กรมพัฒนาสังคมฯ เอาผิด “จอนนี่มือปราบ” สร้างรีสอร์ตรุกที่ดิน เจ้าตัวโร่แจ้งความกลับ

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ผู้รับมอบอำนาจจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อเอาผิดนายยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่ มือปราบ" กรณีสร้างรีสอร์ตรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

นายวัชระเปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ ได้รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยพื้นที่ที่ถูกรุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ เป็นส่วนที่นิคมจัดสรรไว้เป็น ป่าไม้ส่วนกลาง 20% และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ตมาตั้งแต่ปี 2564 ทางกรมฯ ได้มีการลงบันทึกประจำวันและออกหนังสือให้ระงับการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ตกลับไม่ให้ความร่วมมือ ซ้ำยังมีการโวยวายและข่มขู่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่รีสอร์ต

นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยมีพื้นที่ตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมฯ ชัดเจนที่ 24,675 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนมีเคหสถานและประกอบอาชีพที่มั่นคง การทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมจะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการก่อนเท่านั้น จึงจะสามารถนำไปขอออกเอกสารสิทธิ์ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น กรมฯ ไม่เคยอนุญาตให้บุคคลดังกล่าวทำประโยชน์ใดๆ ในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินได้อย่างถูกต้อง และไม่สามารถซื้อขายได้ นายวัชระจึงตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าของรีสอร์ตซื้อที่ดินมาได้อย่างไรเนื่องจากยังไม่เห็นหลักฐานการซื้อขาย

พลตำรวจตรีวัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการ บก.ปทส. เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับ "จอนนี่ มือปราบ" ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าที่ถูกกันไว้ 20% ของนิคมลำโดมน้อย ตามมาตรา 15 ของ พ.ร.บ. จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ หลังจากนี้ บก.ปทส. จะตรวจสอบกับตำรวจท้องที่ว่ามีการร้องทุกข์เป็นคดีไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ หากมีจะดึงสำนวนมาสอบสวนเอง แต่หากยังไม่มีจะรับดำเนินการสอบสวนทันที

ทาง บก.ปทส. จะร่วมกับกรมพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่บุกรุก จำนวนพื้นที่ที่ถูกรุกล้ำ สิ่งก่อสร้างที่ผิดกฎหมาย และสืบสวนตั้งแต่ต้นทางว่าเริ่มมีการรุกล้ำที่ดินตั้งแต่เมื่อใด โดยจะตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศและสอบถามข้อมูลจากกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ด้วย

ผู้บังคับการ บก.ปทส. ระบุว่า จะมีการเรียก "จอนนี่ มือปราบ" เข้าให้ปากคำด้วย และในวันที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ หากเจ้าตัวต้องการชี้แจง ก็พร้อมรับฟัง แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ จะใช้หมายค้นเข้าตรวจสอบรีสอร์ตดังกล่าว หรือสามารถส่งหนังสือชี้แจงหลังตำรวจรับเรื่องร้องทุกข์ในวันนี้ก็ได้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความยุติธรรมและรับฟังข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาต่อมา “จอนนี่มือปราบ” ได้โพสต์ถึงเรื่องนี้ โดยช่วงหนึ่งระบุว่า "ร้องตรวจสอบรีสอร์ตของผม ผมยินดีมากๆ หากรีสอร์ตผมผิด ก็รื้อของผมได้เลย ผมนักเลงพอ แต่ผมเชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ ผมประกอบการแบบถูกต้องทุกอย่าง มีคนพาทำก่อน ผมถึงไปลงทุนทำ ผมไม่โง่ที่จะไปบุกรุกที่ดินขนาดนั้น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านในพื้นที่ก็รับรองถูกต้อง ที่ดินของผมก็ซื้อขายตกทอด ผมเป็นเจ้าที่ 8 ด้วยซ้ำ เพียงแต่รัฐไม่เคยคิดจะออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านกันเลยไง นี่คือปัญหาหลัก เพราะบ้าน วัด โรงเรียน เขาตั้งมาก่อนกรมของคุณ"

พร้อมแจ้งความกลับ นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ, นายวัชระ โกเสนตอ นักวิชาการกรมที่ไปแจ้งความเมื่อเช้า และนางจันที ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย อำเภอสิรินธร ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง และข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ และจะให้ทีมทนายฟ้องส่วนตัว ร้อง ไปยัง ป.ป.ช. ป.ป.ท.อีก