โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

วีรกรรมทหารไทยใน "สมรภูมิบ้านพร้าว" กองทัพฝรั่งเศสอันเกรียงไกรพ่ายยับ

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา
(จากซ้าย) จอมพลเรือหลวงยุทธศาสตร์โกศล ร.น. ขณะยังเป็นนาวาเอก, จอมพล ป. พิบูลสงคราม และพลเอกหลวงสวัสดิรณรงค์ ขณะเป็นนายพันเอก ถ่ายภาพกับธงชัยเฉลิมพลของฝรั่งเศส

วีรกรรมทหารไทยใน “สมรภูมิบ้านพร้าว” กองทัพฝรั่งเศสอันเกรียงไกรพ่ายยับ

เรื่อง “สมรภูมิบ้านพร้าว” นี้ คัดมาจากเรื่อง “วีรกรรมของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทราบราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ในอดีต” ซึ่งลงพิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พันเอกนิ่ม ชโยดม ท.ช., ท.ม. ณ เมรุวัดโสมนัสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2531

กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม ขอขอบพระคุณคุณเครือวัลย์ ญาณนนท์ และพลเรือโทช่วย ญาณนนท์ ผู้เป็นทายาทของพันเอกนิ่ม ชโยดม (ขุนนิมมาณกลยุทธ) มา ณ ที่นี้ด้วย ที่ได้กรุณาส่งหนังสืออนุสรณ์เล่มดังกล่าวมาให้ เพื่อกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรมจะได้ใช้เป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านต่อไป

กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีเกียรติประวัติและวีรกรรมอันดีเด่นจากการได้รับชัยชนะในการสู้รบกับกองทหารต่างชาติในอินโดจีน เมื่อครั้งสงครามกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส จนได้รับสมญานามว่า “กองพันทหารเสือ” ซึ่งมีความเป็นมาดังนี้

กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในระหว่างสงครามกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส สมัยนั้นใช้ชื่อว่า กองพันทหารราบที่ 3 มีพันตรี ขุนนิมมาณกลยุทธเป็นผู้บังคับกองพัน ได้นำทหารในบังคับบัญชาเข้ายึดรักษาดินแดน ด้านทิศตะวันออกติดกับประเทศกัมพูชา ตามแนวหลักเขตแดนที่ 43 ถึง 46 และได้รุกเข้าไปในเขตอินโดจีนฝรั่งเศส “ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศไทยมาก่อน” ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พุทธศักราช 2483

ณ สมรภูมิบ้านพร้าว ห่างจากดินแดนไทยเข้าไปในประเทศกัมพูชา ประมาณ 10 กิโลเมตร “ซึ่งเป็นดินแดนของประเทศไทยมาก่อนเช่นกัน” พันตรีขุนนิมมาณกลยุทธได้รับคำสั่งให้นำทหารในบังคับบัญชาเข้ายึดยุทธภูมิแห่งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม พุทธศักราช 2484 เมื่อนำกำลังเคลื่อนไปยังบ้านพร้าวนั้น พบร่องรอยค่ายเก่าของทหารต่างชาติในอินโดจีน ดัดแปลงเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และไม่มีการต้านทานใด ๆ เนื่องจากฝ่ายข้าศึกได้ถอนกำลังออกไปหมด ปล่อยให้ฝ่ายเราเข้ายึดเพื่อจะทุ่มกำลังเข้าโจมตี ทำลายล้างกองพันทหารราบที่ 3 ที่บ้านพร้าวนี้ในภายหลัง

จากการตรวจภูมิประเทศของพันตรีขุนนิมมาณกลยุทธ ผู้บังคับกองพัน เห็นว่า ไม่ยึดที่บ้านพร้าว เนื่องจากฝ่ายข้าศึกรู้เบาะแสแล้ว และในตอนเย็นหลังจากนำกำลังเข้ายึดได้ถูกหน่วยลาดตระเวนของข้าศึกลอบยิง จากการตรวจภูมิประเทศหน้าแนวแล้ว เห็นว่า เหมาะสมดีกว่า จึงขออนุญาตเคลื่อนกำลังจากที่ตั้งเดิมออกไปอีก 4 กิโลเมตร ไปตั้งมั่นอยู่ที่ห้วยยางซึ่งเป็นลำห้วยไม่มีน้ำ

ภูมิประเทศคันคูง่ายแก่การดัดแปลงเป็นที่มั่นตั้งรับได้เป็นอย่างดี สามารถยิงได้อย่างกว้างขวาง และกองทหารต่างชาติได้ตัดถนนลำลองขึ้นสายหนึ่ง จากทางเหนือตรงมายังบ้านพร้าว ถนนสายนี้เป็นประโยชน์แก่การวางกำลังของฝ่ายเราอย่างดียิ่ง โดยฝ่ายเราได้วางกำลังเป็นรูปตัวยูหรือรูปปากฉลามคร่อมถนนที่ห้วยยางไว้

ความเข้าใจของกองทหารต่างชาติเข้าใจว่า ทหารไทยอยู่ที่บ้านพร้าว แต่ที่จริงแล้วด้วยการวางแผนการยุทธ์อันแยบยลและลึกล้ำของพันตรีขุนนิมมาณกลยุทธได้นำกำลังมาตั้งมั่นที่ห้วยยางเสียแล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม พุทธศักราช 2484 ด้วยความสงบเงียบ มีวินัยอย่างดีเยี่ยมตามคำสั่งผู้บังคับกองพัน

ในเวลาเช้ามืดของวันที่ 16 มกราคมนั่นเอง กองทหารต่างชาติได้ทุ่มกำลัง 1 กรม มีกำลัง 3 กองพัน เข้าตีทำลายกองพันทหารราบที่ 3 ในบังคับบัญชาของพันตรีขุนนิมมาณกลยุทธ ที่บ้านพร้าว โดยจัดฐานออกตีที่ห้วยยาง เนื่องจากคิดว่าทหารไทยอยู่ที่บ้านพร้าว และไม่รู้ว่าฝ่ายเราได้เปลี่ยนแผนการยุทธ์เสียแล้ว กลยุทธ์ของฝ่ายเราได้กำหนดให้ฟังสัญญาณการยิงฉากจากปืนกลของร้อยตรียง ณ นคร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม โดยฟังคำสั่งจากร้อยเอกอัมพร เสือไพฑูรย์

ครั้นเมื่อเวลา 3 นาฬิกา ของวันที่ 16 มกราคม เริ่มได้ยินเสียงยานยนต์ของข้าศึกมาแต่ไกลหลายคัน แสดงถึงการเคลื่อนไหวของฝ่ายข้าศึก จนกระทั่งเวลา 4 นาฬิกา กองทหารต่างชาติได้ส่งลาดตระเวนห่างทหารไทยราว 20 เมตร ตรวจการณ์อยู่ประมาณ 5 นาที ฝ่ายเราก็สงบนิ่งอยู่ด้วยความใจเย็นและมีวินัยอย่างดีเยี่ยม

ถึงแม้สุนัขที่มากับข้าศึกจะวิ่งเข้ามาในแนวทหารไทยและดมทหารไทยคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง แต่ก็ไม่เห่า ซึ่งก็ไม่ทราบว่า เป็นเพราะเหตุใดจึงไม่เห่า จากนั้นพลลาดตระเวนนำและสุนัขข้าศึกจึงได้กลับไป โดยคิดว่าไม่มีทหารไทยอยู่ที่ห้วยยาง ทั้ง ๆ ที่มีกำลังอยู่ทั้งกองพัน

อีก 1 ชั่วโมงต่อมา คือเมื่อเวลาประมาณ 5 นาฬิกา นาทีระทึกใจก็ได้อุบัติขึ้น เมื่อกรมทหารราบที่ 5 กองพันที่ 3 ของกองทหารต่างชาติ ซึ่งมีประวัติการรบอย่างโชกโชนและเป็นหน่วยกล้าตายชั้น 1 ที่มีกิตติศัพท์การรบอันเกรียงไกรมาแล้วในอินโดจีน ได้เคลื่อนกำลังเข้ามาเป็นขบวนตามเส้นทางที่ฝ่ายเราวางกำลังไว้ ปล่อยให้กำลังส่วนหน้าของข้าศึกเลยแนวรบไปด้วยความใจเย็น

เมื่อกำลังส่วนใหญ่เข้ามาอยู่ในพื้นที่สังหารแล้ว สัญญาณการยิงฉากจากปืนกลของร้อยตรียง ณ นคร จึงได้ระเบิดขึ้น พร้อมกับเสียงคำรามของปืนทุกกระบอกของกำลังฝ่ายเราทั้งกองพัน สู้รบถึงขั้นตะลุมบอนกันด้วยดาบปลายปืนอย่างทรหด

จนถึงเวลา 7 นาฬิกา เสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดและเสียงสั่งการดังลั่นไปทั่วยุทธภูมิ ด้วยยุทธวิธีของกองพันทหารราบที่ 3 ในบังคับบัญชาของพันตรีขุนนิมมาณกลยุทธในครั้งนี้ สามารถบดขยี้ฝ่ายข้าศึกเสียชีวิตไปประมาณ 400 นาย ถูกจับเป็นเชลยเป็นจำนวนมาก

ตัวผู้บังคับกองพันของกองทหารต่างชาติเสียชีวิตในที่รบ ยึดธงชัยเฉลิมพลของข้าศึก ซึ่งประดับเหรียญกล้าหาญครัวเดอแกร์ไว้ได้ กองทหารเขมรและทหารญวนที่ติดตามมาอีก 2 กองพันแตกกระจัดกระจายไป นับว่ากองทหารต่างชาติซึ่งผ่านการรบอย่างโชกโชนมาแล้วได้พินาศย่อยยับเกือบทั้งหมดทั้งกองพัน ด้วยพิษสงของทหารไทยทั้งกองพันทหารราบที่ 3 ในบังคับบัญชาของพันตรีขุนนิมมาณกลยุทธ สำหรับฝ่ายเราเสียชีวิตในที่รบ 1 นาย คือพลทหารจอน ปรีพงศ์ และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย

พันตรีขุนนิมมาณกลยุทธ ผู้บังคับกองพันซึ่งสร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ จนกองพันทหารราบที่ 3 ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญประดับธงชัยเฉลิมพล และได้รับสมญานามว่า “กองพันทหารเสือ” นั้น แต่เดิมท่านมีชื่อว่า พันตรีนิ่ม ชโยดม ต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนนิมมาณกลยุทธ ในโอกาสที่กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามแผนป้องกันประเทศบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับหน่วยนี้ได้สร้างวีรกรรมไว้ในอดีตเมื่อเดือนกันยายน พุทธศักราช 2526 ถึงเดือนกันยายน พุทธศักราช 2527

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการสู้รบแก่กำลังพลในหน่วย จึงได้อัญเชิญนามบรรดาศักดิ์ของท่าน คือ “นิมมาณกลยุทธ” อันมีความหมายว่า “ผู้วางแผนการยุทธ์อันล้ำเลิศ” มาเป็นชื่อฐานปฏิบัติการเพื่อระลึกถึงวีรกรรมของท่าน และกระตุ้นเตือนให้กำลังพลทุกนายได้ประพฤติปฏิบัติตามตัวอย่างอันดีงาม ดังเช่นวีรชนในอดีตของหน่วยได้กระทำมาแล้ว

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 ตุลาคม 2563

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วีรกรรมทหารไทยใน “สมรภูมิบ้านพร้าว” กองทัพฝรั่งเศสอันเกรียงไกรพ่ายยับ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

พระพุทธรูปทรงเครื่องฉลองพระองค์ 12 องค์ ในพระอุโบสถ วัดพระแก้ว แทนกษัตริย์และเจ้านายองค์ใดบ้าง?

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

26 กรกฎาคม 1956 อียิปต์ยึด “คลองสุเอซ” คืนจาก “อังกฤษ-ฝรั่งเศส”

16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เฉลว” เครื่องรางขับไล่ภูตผี มรดกความเชื่อโบราณกลุ่มชนคนไท

16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ดับบาวาลา” อาชีพส่งปิ่นโตในเมืองมุมไบ เก่าแก่กว่า 130 ปี ส่งแม่น ส่งไว ติดอันดับโลก

16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ภูวินทร์ และแฟนคลับ ร่วมบริจาคเงินช่วยโรงพยาบาลจากเหตุการณ์ ไทย-กัมพูชา และน้ำท่วม จ.น่าน

THE STANDARD

ดู The Fantastic Four ฟินกับ Street Market พร้อมเมนูสุดพิเศษจากหนัง

กรุงเทพธุรกิจ

ศูนย์พักพิงสัตว์เจอน้องแมวถูกทิ้งในรถเข็นเด็ก มีจดหมายฝากฝังจากเจ้าของเก่าทิ้งเอาไว้ น้องเป็นแมวน่ารัก แต่เลี้ยงต่อไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันกลายเป็นคนไร้บ้าน

CatDumb

เอส เอฟ จัดฉาย “นากรักมากม๊ากมาก” มอบรายได้ช่วยสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพธุรกิจ

ทำยังไงให้เรียนภาษาได้ไวกว่าเดิมในวัยทำงาน? เคล็ดลับสำหรับคนเวลาน้อย

sanook.com

รู้จัก “ภูมะเขือ” ยุทธศาสตร์สำคัญใกล้ปราสาทเขาพระวิหาร ที่ทหารไทยขึ้นไปปักธงไตรรงค์

Manager Online

ถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล พบ เอซี มิลาน ฟุตบอลอุ่นเครื่อง วันนี้

PostToday

UNIQLO : C เปิดตัวพาร์ตแรกของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

26 กรกฎาคม 1956 อียิปต์ยึด “คลองสุเอซ” คืนจาก “อังกฤษ-ฝรั่งเศส”

ศิลปวัฒนธรรม

“เฉลว” เครื่องรางขับไล่ภูตผี มรดกความเชื่อโบราณกลุ่มชนคนไท

ศิลปวัฒนธรรม

“ดับบาวาลา” อาชีพส่งปิ่นโตในเมืองมุมไบ เก่าแก่กว่า 130 ปี ส่งแม่น ส่งไว ติดอันดับโลก

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...