จับตา ส้ม-น้ำเงินดีลลับ"นายกฯชั่วคราว"เขย่าอำนาจ"เพื่อไทย"
สถานการณ์การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่ช่วงเวลาที่เปราะบางและเต็มไปด้วยเดิมพันสูง ภายหลังการเผชิญภาวะ "ทางตัน" ทางการเมือง ได้จุดกระแสแนวคิด "นายกรัฐมนตรีชั่วคราว" ขึ้นมาเป็นทางออกสำคัญ
ท่ามกลางเกมชิงอำนาจและ "ดีลลับ" ข้ามขั้วที่กำลังก่อตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับตาความร่วมมือระหว่าง "พรรคประชาชน" (สีส้ม) และ "พรรคภูมิใจไทย" (สีน้ำเงิน) ที่อาจผนึกกำลังเขย่าเก้าอี้รัฐบาล "เพื่อไทย" ในช่วง "60 วันอันตราย" นี้
ทางตันการเมือง: จุดกำเนิด "นายกฯ ชั่วคราว"
การเมืองไทยกำลังเผชิญหน้ากับภาวะทางตันที่ชัดเจน ซึ่งนำไปสู่การหารืออย่างกว้างขวางเกี่ยวกับแนวคิดการมี "นายกรัฐมนตรีชั่วคราว" หรือนายกรัฐมนตรีคนกลาง เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
แคนดิเดตที่ถูกจับตา: การพูดถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ทำให้หลายชื่อถูกหยิบยกขึ้นมาโดยเฉพาะ
นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย): ยังคงเป็นตัวเต็งที่น่าจับตาจากพรรคแกนนำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย): ถูกมองว่ามีโอกาสสูงอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะหากมีการ "ดีล" ข้ามพรรคเกิดขึ้น
เกม "ดีลเปลี่ยนขั้ว": "ส้ม" กับ "น้ำเงิน" ผนึกกำลังเขย่าบัลลังก์
กระแส "ดีลเปลี่ยนขั้ว" กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในแวดวงการเมือง โดยเฉพาะการจับตาไปที่การรวมพลังระหว่างพรรค "สีส้ม" (พรรคประชาชน/ก้าวไกล) และพรรค "สีน้ำเงิน" (พรรคภูมิใจไทย)
มีการกล่าวถึงการหารือเบื้องหลังที่มีบุคคลอย่าง "ไอซ์" และ "โรม" รวมถึง "ทอม" ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ประสานงาน
ทั้งนี้ พรรคประชาชนาชนได้กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนในการลงคะแนนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยจะยังคงทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และไม่เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อป้องกันทางตันทางการเมือง และผลักดันให้มีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
แผน 7 ข้อ: พรรคประชาชนได้วางแผน 7 ข้อ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการมีรัฐบาลที่มีศักยภาพ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว และความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
กรอบเวลาและประชามติ: เงื่อนไขสำคัญคือรัฐบาลชั่วคราวต้องกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการยุบสภา (เช่น ภายในสิ้นปี) และดำเนินการจัดประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
คำเตือนเข้มข้น: พรรคประชาชนเตือนว่า หากรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ก็จะใช้เสียงในสภาเพื่อ "ล้มรัฐบาล"
ความท้าทายและความกังวล: "ดีล" จะยั่งยืนจริงหรือ?
แม้จะมีแนวคิดและเงื่อนไขที่ชัดเจน แต่ก็ยังมีความกังวลและความท้าทายหลายประการที่รออยู่
ความน่าเชื่อถือของพรรค "สีน้ำเงิน" มีข้อสงสัยว่าจะยึดมั่นในเงื่อนไขของพรรค "สีส้ม" ได้จริงหรือไม่ มีการยกตัวอย่างพฤติกรรมในอดีตที่ถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ
ความเป็นไปได้ของการปฏิรูป: การแก้ไขรัฐธรรมนูญและการจัดประชามติภายในกรอบเวลาอันสั้นก่อนการยุบสภา ยังเป็นคำถามถึงความเป็นไปได้ในการปฏิบัติจริง
กลยุทธ์ของ "เพื่อไทย" และสถานการณ์ "60 วันอันตราย"
หาก "แพทองธาร" ลาออก พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องมั่นใจว่าจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ (มากกว่า 250 เสียง) สำหรับแคนดิเดตคนต่อไป ซึ่งน่าจะเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ โดยจะต้องมีการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเพื่อรวบรวมเสียงให้ได้
สถานการณ์ทั้งหมดนี้ถูกเรียกว่าเป็น "60 วันอันตราย" ซึ่งการเกิดขึ้นของ "นายกรัฐมนตรีชั่วคราว" จะเป็นพัฒนาการสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเส้นทางข้างหน้าของการเมืองไทยยังคงเป็นข้อกังวลหลักสำหรับประชาชนทุกคน
ท่ามกลางเกมชิงอำนาจที่ซับซ้อนและผลลัพธ์ที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้.
ที่มาประกอบเนื้อหา เนชั่นสุดสัปดาห์