ญี่ปุ่นงัดไม้เด็ด ‘ลงทุนในสหรัฐ’ แต่ล้มเหลว ทรัมป์ไม่พอใจญี่ปุ่นไม่ซื้อรถอเมริกัน
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า ในการเจรจาภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่พอใจอย่างยิ่งที่ญี่ปุ่น “ไม่ยอมรับ” รถยนต์อเมริกัน จึงยังคงภาษีนำเข้าต่อญี่ปุ่นในระดับเดิมที่ 25%
เพื่อพยายามคลี่คลายการเจรจาที่ชะงักงันนี้ เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้เสนอแนวคิดที่จะลดภาษีโดยอิงจากส่วนแบ่งที่ญี่ปุ่นมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจากข้อมูลของ MarkLines ระบุว่า ในปี 2024 รถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐ มีจำนวน 10.79 ล้านคัน โดย 3.28 ล้านคันผลิตโดยผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น
แต่การอ้างถึงการลงทุนของญี่ปุ่นในสหรัฐกลับเป็นกลยุทธ์การเจรจาที่ “ไม่ได้ผล” โดยในจดหมายลงวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่น ทรัมป์ กล่าวว่า “เราต้องหลีกหนีการขาดดุลการค้าที่ยืดเยื้อและฝังรากลึกเหล่านี้”
“พวกเขาขายรถยนต์ให้เราหลายล้านคันในแต่ละปี” ทรัมป์กล่าวถึงญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ “เราไม่ได้ขายรถยนต์ให้พวกเขาเลย เพราะพวกเขาไม่ยอมรับรถยนต์ของเรา”
ด้านเคอิจิโร ทาชิบานะ รองหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในทุกๆ ประเด็น
“เราจะเดินหน้าการเจรจาระหว่างญี่ปุ่น และสหรัฐต่อไป และจะแสวงหาความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงที่ตอบสนองผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ ในขณะที่ยังคงปกป้องผลประโยชน์ของชาติเราเอง” ทาชิบานะ กล่าว
ก่อนหน้านั้น สหภาพยุโรปก็เคยพิจารณาข้อเสนอที่คล้ายกัน ในการลดภาษีรถยนต์โดยอิงจากการลงทุนในสหรัฐในช่วงหนึ่ง “แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ได้” และแนวคิดนี้ก็ถูกยกเลิกไปจากการเจรจา
ฝ่ายสหภาพยุโรปมีความกังวลว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจนำไปสู่การกัดกร่อนอุตสาหกรรมในยุโรป เนื่องจากฐานการผลิตจะย้ายไปยังสหรัฐ โดย “อุตสาหกรรมรถยนต์” เป็นอุตสาหกรรมหลักสำหรับญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนการจ้างงานในหลากหลายสาขา การประนีประนอมในด้านนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
นอกจากนี้ ด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 20 กรกฎาคม นี้ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเป็นพิเศษในการแสดงจุดยืนที่ดูเหมือนเป็นการยินยอม
เรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าผู้เจรจาของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “หากไม่มีข้อตกลงเรื่องรถยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลัก เราก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับภาพรวมทั้งหมดได้”
“นี่คือ การต่อสู้ที่ผลประโยชน์ของชาติเป็นเดิมพัน” อิชิบะ กล่าวในการปราศรัยหาเสียงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “เราไม่ควรถูกประเมินต่ำไป” เขากล่าว
ทั้งนี้ ด้วยเส้นตายที่ใกล้เข้ามา ญี่ปุ่นเหลือเวลาเพียงเล็กน้อยสำหรับการเจรจาก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันบังคับใช้ภาษีตอบโต้ โดยทรัมป์ กล่าวบน Truth Social แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขาว่า “จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงวันที่บังคับใช้ภาษีอีก”
สำหรับแนวโน้มการเจรจาในอนาคต ดูไม่สดใสนัก โดยสหรัฐไม่น่าจะปรับลดอัตราภาษีด้วยตนเอง เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่หลายคนกังวลว่าจะตามมา “ยังไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน” ในข้อมูลเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน ยิ่งภาษีที่สูงยังคงอยู่ต่อไปนานเท่าไร ผลกระทบต่อญี่ปุ่นก็จะยิ่งหนักขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ญี่ปุ่นต้องมองหาข้อต่อรองใหม่ๆ เพื่อลดความไม่สมดุลทางการค้า
อ้างอิง: nikkei
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์