โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

MIND: ผลวิจัย 40 ปีชี้ หากเด็กไม่เกิน 1 ขวบ สนใจสิ่งใหม่ๆ และมีสมาธิ เด็กคนนั้นมีแนวโน้มจะโตมา ‘ฉลาด’

BrandThink

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บทสนทนาเกี่ยวกับการ ‘เลี้ยงเด็ก’ ทุกวันนี้น้อยลงพอๆ กับจำนวนเด็กในสังคม ในอีกด้าน พอสังคมพูดคุยเรื่องพวกนี้กันน้อยลง พ่อแม่ของเด็กก็ยิ่งมีความเสี่ยงจะโดนหลอกลวงมากขึ้น สารพัดธุรกิจที่อ้างว่าสามารถทำให้เด็กเก่งกาจและฉลาดได้ โดยพ่อแม่จำนวนมากไม่รู้และไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยซ้ำว่าข้อมูลใดที่อุตสาหกรรมเหล่านี้นำเสนอคือสิ่งที่จริงหรือเท็จ หรือแต่งข้อมูล

เอาแค่ข้อถกเถียงคลาสสิกอย่างประเด็นว่าคนคนหนึ่งจะฉลาดนั้นขึ้นอยู่กับพันธุกรรมหรือการเลี้ยงดู จริงๆ แล้วพ่อแม่จำนวนมากยังไม่คุ้นเลย และนั่นก็อาจทำให้พ่อแม่พยายามไปทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในทางชีววิทยา อย่างการพยายามเข็นให้เด็กที่พื้นฐานไม่ฉลาดกลายเป็นคนฉลาด

คำถามคือ วิทยาศาสตร์รู้แค่ไหนว่า เด็กคนนี้จะเป็น ‘อัจฉริยะ’ หรือไม่ตั้งแต่เด็กๆ?

ถ้าจะอธิบายให้ง่ายและตรงก็คือ ไม่ได้รู้ขนาดนั้น แต่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่า จริงๆ แล้ว ‘ความฉลาด’ นั้นมีบางส่วนมาจากพันธุกรรมจริง และนั่นไม่ได้ดูที่ว่าพ่อแม่ฉลาดหรือไม่ เพราะนั่นเป็นเรื่องของพันธุกรรมของพ่อและแม่ที่ต่างจากเด็ก แต่เขาผ่านงานวิจัยที่ทำกันเป็นเวลา 40 ปี ผ่านการทดสอบฝาแฝดนับหมื่นคนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เล็กจนถึงอายุ 40 ว่าความฉลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

ถ้าจะสรุปง่ายๆ เขาบอกว่า อันที่จริงมีอยู่สองลักษณะของเด็กเล็กๆ อายุไม่เกิน 1 ขวบ ที่มีแนวโน้มจะเติบโตและมีไอคิว (IQ) สูง และสองลักษณะที่ว่านี้ก็คือ ‘ความสนใจในสิ่งใหม่ๆ’ และ ‘การมีสมาธิ’

เรื่องพวกนี้น่าสนใจที่จะนำไปต่อยอด เพราะมันจะทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่มโนไปเองว่าลูกตนเป็นอัจฉริยะ ซึ่งความหมายก็คือถ้าพ่อแม่พบลักษณะเหล่านี้ในตัวลูก ถ้ามีโอกาสก็ควรจะส่งเสริมด้านปัญญาให้แก่เขา เพราะเขามีศักยภาพเพียงพอ แต่กลับกัน ถ้าพ่อแม่อยากได้ลูกที่ฉลาด แต่เด็กๆ เขาไม่ได้มีลักษณะแบบนี้ ก็อาจต้อง ‘ทำใจ’ และไม่พยายามเคี่ยวเข็ญลูกให้เป็นอัจฉริยะระดับที่ฝืนธรรมชาติของเขา

ทั้งหมดนี้จำเป็น เพราะสุดท้ายการเลี้ยงลูกที่ ‘ดีต่อลูก’ ที่สุด ไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะมนุษย์ทุกคนต่างกัน ทั้งศักยภาพและความสามารถในการเรียนรู้เรื่องต่างๆ พ่อแม่ที่จะประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่ให้ใจหรือเทเงิน ให้ลูกเป็นอย่างที่ตนเองอยากให้เป็น แต่ต้องเป็นคนที่ ‘เข้าใจ’ สิ่งที่ลูกเป็น และส่งเสริมพัฒนาการของพวกเขาอย่างเหมาะสม

แน่นอน นี่เป็นเรื่องที่ต้องสังเกตจริงจังและใช้เวลา และมันก็สุ่มเสี่ยงพอควรถ้าจนถึงลูกเข้าประถมแล้ว พ่อแม่ยังไม่เข้าใจความถนัดของลูก แน่นอนว่าความยากจริงๆ ก็คือการก้าวให้พ้นอคติของตนเอง ไม่เห็นแต่สิ่งที่เราอยากเห็นจนมองข้ามศักยภาพอื่นๆ ของลูกเพราะอคติอย่างน่าเสียดาย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BrandThink

MIND: เจ้าของบริษัท AI แนะ เทคนิคในการพัฒนา ‘ภูมิปัญญาของมนุษย์’ ที่ AI เลียนแบบไม่ได้

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

SOCIETY: งานวิจัยชี้ คู่รักที่ ‘จูบ’ กันบ่อย มีแนวโน้มพอใจในรักมากกว่าคู่ที่แทบไม่จูบกันเลย

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ฝนถล่มอุดรฯ น้ำท่วมถนนหลายสายหนัก สุดยื้อชาวบ้าน 2 คนถูกไฟดูด ก่อนสิ้นใจที่โรงพยาบาล

Khaosod

แรงมาก เพจดังปูด 2 พระ-สีกากอล์ฟ แซ่บบนรถ แถม1 ในนั้นยังไม่ยอมสึก

TNews

เปิดใจ รองเจ้าคณะอำเภอ หลังถูกโยงโอนเงินให้สีกากอล์ฟ เผยผลสอบคณะสงฆ์ ชี้ความไว้ใจอาจกลายเป็นจุดอ่อน

Khaosod

‘หนุ่มเวียดนาม’ พลาดถูกไฟช็อต ‘สาวพีอาร์’ เข้าช่วยดับสลดคู่ เหตุจากฝนตกน้ำท่วมป้ายไฟ-หน้าร้านนวด

เดลินิวส์

ญี่ปุ่นตั้งทีมรับมือปัญหาต่างชาติทะลัก หวังกู้คะแนนเสียงก่อนเลือกตั้งสภาสูง

Manager Online

มีเด่นขีดแดง! เลขเด็ด “ปู่ซุ่มเงียบ” ลุ้นงวด 16 ก.ค.68

TOJO NEWS
วิดีโอ

เดชอิศม์ เตรียมไล่เช็ก เดินหน้าคืนที่ดินเป็นของการรถไฟฯยึดตามกฎหมายคดีค้างมานาน พิพากษาแล้วยังไม่คืน

BRIGHTTV.CO.TH

จีดีพีไตรมาส 2 จีนขยายตัวเกินคาด นักวิเคราะห์เตือนครึ่งปีหลังน่าห่วง

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...