กรมพัฒนาสังคมฯ แจ้งจับ “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำเขตนิคมฯ แถมข่มขู่เจ้าหน้าที่
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ผู้รับมอบอำนาจจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ตรวจสอบรีสอร์ทของ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ จอนนี่ มือปราบ ที่มีการสร้างรีสอร์ทในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี โดยบุกรุกประมาณ 1 ไร่ขึ้นไป ซึ่งทางกรมพัฒนาที่ดินได้ส่งหนังสือเตือนไปเมื่อปี 2565 แล้ว
นายวัชระ กล่าวว่า เบื้องต้นไม่ทราบว่า จอนนี่ มือปราบ ได้ที่ดินจุดดังกล่าวไปได้อย่างไร แต่ที่ดินตรงส่วนนี้ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และรีสอร์ทดังกล่าวเริ่มก่อสร้างในปี 64 ต่อมาทางกรมฯ ได้มีการลงบันทึกประจำวัน และมีหนังสือเตือน ออกโดยผู้ว่าราชการจังหวัดให้หยุดระงับในปี 65 ทั้งนี้ได้มีการชี้แจงจากทั้งเจ้าหน้าที่ และ จอนนี่ มือปราบ แต่การพูดคุยไม่ลงตัว ทั้งนี้ จอนนี่ มือปราบ ยังมีการข่มขู่ โวยวายเจ้าหน้าที่ในนิคม และไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่รีสอร์ท
ทั้งนี้ นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ 24,675 ไร่ มีวัตถุประสงค์ของนิคมมีขึ้นเพื่อให้ประชาชนมีเคหสถานในการประกอบอาชีพอย่างมั่นคง ซึ่งการที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินของนิคม จะต้องได้รับการอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
นายวัชระ กล่าวอีกว่า การจะนำที่ดินไปออกเอกสารสิทธิในที่ดินใดๆ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการก่อนเช่นกัน จึงจะนำหนังสืออนุญาตไปขอออกเอกสารสิทธิได้ แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ทางกรมฯ ไม่เคยให้อนุญาตใดๆ กับบุคคลดังกล่าว ดังนั้นก็ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิหรือโฉนดที่ดินใดๆ ได้อย่างถูกต้อง และเมื่อไม่มีเอกสารสิทธิ หรือโฉนด ก็ไม่สามารถซื้อขายได้ ดังนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว ซื้อที่ดินมาได้อย่างไร เพราะตนเองก็ยังไม่เห็น
พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.บก.ปทส. เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ "จอนนี่ มือปราบ" ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าที่ถูกกันไว้ 20% ของนิคมลำโดมน้อย ตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ ตามมาตรา 15 และหลังจากนี้ บก.ปทส. ก็จะไปตรวจสอบกับตำรวจท้องที่ว่าเคยมีการร้องทุกข์เป็นคดีไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้ามี ตำรวจ บก.ปทส. ก็จะดึงสำนวนมาสอบสวนเอง แต่ถ้ายังไม่เคยมีการร้องทุกข์กล่าวโทษมาก่อน บก.ปทส. ก็จะรับดำเนินการสอบสวนทันที และหลังจากนี้ก็จะร่วมกับกรมพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ว่าเป็นพื้นที่บุกรุกจำนวนเท่าใด ก่อสร้างอะไรไปบ้าง หรือกระทำผิดกฎหมายใดบ้าง ซึ่งจะต้องสืบสวนไปตั้งแต่ต้นว่าพื้นที่ตรงนี้เริ่มต้นจากอะไร มีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศที่จะทำให้ทราบว่าเริ่มมีการรุกล้ำที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ รวมถึงอาจสอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ด้วย
ส่วน จอนนี่ มือปราบ ก็ต้องเรียกสอบปากคำด้วย และในวันที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ หาก จอนนี่ มือปราบ อยากชี้แจง ก็พร้อมจะรับฟัง แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ ก็จะต้องใช้หมายค้นเข้าตรวจสอบรีสอร์ทดังกล่าว โดยหลังรับลงบันทึกประจำวันแล้ว จอนนี่ มือปราบ ก็สามารถส่งหนังสือชี้แจงมาก่อนได้ พร้อมยืนยันว่าตำรวจจะให้ความยุติธรรม และรับฟังทั้ง 2 ฝ่าย