เปิดรายชื่อแบรนด์ที่นั่งในใจคนไทยปีนี้ ‘LAZADA’ มาแรง ครองอันดับ 1 แซงคู่แข่งสีส้มไปกว่า 10%

ทุกวันนี้หลายแบรนด์พูดถึงเรื่อง ‘ความภักดี’ (Loyalty) ของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ จริงอยู่ว่าอาจจะมีไม่มากเท่าสมัยก่อน และเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่ความภักดีที่ว่านั้นยังไม่หายไปไหน เพราะในแต่ละปี ความชื่นชอบและความเชื่อใจในแบรนด์นั้นๆ แค่เปลี่ยนไปตามความนิยมเท่านั้น

โดยในปี 2025 แบรนด์ที่คนไทยมองด้วยความชื่นชอบและเชื่อมั่น เป็นของ ‘LAZADA’ อีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ที่มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 ในตลาดประเทศไทย

การจัดอันดับนี้มาจากรายชื่อ 50 แบรนด์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Campaign โดยเปิดเผยในงาน Campaign360 ร่วมกับบริษัทวิจัย Pureprofile ซึ่งเป็นการสำรวจในตลาด 6 แห่ง ก็คือ อินโดนีเซีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, เวียดนาม และ สิงคโปร์

[ LAZADA แซงหน้าคู่แข่ง ทั้งที่มาร์เก็ตแชร์น้อยกว่า ]

LAZADA กลายเป็นแบรนด์ที่ครองตำแหน่ง “แบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุดในประเทศไทย” ประจำปี 2025 โดยได้รับคะแนนแบรนด์ที่ดีที่สุดโดยรวมสูงสุดในประเทศไทยที่ 84% ด้วยคะแนนสูงสุดคือ ด้านคุณภาพ, การบริการลูกค้า และประสบการณ์การซื้อสินค้า

LAZADA แซงหน้า Shopee คู่แข่งที่มีมาร์เก็ตการตลาดที่ใหญ่กว่า และมียอดผู้เข้าชมรายเดือนสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับอยู่ในอันดับที่ 15 จาก 50 แบรนด์ ด้วยคะแนนแบรนด์ที่ดีที่สุดที่ 71.6% ห่างกันถึง 12.4%

รายงานระบุว่า แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมาจากคะแนนหลายส่วน อย่างเช่น

• การรับรู้
• การซื้อ
• คุณภาพ
• การสนับสนุน (ระดับของการแนะนำ)
• ประสบการณ์การซื้อ
  
• ประสบการณ์ของลูกค้า
• จุดสัมผัสของแบรนด์ (ความสะดวกในโต้ตอบระหว่างแบรนด์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์)
• นวัตกรรม
• ความภักดี

[ 10 อันแรกของแบรนด์ที่ได้คะแนนความชื่นชอบมากที่สุด ]

• LAZADA (84%)

• SAMSUNG (83%)

• Adidas (77.7%)

• Netflix (76.7%)

• True Money (75.1%)

• MK Restaurant (74.7%)

• NIVEA (74.5%)

• Nike (74.3%)

• KFC (73.3%)

• Grab (73.2%)

โดยพบว่า มีบริษัทไทย 2 แห่งติด 10 อันดับแรก ได้แก่ True Money กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือ CP และ MK Restaurant อาณาจักรหมื่นล้านที่ตอนนี้บริหารโดย ฤทธิ์ ธีระโกเมน

ที่น่าสังเกตคือ ผู้บริโภคคนไทยให้ความสำคัญกับแบรนด์สุขภาพและความงามอย่างมาก อย่างท็อป 50 แบรนด์จะเห็นว่ามีทั้ง NIVEA, Vaseline, L’Oréal, SK-II เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม 50 แบรนด์ที่ครองใจคนไทยค่อนข้างมีความหลากหลาย มีหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ความงาม, อีคอมเมิร์ซ, แพลตฟอร์มโซเชียล, ค้าปลีก และบริการทางการเงิน

สะท้อนได้ว่า ผู้บริโภคคนไทยยังมีความสนใจที่หลากหลาย แม้ว่าปัจจุบันไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เจเรเนชั่นใหม่ๆ ก็ยังให้ความสำคัญกับหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการเงินดิจิทัล และแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ถือว่าการปรับตัวตามยุคสมัยของคนไทยยังค่อนข้างยืดหยุ่น ถือเป็นจุดเด่นที่นักธุรกิจที่สนใจวางกลยุทธ์ได้แม่นยำขึ้น