กมธ.ทหาร สว. รอเคาะวันใหม่เชิญ “นายกฯ” ปัญหาชายแดน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.16 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 7 ก.ค.-กมธ.ทหาร สว. รอเคาะวันใหม่เชิญ “นายกฯ” แจงข้อเท็จจริงปัญหาชายแดน ทั้งไทย-กัมพูชา และชายแดนใต้ เผย “สินค้าหนีภาษี-ลักลอบเข้าเมือง” เป็นปัญหาใหม่หลังออกมาตราการปิดด่าน
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภาเลขานุการและโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึง กรณีที่ได้มีการเชิญนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมา ชี้แจงกรณีสถานการณสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความมั่นคงตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชา ว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาเห็นว่าข้อพิพาทบริเวณแนวชายแดนไทยเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนและผลประโยชน์ของประเทศชาติตามรัฐธรรมนูญ ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน อีกทั้งฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการทุกวิถีทางอันไร้ความจริงใจและ พยายามที่จะให้ได้เปรียบประเทศไทยในทุกด้าน
คณะกรรมาธิการจึงมีมติเชิญนายกรัฐมนตรีมาแถลงข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง ตามประเด็นข้อซักถามดังนี้ 1.ประเด็นจุดยืนและแนวปฏิบัติข้อพิพาทบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา จังหวัดจำนวน 12 ข้อเช่นจุดยืนต่อ MOU 43 MOU 44 การละเมิด MOU อย่างต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชา 2. ประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย หรือการปกป้องและดูแลประชาชนชาวไทยทุกกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ส่งสัญญาณแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมตัวจริงที่จะรับมือกับปัญหาชายแดนภาคใต้ด้วย
- ประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์และการต่อต้านการฟอกเงิน การขจัดธุรกรรมที่ผิดกฎหมายหรือที่ต้องสงสัยเพื่อป้องกันหรือปราบปรามและช่วยเหลือคนไทยให้ปลอดภัยจากการฉ้อโกงออนไลน์และการฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนต่างชาติ
นายไชยยงค์ ยังกล่าวต่อว่าวันนี้ปัญหาของไทย-กัมพูชาไม่ได้มีเรื่องชายแดนความมั่นคง อธิปไตยและ บูรณภาพแห่งดินแดนอย่างเดียว แต่สถานการณ์ที่เกิดใหม่ จากมาตราการปิดแนวชายแดนและการใช้มาตรการต่างๆในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน ทำให้เกิดปัญหาใหม่ มีกระบวนการกองทัพมดมีการนำเข้าและส่งออกสินค้าหนีภาษีของทั้งสองมาค้าขายตามแนวชายแดน ,เกิดช่องทางการหลบหนีการเข้าเมือง นี่คือปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นจากผลกระทบซึ่งรัฐบาลไม่ได้ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร
นายไชยยงค์ กล่าวต่อว่า เดิม การเชิญนายกรัฐมนตรี กำหนดไว้วันที่ 16 กรกฎาคม แต่สถานการณ์การเมืองเปลี่ยน ทำให้วันที่9 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุมเพื่อกำหนดวันเชิญมาชี้แจงใหม่อีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องการเชิญนายกรัฐมนตรี หรือรักษาการนายกรัฐมนตรี หรือ จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงแทนก็ได้
ส่วนชะลอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 153 นั้น เพราะการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงมีการปรับคณะรัฐมนตรีทำให้ต้องรอให้ผ่านระยะเวลาไปอีกช่วงหนึ่งก่อน.-312.-สำนักข่าวไทย