดยตรง
ข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับรัฐบาลทรัมป์ที่บรรลุเมื่อเดือนกรกฎาคม ได้รับทั้งเสียงชื่นชมและเสียงวิพากษ์ โดยมีการกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ที่ 15% แต่ยังคงเปิดโต๊ะเจรจาต่อในบางภาคส่วน เช่น เหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งยังถูกเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 50%
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฟรีดริช เมิร์ตซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เปิดเผยว่าสหภาพยุโรปจะเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ เพิ่มเติมในประเด็นเหล็ก โดยเน้นให้มีระบบโควตาที่เอื้อให้สามารถส่งออกได้โดยไม่ถูกเก็บภาษีสูงเกินไป
นอกจากนี้นายคลิงไบล์ยังเรียกร้องให้มีการสรุปรายละเอียดที่ยังค้างอยู่ในข้อพิพาททางการค้าโดยเร็ว รวมถึงการลงทุนที่สหภาพยุโรปให้คำมั่นไว้ และการดำเนินความร่วมมือในภาคพลังงาน เรื่องเหล่านี้ควรจะได้ข้อสรุปภายในไม่กี่วันข้างหน้า
อ้างอิง : reuters.com