Medicube ปังทั่วโลก ดัน CEO ผู้ก่อตั้งขึ้นแท่นบิวตี้เทคมหาเศรษฐี
คลิปสั้นเพียง 15 วินาทีบน TikTok ที่ Kylie Jenner กำลังใช้อุปกรณ์สีเงินเงาบนใบหน้า พร้อมบอกว่าสามารถช่วยผลักเซรั่มเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น กลายเป็นไวรัลมียอดวิวหลายล้านครั้ง และทำให้ชื่อของ Booster Pro อุปกรณ์ดูแลผิวจากแบรนด์ Medicube ถูกพูดถึงไปทั่วโลก ส่งผลให้ชื่อเสียงของ APR เจ้าของแบรนด์ ได้รับความสนใจและผลักดันให้ คิม บยองฮุน (Kim Byung Hoon) ซีอีโอและผู้ก่อตั้งวัย 36 ปี ก้าวขึ้นเป็นมหาเศรษฐีคนล่าสุดของเกาหลีใต้
จากข้อมูลรายงานว่า คิมถือหุ้นใน APR กว่า 31% มีมูลค่าประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามดัชนี Bloomberg Billionaires Index หลังจากที่ราคาหุ้นของบริษัทพุ่งสูงขึ้นถึง 200% ในปีนี้ ดัน APR กลายเป็นบิวตี้สตาร์ทอัปที่มีมูลค่าตลาดกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นบริษัทความงามจดทะเบียนใหญ่สุดอันดับ 2 ของเกาหลีใต้
ทำความรู้จัก คิม บยองฮุน เส้นทางจากสตาร์ทอัปสู่ยักษ์ใหญ่บิวตี้เทค
คิม บยองฮุน เริ่มต้นเส้นทางผู้ประกอบการหลังกลับจากโครงการแลกเปลี่ยนที่สหรัฐฯ เมื่อกว่า 10 ปีก่อน ช่วงนั้นเขาหลงใหลไปกับกระแสการปฏิวัติสมาร์ทโฟนที่เพิ่งเริ่มต้น และทดลองทำแอปพลิเคชันต่าง ๆ ตั้งแต่แอปมือถือทั่วไปไปจนถึงแอปหาคู่ ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าสู่วงการความงามอย่างเต็มตัว
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อคิมก่อตั้งบริษัท เอพีอาร์ (APR) โดยเริ่มจากธุรกิจเครื่องสำอาง และต่อมาในปี 2021 ได้ขยายสู่การพัฒนาอุปกรณ์ดูแลผิวหน้าระดับไฮเทค ที่ชูจุดขาย “สปาที่บ้าน” ให้ผู้บริโภคเข้าถึงประสบการณ์ความงามรูปแบบใหม่
เพียงไม่กี่ปีหลังเปิดตัวสู่สาธารณะ เอพีอาร์ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทความงามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีใต้ ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ การเติบโตของแบรนด์ยังสะท้อนถึงพลังของกระแส เคบิวตี้ (K-Beauty) ที่บูมไปทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งมียอดขายเครื่องสำอางเกาหลีพุ่งขึ้นถึง 56% แตะ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
ความแตกต่างของเอพีอาร์คือการไม่พึ่งพาตลาดจีนหรือดิวตี้ฟรีเหมือนแบรนด์รุ่นก่อน แต่เลือกใช้ โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok เป็นช่องทางหลักในการสร้างกระแสระดับโลก บวกกับการสนับสนุนจากอินฟลูเอนเซอร์แถวหน้า ยิ่งผลักดันให้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง
คิมเคยกล่าวไว้อย่างมั่นใจว่า “เป้าหมายของผมคือสร้างบริษัทที่ทุกคนรู้จักเหมือน Apple และพัฒนานวัตกรรมใหม่ให้กับอุตสาหกรรมบิวตี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
Medicube แบรนด์เรือธงสร้างชื่อ
Medicube กลายเป็นตัวชูโรงหลังเซเลบริตี้ระดับโลกตั้งแต่ Hailey Bieber ที่โพสต์เกี่ยวกับเจลมาร์คครั้งแรกในช่วงปลายปี 2023 ไปจนถึง Kardashian-Jenner Family ใช้จริงและพูดถึงโดยไม่ได้รับสปอนเซอร์ นำไปสู่แคมเปญร่วมกับ Kylie และ Kendall Jenner รวมถึง Khloe Kardashian ในปี 2024
สินค้าตัวฮิตอย่าง Booster Pro เปิดตัวเมื่อปี 2023 ในราคา 240 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,000 บาท) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีช่วยผลักเซรั่มให้ซึมลึกขึ้น ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน และมอบผิวใสวาวแบบ Glass Glow ซึ่งเป็นลุคซิกเนเจอร์ของ K-Beauty
ปัจจุบัน APR ยังเป็นเจ้าของอีกหลายแบรนด์ดัง อาทิ Aprilskin (เครื่องสำอาง), Forment (น้ำหอมและผลิตภัณฑ์ผู้ชาย) และ Glam.D Bio (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) โดยโฟกัสที่สินค้ากลุ่มผิวกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น และลดริ้วรอย พร้อมส่งสัญญาณบุกตลาดสุขภาพในอนาคต
โตแรงในตลาดสหรัฐฯ
แม้การเติบโตของ K-Beauty จะสะท้อนถึงกระแสวัฒนธรรมเกาหลีใต้ที่แผลขยายไปทั่วโลกแต่เอพีอาร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระแสการส่งออกเครื่องสำอางยุคใหม่ต่างจากแบรนด์ดั้งเดิมที่พึ่งพาร้านค้าปลอดภาษีหรือสินค้าที่เน้นจริงเป็นหลักเอพีอาร์ค้นพบช่องทางเฉพาะตัวตัวเองในแคมเปญสกินแคร์ที่ขับเคลื่อนโดย TikTok และอุปกรณ์ทันสมัยที่นำเสนอเทคโนโลยีความงาม
แม้จีนยังเป็นตลาดส่งออกใหญ่สุดของ K-Beauty แต่ APR พบว่าสหรัฐฯ คือดาวรุ่ง ที่เติบโตและทำกำไรได้มากกว่า ปัจจุบัน กว่า 70% ของรายได้มาจากต่างประเทศ โดยมีสหรัฐฯ เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ล่าสุด Medicube บุกช่องทางออฟไลน์ ผ่านร้าน Ulta Beauty ทั่วสหรัฐฯ เสริมพลังจากยอดขายออนไลน์ทั้งบน Amazon และ ช่องทางอีคอมเมิร์ซของบริษัทเอง
Source : https://www-businessoffashion-com