โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

บทวิเคราะห์ ชี้ สงครามข่าวสาร ไทย เน้นตั้งรับ-ช้า ขาดเอกภาพ เข้าเป้าแค่ปม ทุ่นระเบิด

Thaiger

อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 23.51 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thaiger ข่าวไทย

บทวิเคราะห์ชี้ กัมพูชาได้เปรียบ “สงครามข่าวสาร” จากความรวดเร็วและเชี่ยวชาญในการสร้างข่าวปลอม ขณะที่ไทยตั้งรับ-ช้า-ขาดเอกภาพในการสื่อสาร แต่เริ่มพลิกเกมด้วยการใช้ประเด็น “ทุ่นระเบิด”

แม้เสียงปืนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจะเงียบสงบลงแล้ว แต่ “สงครามน้ำลาย” หรือสงครามข้อมูลข่าวสารกลับยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยทั้งสองประเทศต่างพยายามช่วงชิงความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศและสร้างการสนับสนุนภายในชาติ แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์สื่อและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยเอง ดูเหมือนว่าในสมรภูมินี้ ประเทศไทยจะกำลังเป็นฝ่ายตั้งรับและตามหลังอยู่หนึ่งก้าวเสมอ

กัมพูชารวดเร็ว ดุดัน และเชี่ยวชาญ

“การรับรู้คือ กัมพูชาดูจะมีความคล่องแคล่ว, ดุดัน และเชี่ยวชาญด้านสื่อมากกว่า” คือบทสรุปของ แคลร์ พัชริมนต์ ที่กล่าวไว้ในพอดแคสต์ Media Pulse ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งสะท้อนภาพการสื่อสารของฝ่ายกัมพูชาได้อย่างชัดเจน นับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้น กองทัพนักรบบนโซเชียลมีเดียของกัมพูชา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสื่อภาษาอังกฤษที่ควบคุมโดยรัฐ ได้ปล่อยข่าวปลอมและข้อกล่าวหาที่ปลุกปั่นออกมาเป็นระลอก

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการรายงานข่าวว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 ของไทยถูกยิงตก โดยใช้ภาพเครื่องบินที่กำลังลุกไหม้จากสงครามในยูเครน หรือการกล่าวหาว่าไทยใช้แก๊สพิษ โดยใช้ภาพเครื่องบินบรรทุกน้ำทิ้งสารหน่วงไฟสีชมพูจากเหตุไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย แม้ข่าวเหล่านี้จะไม่เป็นความจริง แต่ความรวดเร็วและปริมาณที่ถูกปล่อยออกมาก็สามารถสร้างความสับสนและชี้นำได้สำเร็จ

เซบาสเตียน สแตรงจิโอ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองกัมพูชาและผู้เขียนหนังสือ “Hun Sen’s Cambodia” วิเคราะห์ว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน มีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการใช้ “ยุทธวิธีที่ไม่สมมาตร” เพื่อขยายรอยร้าวที่มีอยู่แล้วในสังคมการเมืองไทย และข้อเท็จจริงที่ว่า “กัมพูชาเก่งมากในการเล่นบทผู้ถูกกระทำ” ก็ได้มอบอาวุธที่ทรงพลังให้แก่พวกเขาในการต่อสู้กับไทยในเวทีระหว่างประเทศ

ภาพจาก: FRESH NEWS

ไทยตั้งรับ ช้า และขาดเอกภาพ

ในทางตรงกันข้าม การตอบโต้ของฝ่ายไทยมักจะเป็นไปในลักษณะของการตั้งรับและล่าช้า โดยมักจะมาในรูปแบบของแถลงการณ์อย่างเป็นทางการที่เต็มไปด้วยสถิติที่แห้งแล้ง และที่สำคัญคือมาจากหลายหน่วยงานที่ดูเหมือนจะไม่ได้ประสานงานกันเป็นเอกภาพ ทั้งกองทัพ, รัฐบาลท้องถิ่น และกระทรวงต่างๆ ทำให้สารที่ส่งออกไปขาดพลังและความต่อเนื่อง รัฐบาลกรุงเทพฯ ล้มเหลวในการสื่อสารประเด็นสำคัญที่ว่า กัมพูชาคือฝ่ายที่เริ่มใช้ปืนใหญ่ก่อนและทำให้พลเรือนไทยเสียชีวิต

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากปัญหารอยร้าวภายในประเทศ ความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับกองทัพ และที่ชัดเจนที่สุดคือการที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ปล่อยคลิปเสียงสนทนาส่วนตัวกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นการบั่นทอนอำนาจของรัฐบาลไทยอย่างรุนแรงในช่วงเวลาที่วิกฤตกำลังคุกรุ่น ขณะที่กัมพูชามีสมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นศูนย์กลางบัญชาการที่เบ็ดเสร็จและสื่อสารอย่างต่อเนื่องผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่ภาพลักษณ์ผู้นำของฝ่ายไทยกลับดูแตกแยก โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่แม้จะได้รับความนิยมจากแนวคิดชาตินิยม แต่ก็เป็นการบ่อนทำลายอำนาจของรัฐบาลกลางไปในเวลาเดียวกัน

ภาพจาก: FB/ ศูนย์เฉพาะกิจฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา – Team Thailand

พลิกเกมสู้เมื่อ ทุ่นระเบิด กลายเป็นอาวุธสื่อสารของไทย

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าฝ่ายไทยจะเริ่มค้นพบยุทธศาสตร์การสื่อสารที่ทรงพลังมากขึ้น นั่นคือการหยิบยกประเด็น “ทุ่นระเบิด” ขึ้นมาเป็นหัวหอกในการตอบโต้ การที่ไทยกล่าวหาว่าทหารกัมพูชากำลังลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ที่ผลิตในรัสเซีย ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่ทั้งสองประเทศเป็นภาคีสมาชิก ได้สร้างความกระอักกระอ่วนให้แก่รัฐบาลพนมเปญอย่างมาก

ที่สำคัญคือ ไทยไม่ได้ใช้เพียงแค่คำพูด แต่ได้เปลี่ยนยุทธวิธีเป็นการ “แสดงหลักฐานเชิงประจักษ์” ด้วยการนำคณะทูตและสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เห็นกับตาทั้งทุ่นระเบิดที่เก็บกู้ได้ซึ่งบางส่วนยังดูใหม่เอี่ยม และพื้นที่ที่ถูกวางทุ่นระเบิดไว้ล่าสุด ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ทรงพลังและน่าเชื่อถือกว่าแถลงการณ์ที่เป็นตัวอักษร

นายรัศม์ ชาลีจันทร์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า “สิ่งที่เราพูดจะต้องน่าเชื่อถือและสามารถพิสูจน์ได้ นั่นคืออาวุธเดียวที่เราสามารถใช้ต่อสู้ในสงครามนี้ได้ และเราต้องยึดมั่นในสิ่งนั้น แม้ว่าบางครั้งมันจะดูเหมือนว่าเราไม่เร็วพอก็ตาม” ซึ่งยุทธศาสตร์การใช้ประเด็นทุ่นระเบิดนี้ ถือเป็นบททดสอบสำคัญว่าแนวทางการสื่อสารที่เน้น “ความจริง” ของไทย จะสามารถต่อกรกับเครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อที่รวดเร็วและดุดันของกัมพูชาได้หรือไม่

ที่มา: BBC

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thaiger

อุทาหรณ์! หามแม่ลูกสามเข้าห้องฉุกเฉิน หวิดหน้าอัมพาตเพียงเพราะ “บีบสิว”

51 นาทีที่แล้ว

ตารางแข่งวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025 วันนี้ 22 สิงหาคม 2568

52 นาทีที่แล้ว

เปิดไอเท็มเด็ด “นายกอิ๊ง” พกขึ้นให้การ ศาลรธน. คนแห่หาตามให้ควัก

59 นาทีที่แล้ว

รู้สาเหตุ เทพศิรินทร์ สั่งปลดรูป-ถอดชื่อ “เจ้าคุณอลงกต” พ้นหอเกียรติยศศิษย์เก่าดีเด่น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

พิจารณาพักโทษสองพี่น้องฆ่าพ่อแม่ตัวเอง

AFP

มาเลเซียขอเพิ่มผู้สังเกตการณ์หยุดยิง ไทยปฏิเสธขอคุยแค่ 2 ฝ่าย

Thai PBS

คนไทยก็รับ! 4 ขั้นตอน สู่การเป็นพระเอก AV ในญี่ปุ่น สื่อญี่ปุ่นบอกเอง ช่วงแรกจะยากที่สุด

sanook.com

ข่าวดีคอกาแฟ! พบวิธีดื่มง่ายๆ แต่ต้านอัลไซเมอร์-พาร์กินสันได้ "เกือบครึ่ง" แค่เลือกให้ถูก

sanook.com

"โจนาธาน เฮด" แฉสงครามน้ำลายไทย-กัมพูชาเดือด! ไทยสื่อสารพัง จืด-ช้า-สับสน

THE ROOM 44 CHANNEL

อุทาหรณ์! หามแม่ลูกสามเข้าห้องฉุกเฉิน หวิดหน้าอัมพาตเพียงเพราะ “บีบสิว”

Thaiger

แม่บ้านฆ่าตัวตายหลังสังหารหมู่สามีและลูกเพียงไม่กี่วันหลังโพสต์คลิปเป็นลางลงโซเชียล

เดลินิวส์

‘สีจิ้นผิง’ เยือนนครลาซา กระตุ้นสร้างความทันสมัยแบบจีน ย้ำความร่วมมือทุกภาคส่วนในการพัฒนา ‘ทิเบต’ แบบครบวงจร

THE STATES TIMES

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...