เปิดคำทำนายกัมพูชาเข้าสู่ยุคแห่งไฟ "ครึ่งปีแรกจะเผชิญกับผันผวนจากภายนอก ครึ่งปีหลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่"
เมื่อเดือนพฤาภาคมที่ผ่านมา หลี่ซวี่ (李旭) ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยชาวมาเลเซียผู้มากประสบการณ์ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ภาษาจีน "กัมพูชาจีนรายวัน" 《柬华日报》 ในกรุงพนมเปญเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยประสบการณ์ด้านฮวงจุ้ยกว่า 20 ปี หลี่ซู กล่าวว่า ปี พ.ศ. 2568 โลกจะเข้าสู่ “ยุคเก้า” (九运时代) ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง และกัมพูชาจะประสบกับโชคลาภอันโดดเด่นที่ “ดินอุดมสมบูรณ์ก่อให้เกิดทองคำ”
ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยชี้ว่า กัมพูชามีศักยภาพในการพัฒนาการเกษตร และบอกว่า “แผ่นดินนี้เปี่ยมไปด้วยพลังแห่ง ‘คลังสมบัติสีเขียว’ หากมีการวางแผนทรัพยากรการเกษตรอย่างเป็นระบบ ก็อาจกลายเป็นศูนย์กลางใหม่สำหรับเศรษฐกิจในภูมิภาคในอนาคตได้”
อย่างไรก็ตาม หลี่ซวี่ กล่าวว่า กัมพูชาจะเผชิญกับความผันผวนภายนอกที่อาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ต่อมา หลี่ซวี่ ให้สัมภาษณ์กับ Khmer Times สื่อภาษาอังกฤษของกัมพูชาว่า กัมพูชาใช้เวลา 20 ปีที่ผ่านมามุ่งเน้นไปที่การสร้างความมั่งคั่งเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568 ถึง พ.ศ. 2586 ประเทศกัมพูชาจะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “ช่วงเวลาแห่งไฟ” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อารมณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและปัญหาสุขภาพจิตที่เพิ่มมากขึ้น
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยแนะนำให้ชาวกัมพูชาปรับใช้กรอบความคิดที่เน้นการตระหนักรู้ทางอารมณ์และความหลงใหลในตนเอง
ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยหลี่ซวี่ยังได้เน้นย้ำถึงผังเมืองที่วางแผนไว้อย่างดีของกรุงพนมเปญ โดยระบุว่าการออกแบบเมืองส่งเสริมพลังงานบวกและมีศักยภาพสูงในการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ในด้านเศรษฐกิจ อาจารย์หลี่ซวี่แนะนำให้ผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ในกัมพูชาทบทวนกลยุทธ์และยกระดับรูปแบบธุรกิจของตน และแนะนำว่าการปรับโครงสร้างภายใน การสำรวจตลาดใหม่ และความเต็มใจที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรม ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ โดยเขาเชื่อว่าทั้งธุรกิจและบุคคลต้องมีความใส่ใจและปรับตัวอยู่เสมอ
ในขณะที่สำนักวิชาฮวงจุ้ยหยางไจ๋ (陽宅風水講座) ชี้ว่า "ในกัมพูชามีทะเลสาบขนาดใหญ่นั้น ดูจากแผนที่แล้ว มันกว้างใหญ่ไพศาลราวกับหัวใจ ดังนั้น กัมพูชาจะเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทางตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้"
ทั้งนี้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชาเป็นที่ตั้งของเมืองสีหนุวิลส์และด้านตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ตั้งของเมืองบาเวต ซึ่งทั้งสองเมืองเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสแกมเมอร์ คาสิโน และแหล่งธุรกิจสีเทาที่ใหญ่โตของประเทศ
สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นประเด็นร้อนในช่วงที่ผ่านมาในกัมพูชา ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยหลี่ซวี่เสนอแนวคิดว่ากัมพูชาจะ "ต้องเลือกเวลา สถานที่ และผู้คนที่เหมาะสม" เขาเชื่อว่าแหล่งท่องเที่ยวของกัมพูชามีศักยภาพที่จะเป็น "คนดังทางอินเทอร์เน็ต" ได้ แต่จำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพด้าน soft power
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่เดินทางมายังกัมพูชาคือคนไทย แต่หลังจากการปะทะกันทางทหารของสองประเทศ อาจมีปัญหาเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวจากไทยที่จะลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ กัมพูชายังถูกกล่าวหาจากไทยว่าแอบอ้างใช้ soft power ไปเป็นของตนเองเพื่อหวังผลเรื่องชื่อเสียงในเวทีโลก ในขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่อีกส่วนมาจากจีน ซึ่งอานจะลดลงอย่างมากเช่นกัน เพราะความกังวลเรื่องการสแกมเมอร์ และการเปลี่ยนท่าทีของรัฐบาลกัมพูชาที่เปลี่ยนไปขอความสนับสนุนจากสหรัฐฯ แทนที่จีน
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - TOPSHOT - นักท่องเที่ยวรวมตัวกันหน้าสระน้ำขณะรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่กลุ่มปราสาทนครวัด ในจังหวัดเสียมราฐ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 (ภาพโดย TANG CHHIN Sothy / AFP)