โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

มัดรวมปัญหาทุกแง่มุมของ SHEIN แบรนด์ ‘อัลตร้าฟาสต์แฟชั่น’ ที่ทั้งทำร้ายโลก กดขี่แรงงาน เอาเปรียบผู้บริโภค แต่ยังขายดีเพราะบางคนก็ไม่แคร์

Mirror Thailand

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

เป็นเรื่องราวดีๆ เลยล่ะ เมื่ออิลฟลูเอนเซอร์สายแฟฯ ที่กำลังมาแรงแห่งปีอย่าง ‘ม๊าเดี่ยว’ อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ สร้างประโยคฮิตอย่าง “พลิกออกมาดูสิ ผู้หญิงข้างในน่ะ!” ที่กลายเป็นมีมและชวนให้หลายคนรู้สึกเขินหน่อยๆ กับการสนับสนุนแบรนด์อัลตร้าฟาสต์แฟชั่น อย่าง SHEIN ที่มาพร้อมราคาถูกสุดขีดและการตอบรับเทรนด์ได้เร็วเกินคาดฝันจนสามารถ disrupt แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นเจ้าเดิมๆ อย่าง H&M หรือ ZARA กันได้เลย

และความอันตรายของแบรนด์อัลตร้าฟาสต์แฟชั่น (รวมถึงแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่มีมานาน) ก็เป็นสิ่งที่หลายคนควรตระหนักกันให้มากขึ้น เพราะแม้ที่ผ่านมาจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาของแบรนด์เหล่านี้ แต่ด้วยราคาที่ดึงดูดใจก็ทำให้หลายคนเลือกจะปิดตาข้างหนึ่งหรือไม่แคร์ปัญหาเหล่านั้นไปเลยเพราะรู้สึกว่ามัน “ไม่เกี่ยวกับฉัน” ซึ่งปัญหาของแบรนด์เหล่านี้ไม่ได้อยู่ตรงที่การบ่งบอกสถานะว่าการเงินของใครจำกัด แต่อยู่ตรง ‘ที่มา’ ของราคาที่ถูกจัดๆ ความรวดเร็ว และการผลิตในปริมาณมหาศาล ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตแรงงานไป สิ่งแวดล้อมโลก และตัวของผู้บริโภคเอง

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกๆ ที่นำร่องการออกกฎหมายต่อต้านสินค้าอัลตร้าฟาสต์แฟชั่นอย่างจริงจัง ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือ SHEIN ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจะปรับเงินผู้ผลิตสินค้าฟาสต์แฟชั่นเป็นเงิน 5 ยูโรต่อ 1 ชิ้น แบนการยิงแอดหรือเผยแพร่โฆษณาตามหน้าสื่อ รวมถึงกำหนดโทษให้อินฟลูเอนเซอร์ที่รับงานโปรโมทแบรนด์เหล่านี้จะต้องถูกปรับด้วย

และโอกาสนี้เราก็เลยอยากชวนทุกคนมาดูปัญหาของแบรนด์อัลตร้าฟาสต์แฟชั่นกันอีกสักหน่อย ว่ามันมีแง่มุมที่ไม่น่าสนับสนุนเพราะอะไร ไม่ดีต่อโลกอย่างไร เผื่อจะทำให้หลายคนลดการสนับสนุนได้บ้าง เพราะแม้มันจะราคาถูกและซื้อได้ง่ายมาก แต่ถ้าดูจากปัญหาและผลกระทบต่างๆ แล้ว อาจไม่คุ้มกันเลย ไม่นับว่าคุณภาพของสินค้าบางชิ้นก็ไม่คุ้มกับเงินที่คุณเองจ่ายไปด้วย ดังนั้นแม้งบประมาณเราจะมีจำกัด แต่การโฟกัสที่ความจำเป็นหรือมองหาทางเลือกเช่นเสื้อผ้ามือสอง ก็ยังอาจจะดีกว่าไปเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอัลตร้าฟาสต์แฟชั่นที่กำลังทำร้ายโลกเราอยู่ตลอดเวลาก็ได้

1. แบรนด์ยิ่งโต โลกยิ่งเละ เพราะปล่อยมลพิษสูงขึ้นทุกปี

ขณะที่อุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่นสร้างมลพิษสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากอุตสาหกรรมอาหารและการก่อสร้าง และผู้เล่นที่ปล่อยมลพิษสูงที่สุดในอุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่น ณ เวลานี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก SHEIN ที่ผลิตสินค้าจำนวนมหาศาล และยิ่งแบรนด์เติบโตขึ้น ก็ยิ่งผลิตมากขึ้นและอัตราการปล่อยมลพิษก็ยิ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยในปี 2023 SHEIN ปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปทั้งหมด 16.7 ล้านเมตริกตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าประเทศขนาดเล็กบางประเทศด้วยซ้ำ

ตัวเลขจากปี 2024 ยังระบุว่า แบรนด์ทำรายได้สูงขึ้น 43% และปล่อยก๊าซพิษสูงขึ้นกว่า 80% ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นตลอดทุกๆ ปี และแม้ทางแบรนด์จะออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะลดการก่อมลพิษให้ได้ 25% ภายในปี 2030 แต่จากรายงานต่างๆ เรายังแทบไม่เห็นแนวโน้มที่ว่านี้เลย

2. แรงงานถูกกดขี่ เพื่อให้เราได้ซื้อในราคาถูก และแบรนด์รวยเป็นล้านล้าน

SHEIN มีมูลค่าแบรนด์อยู่ที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็คือราวๆ 1 ล้านล้านบาท แต่คนที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเหล่าผู้บริหาร ขณะที่แรงงานจากกว่า 6,000 โรงงานในจีน ถูกบีบให้ทำงานอย่างหนักสัปดาห์ละ 75 ชั่วโมงแต่กลับได้ค่าแรงต่ำกว่ามาตรฐาน จากการเปิดเผยของ bbc ยังระบุว่า มีแรงงานที่ต้องทำงานโดยไม่มีวันหยุด ซึ่งนับเป็นการละเมิดกฎหมายแรงงานของประเทศจีน แต่ดูเหมือนว่ากฎหมายนี้จะไม่มีผลกับ SHEIN ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์ ชนกลุ่มน้อยในพื้นที่แถบซินเจียงซึ่งไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ จากรัฐจีนอีกด้วย

อีกแบรนด์ที่มีปัญหาเรื่องการกดขี่แรงงานในระดับใกล้ๆ กันก็คือ Temu ทางด้านแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นอื่นๆ กว่า 89% ทั่วโลก ก็พบว่าไม่ได้จ่ายค่าแรงในระดับที่เพียงพอต่อการดำรงชีพเช่นกัน

3. สร้างขยะมหาศาล จากการเพิ่มสินค้าใหม่วันละ 2,000-10,000 รายการ

มีการตรวจสอบในปี 2021 โดยเว็บไซต์ Rest of World ที่พบว่า SHEIN เพิ่มรายการสินค้าใหม่สูงถึงวันละ 2,000-10,000 รายการ ในช่วงเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม ซึ่งนับเป็นจำนวนที่สูงมากจนน่าตกใจ และนอกจากเป็นการกดขี่แรงงานและมลพิษจากกระบวนการผลิตและขนส่งแล้ว ยังส่งผลต่อปริมาณขยะเสื้อผ้าซึ่งโดยในแต่ละปี มีการทิ้งขยะเสื้อผ้ากว่า 92 ล้านตันทั่วโลก ถูกนำมารีไซเคิลเพียง 15 %

ดังนั้น การอัดจำนวนสินค้า (ที่คุณภาพไม่ดีนักและมีอายุการใช้งานสั้น) เข้าสู่ตลาด ก็เท่ากับการเพิ่มขยะให้สูงขึ้นโดยใช่เหตุ ทั้งจากของที่คนซื้อแล้วทิ้งหลังจากใส่เพียงไม่กี่ครั้ง หรือของที่ขายไม่ออกและต้องโละทิ้งเพราะหลุดเทรนด์ไปแล้ว ซึ่งคนที่เข็นเทรนด์ใหม่ออกมาไล่เทรนด์เก่าได้ทุกวี่วันก็คือตัวเองแบรนด์อัลตร้าฟาสต์แฟชั่นนี่เอง

4. ก๊อปปี้หมดไม่สนแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่

แบรนด์เล็กๆ รวมถึงดีไซเนอร์อิสระในหลายๆ ประเทศพบว่าสินค้าของตนถูก SHEIN ก็อปปี้ไปแบบเหมือนเป๊ะๆ และขายในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งทำให้พวกเขาต้องสูญเสียรายได้ จนทำให้ในปี 2023 มีกลุ่มดีไซเนอร์อิสระในนาม RICO ยื่นฟ้อง SHEIN เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งจนถึงตอนนี้คดีก็ยังไม่จบสิ้นลง

5. สินค้าคุณภาพย่ำแย่ ทั้งยังปนเปื้อนสารเคมี

ผู้บริโภคหลายคนพบว่าเสื้อผ้าจาก SHEIN นั้นไม่สามารถใส่ได้นานนัก และที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือการปนเปื้อนสารเคมี โดยมีรายงานจากองค์กรกรีนพีซประเทศเยอรมัน ที่ทดสอบสินค้าจาก SHEIN กว่า 47 รายการ พบว่า 15% มีสารเคมีอันตรายซึ่ง 5 รายการในจำนวนนี้ มีสารเคมีอันตรายทะลุขีดจำกัดกว่า 100% ขณะที่อีก 32% มีสารเคมีอันตรายในระดับที่น่ากังวล

6. หลอกล่อผู้บริโภคด้วย ‘ส่วนลดปลอมๆ’ และราคาตั้งต้นที่ไม่มีอยู่จริง

วิธีขายของ SHEIN ก็เป็นปัญหาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน เพราะแบรนด์ต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อของใหม่ๆ อยู่เสมอ ทั้งที่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ ซึ่งสหภาพยุโรปได้มีการตรวจสอบในช่วงเดือนพฤษภาคม 2025 และพบว่ามีทั้งการใช้ส่วนลดปลอมๆ หรือใส่ราคาตั้งต้นก่อนลดที่เกินความเป็นจริง หรือระบุเดดไลน์ปลอมๆ เพื่อกดดันให้คนตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น ทั้งยังเต็มไปด้วยความไม่โปร่งใส ให้ข้อมูลที่ชวนให้เข้าใจผิด ไม่สามารถตรวจสอบถึงที่มาหรือแหล่งผลิตของสินค้าได้ นั่นจึงทำให้ EU ตั้งใจจะหามาตรการลดการสนับสนุนสินค้าจาก SHEIN ในยุโรปด้วยเช่นกัน

อ้างอิง

https://yaleclimateconnections.org/2024/09/shein-is-officially-the-biggest-polluter-in-fast-fashion-ai-is-making-things-worse/#:~:text=Although%20estimates%20vary%2C%20a%20new,price%20tag%20of%20roughly%20$10.

https://esgnews.com/france-targets-ultra-fast-fashion-with-eco-tax-ad-ban-and-transparency-rules/#:~:text=France%20has%20passed%20sweeping%20legislation,Circularity%20Manager%20at%20SHL%20Medical.

https://sustainabilitymag.com/articles/what-is-the-real-cost-of-sheins-15-outfits

https://earth.org/fast-fashion-giant-sheins-emissions-balloon-in-2024/#:~:text=The%20rapidly%2Dgrowing%20Chinese%20giant,vehicles%20driven%20for%20one%20year.

https://time.com/6247732/shein-climate-change-labor-fashion/

https://www.bbc.com/news/articles/cdrylgvr77jo

https://www.bbc.com/news/articles/c62vq1mnndno

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Mirror Thailand

สำรวจตัวละครแซฟฟิกใน Girl’s Love ไทย จาก Rocket Media Lab เมื่อปัญหาไม่ใช่ความ ‘ไม่แน่ใจ’ ในอัตลักษณ์ทางเพศ แต่คือการคัดง้างกับกรอบความเป็น ลูกสาว แม่ และภรรยา

1 วันที่แล้ว

“จะทําอย่างไรให้เศษอวนที่สร้างปัญหาต่อสัตว์ทะเลกลายเป็นวัสดุที่ ‘โลก’ ต้องรักษา” Aqua-R-Us คอลเล็กชันใหม่จาก PIPATCHARA เก็บขยะ ‘แหอวน’ ใต้ทะเล มาสร้างชุด Ready-to-Wear เพื่อสะท้อนปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราควรให้ความสำคัญ

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

SF ชวนต้อนรับการกลับมาของตำนานซูเปอร์ฮีโร่ที่โลกต้องจับตา! ในภาพยนตร์ “Superman (ซูเปอร์แมน)”

Insight Daily

Café Amazon ดันฮีโร่ Product ใหม่ “อเมซอน พรีเมียม Selected Cup” พร้อมดึง ‘อิ้งค์ วรันธร’ เป็นพรีเซนเตอร์

Insight Daily

ครบรอบ 44 ปี “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์” สวรรค์แห่งอันดามัน ความงดงามของทะเลไทย

Manager Online

NEWS UPDATE: 9 บทสนทนาระหว่างทารกกับศูนย์ให้คำปรึกษา ที่อ่านแล้วถึงกับหัวเราะ

Mood of the Motherhood

รู้จัก 12 สัตว์ประจำวันเกิด เชื่อมโยงมนุษย์กับธรรมชาติ สะท้อนตัวตนและจิตวิญญาณ

sanook.com

สายธารอารยธรรมสองแผ่นดิน ไทย-จีน

เดลินิวส์

ตื่นตา “หุบเขาไดโนเสาร์” ใหญ่ที่สุดในโลกที่ “สวนนงนุช พัทยา”

Manager Online

เพียงเธอ Only You The Series ซีรีส์เรื่องล่าสุดของ หลิงหลิง-ออม เตรียมส่งเอพิโสดแรก 18 ก.ค. นี้

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...