ปชน.น้อมรับข้อท้วงติง ปม ส.ส.อภิปราย ลบหลู่สังเวชนียสถาน "เจ้าตัว"ออกแถลงการณ์ขอโทษแล้ว
เพจเฟซบุ๊กพรรคประชาชน โพสต์ข้อความ ระบุว่า สืบเนื่องจากการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีโดย สส.พรรคประชาชนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 สิงหาคม 2568) เกี่ยวกับงบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งปรากฏข้อความบางช่วงที่อาจกระทบกระเทือนความรู้สึกต่อความเชื่อและสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจของผู้คน พรรคประชาชนขอน้อมรับข้อท้วงติง โดย ส.ส.ผู้อภิปรายได้ออกแถลงการณ์ขอโทษประชาชนสำหรับข้อความดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หลักการสำคัญที่พรรคประชาชนยึดถือต่อการใช้งบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือการปรับปรุงระเบียบและแนวทางให้การเงินของวัดโปร่งใส เพื่อป้องกันการทุจริต ปกป้องเงินบริจาค และรักษาศรัทธาอันดีของศาสนิกชน รวมถึงการตรวจสอบงบประมาณของทุกหน่วยงานว่าถูกจัดลำดับความสำคัญและจัดสรรอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง โดยหนึ่งในผู้อภิปรายคือ ฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา เขต 1 พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568
[ งบบูรณะวัด ต้องตรวจสอบรอบคอบ และกระจายให้ทั่วถึง ]
ในส่วนของงบประมาณการบูรณะวัดทั่วประเทศ ปีนี้ พศ. ขอมาจำนวน 709 ล้านบาท 546 รายการ ฉัตรให้ข้อเสนอแนะว่า ในอดีตเคยเกิดคดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนที่รัฐจัดสรรให้แก่วัด การใช้งบส่วนนี้จึงต้องมีความระมัดระวังและรัดกุมรอบคอบยิ่งขึ้น อีกทั้งยังควรหาแนวทางเพื่อให้สามารถกระจายงบประมาณให้ทั่วถึงกว่านี้ ไม่กระจุกตัวอยู่ที่วัดใดวัดหนึ่งหรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวภาครัฐควรเป็นเพียงฝ่ายสนับสนุนและส่งเสริมคณะสงฆ์ให้สามารถบริหารจัดการการบูรณะวัดได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะทำให้เกิดความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากกว่า
[ ส่งเสริมการปฏิบัติงานของ “พระมือปราบ” ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ]
ในส่วนของงบส่งเสริมการปฏิบัติงานของพระวินยาธิการ หรือ “พระมือปราบ” ที่ต้องตระเวนไปทุกจังหวัดทั่วประเทศเพื่อกำกับดูแลพระสงฆ์และสะสางอธิกรณ์ที่ไม่เหมาะสมต่างๆ ปีนี้ได้รับงบ 3.62 ล้านบาท ฉัตรเสนอแนะว่า ควรมีการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อให้การทำงานของพระวินยาธิการมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยเมื่อมีการร้องเรียน ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุจริตภายในวัดหรือการใช้จ่ายเงินผิดวัตถุประสงค์
[ ชวนสังคมศึกษา-ทำความเข้าใจเรื่อง “เงินเดือนพระ” ]
ในส่วนของงบพระสังฆาธิการ ซึ่งเป็นเงินที่ถวายเป็นรายเดือนให้แก่พระสังฆาธิการ โดยเจตนาแล้วเป็นการถวายภัตตาหารให้กับพระสังฆาธิการ พระสมณศักดิ์ และพระเปรียญ 9 ประโยค ซึ่งต่อมาแปรเปลี่ยนมาเป็นการถวายค่า “นิตยภัต” ประจำเดือน เป็นธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติกันต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ฉัตรขอตั้งขอสังเกตผ่านการประชุมสภาฯ ครั้งนี้ เพื่อให้สมาชิกสภาฯ และสังคมร่วมกันศึกษาและทำความเข้าใจ ว่าสัดส่วนที่เหมาะสมของงบประมาณส่วนนี้ควรเป็นอย่างไร โดยหากจะมีข้อสรุปอย่างไร ต้องมีการศึกษาพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันในสังคม
[ บัญชีวัด ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ]
จากกรณีการทุจริตเงินบริจาควัด ที่ปรากฏเป็นข่าวแพร่หลายในช่วง 1-3 เดือนที่ผ่านมา ฉัตรเสนอให้ พศ. ดำเนินการปรับปรุงระเบียบและกำหนดแนวทางเพื่อป้องกันการทุจริต และปกป้องเงินบริจาคของพุทธศาสนิกชน ได้แก่
(1) ปรับปรุงระเบียบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเรื่องการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้อิงกับมาตรฐานการบัญชี โดยต้องสำแดงบัญชีธนาคารของวัดทุกบัญชี และนำส่งรายงานบัญชีตามรอบเวลาที่กำหนด
(2) กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลรายรับ-รายจ่ายของวัดต่อสาธารณชนอย่างสม่ำเสมอ สามารถตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลได้
(3) ส่งเสริมช่องทางการบริจาคผ่านระบบออนไลน์ (e-donation) ของธนาคารพาณิชย์ โดยร่วมมือกับกรมสรรพากร
(4) เมื่อมีการร้องเรียน ต้องมีกลไกดำเนินการตรวจสอบที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหากเป็นคดีทุจริต ควรนำหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมตรวจสอบด้วย
(5) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในคดีทุจริต นอกจากการดำเนินการทางสงฆ์แล้ว ควรพิจารณาลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายด้วย