คนไทยป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองพุ่งเกือบ 2 เท่าใน 7 ปี
การศึกษาโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในช่วงปี พ.ศ. 2500–2514 เปรียบเทียบกับช่วงปี พ.ศ. 2536–2538 พบว่า จำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มจากเฉลี่ย 73 รายต่อปี เป็น 189 รายต่อปี หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 158.9 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยใหม่มีอายุเฉลี่ยต่ำลง และจำนวนผู้ป่วยเพศชายสูงกว่าเพศหญิงเล็กน้อย
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นกับระบบน้ำเหลือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำหน้าที่ป้องกันและกำจัดเชื้อโรค และเซลล์ผิดปกติ งานวิจัยหลายชิ้นในประเทศไทยชี้ให้เห็นว่าอัตราการเกิดมะเร็งชนิดนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Non-Hodgkin lymphoma (NHL) ซึ่งพบได้บ่อยและมีแนวโน้มสูงขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับอดีต
ข้อมูลจากภาคเหนือของประเทศไทย (จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน) ในช่วงปี พ.ศ. 2541–2560 เผยว่า อัตราการเกิด NHL เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.2% ต่อปีในเพศชาย และ 1.8% ต่อปีในเพศหญิง โดยการเพิ่มขึ้นนี้มีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มการเกิด NHL ไม่ได้จำกัดเพียงในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นในผู้ใหญ่และวัยทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ข้อมูลจากจังหวัดขอนแก่นระหว่างปี พ.ศ. 2543–2562 พบว่า อัตราการเกิด Hodgkin lymphoma (HL) และ Non-Hodgkin lymphoma (NHL) เพิ่มขึ้นจาก 4.2 และ 5.7 รายต่อล้านคนต่อปี เป็น 6.0 และ 11.2 รายต่อล้านคนต่อปีตามลำดับ การเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 1.95% สำหรับ HL และ 3.63% สำหรับ NHL แม้จะไม่สูงเท่าผู้ใหญ่ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งระบุว่า แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ปัจจัยแรกคือ การพัฒนาระบบการวินิจฉัยและบันทึกข้อมูล ทำให้สามารถตรวจพบผู้ป่วยได้มากขึ้น ปัจจัยที่สองคือ สิ่งแวดล้อมและสารเคมี ทั้งจากอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ปัจจัยที่สามคือ ภาวะภูมิคุ้มกัน ของประชากรที่อาจอ่อนแอลงจากโรคเรื้อรัง การติดเชื้อ หรือวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น การรับประทานอาหารแปรรูปมากขึ้น
แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้เป็นสัญญาณเตือนให้สังคมไทยให้ความสำคัญกับ การป้องกันและตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก การรู้จักสัญญาณเตือน เช่น ต่อมน้ำเหลืองบวมโดยไม่เจ็บ, มีไข้หรือเหงื่อออกตอนกลางคืนโดยไม่ทราบสาเหตุ, น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ การลดปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม การปรับพฤติกรรมการใช้สารเคมี และการดูแลสุขภาพโดยรวม ก็เป็นสิ่งสำคัญในการลดภาระโรคในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คนไทยป่วย "โรคมะเร็ง" ใช้สิทธิรักษา ฟรี! ได้ทั้ง 3 ระบบใหญ่ เช็กเลยที่นี่
- สู้กับมะเร็งต้องใช้เงินกี่บาท สิทธิรัฐช่วยแค่ไหน และเอกชนคิดเท่าไร
- พี สะเดิด โพสต์อัปเดต ตอนนี้หายจาก มะเร็งเต้านม แล้วไม่มีเชื้ออีก
- นักวิทย์เกาหลีใต้ ทดลองเปลี่ยนเซลล์มะเร็ง กลับเป็นเซลล์ปกติสำเร็จ
- ตรวจเลือดพบมะเร็ง ก่อนแสดงอาการ 3 ปี ลดโอกาสเสียชีวิต-ป่วยหนัก