‘คณะผู้แทนรัฐสภาไทย’ ประชุมต่อต้านการทุจริต ใน SEAPAC วันที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 68 ณ มหาวิทยาลัยกาจาห์ มาดา เมืองยอกยาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ผศ.นพดล อินนา สว.ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย พร้อมด้วยนายนพดล ทิพยชล สส.นนทบุรี พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทย เข้าร่วมประชุมโต๊ะกลมกลุ่มเครือข่ายสมาชิกรัฐสภาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อการต่อต้านการทุจริต และการประชุมประจำปี SEAPAC (SEAPAC Roundtable Discussion and Annual General Meeting) วันที่สอง โดยมีหัวข้อหลักการประชุม คือ การเร่งรัดความร่วมมือด้านการดำเนินการภูมิอากาศ การธำรงไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตยด้านสิ่งแวดล้อม และการต่อสู้กับการทุจริตสีเขียว บนเส้นทางสู่การประชุม COP30 โดยมีสมาชิกรัฐสภาจากกัมพูชา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
ผศ.นพดล ได้กล่าวถ้อยแถลงเน้นย้ำบทบาทนำของไทยในด้านประชาธิปไตยสิ่งแวดล้อมที่พร้อมขับเคลื่อนการปฏิบัติการด้านภูมิอากาศเพื่อเตรียมพร้อมสู่การประชุม COP30 โดยยืนยันว่าหลักการประชาธิปไตยด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การเข้าถึงข้อมูล การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเข้าถึงความยุติธรรม เป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ต่อต้านการทุจริต ซึ่งสะท้อนผ่านการออกกฎหมายและนโยบายสำคัญต่าง ๆ เช่น ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำหนดให้เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การประเมินความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึง พ.ร.บ.อากาศสะอาดที่รับรองสิทธิการเข้าถึงข้อมูลมลพิษผ่านระบบ Pollutant Release and Transfer Register (PRTR)
ผศ.นพดล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริตในตลาดคาร์บอนเครดิต โดยใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม THEOS-2 ตรวจสอบโครงการป่าไม้ จัดทำระบบภาษีคาร์บอนแบบก้าวหน้า และเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ในการตรวจสอบโครงการลดก๊าซเรือนกระจก และไทยยังมีบทบาทสำคัญในกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศระดับภูมิภาค เช่น การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อโครงการติดตามสถานภาพประชาธิปไตยด้านสิ่งแวดล้อมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Environmental Democracy Observatory – SEA EDO) ซึ่งเป็นโครงการที่ประเมินสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศในอาเซียน และการร่วมขับเคลื่อนประเทศตามกรอบสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียน (ASEAN Environmental Rights Framework – AER) ภายใต้คณะ กมธ.สิทธิมนุษยชนระหว่างรัฐบาลอาเซียน (ASEAN Intergovernmental Commission on Human Rights – AICHR) เพื่อบูรณาการหลักความโปร่งใส การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบเข้าสู่ระเบียบวาระสิทธิมนุษยชนของภูมิภาค
“ประชาธิปไตยด้านสิ่งแวดล้อมเป็นระบบภูมิคุ้มกันของการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ช่วยป้องกันการทุจริต สร้างความไว้วางใจของประชาชน และเสริมความเข้มแข็งต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเชิญชวนรัฐสภาทุกประเทศร่วมกันเปลี่ยนหลักการเหล่านี้จากความตั้งใจไปสู่การปฏิบัติจริง” ผศ.นพดล กล่าว.