คนเดียวกันป่าววะ!?!?!!?

ออกตัวเลยว่า ผมไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ และไม่ทราบรายละเอียดจริงๆ แต่เรื่องราวสีกา กอล์ฟ ทำให้มีข้อสงสัยเยอะแยะมากมายครับ

ครั้งแรกที่ เห็นข่าวเรื่องนี้ มีคนมาปล่อยรูปสีกา กอล์ฟ เป็นรูปผ่านโซเชียล และเป็นรูปที่เธอดูดีมาก ในฐานะคนปากสุนัข ผมคิดขำๆ ในใจว่า ถ้าเป็นสีกาในรูป ผมเข้าใจว่า ทำไมหลวงพ่อทั้งหลายนั้น ยอมปราชิก ถ้าเป็นคนในรูปจริงๆ พอเข้าใจได้ครับ ถึงแม้บาปก็ตาม แต่ในฐานะผู้ชาย…เข้าใจครับ

เห็นรูปผ่านตาแว๊บๆ ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรกับข่าวต่อไป แต่พอเห็นรูป ผู้หญิงคุยกับบิ๊กตำรวจหน้าบ้าน และมีพาดหัวข่าวว่า สีกากอล์ฟ ถูกจับถึงบ้าน และเขียนระบุชัดเจนว่า ผู้หญิงในรูปคือ สีกา กอล์ฟ ผมชะงัก อย่าว่าแต่ผมเลย ผมเชื่อว่า คนไทยทุกคน คิดเหมือนผมว่า…อะไรวะ!?!?! คนเดียวกันป่าววะ!?!?!? คนนี้เหรอ!?!?!

เห็นข่าวครั้งแรก ผมนึกว่าตำรวจคุยกับ เพื่อนบ้าน เนื่องจากสีกา กอล์ฟ ไม่อยู่บ้าน หรือคุยกับแม่บ้านของ สีกา กอล์ฟ ผมไม่ได้นึกว่า คนนี้คือ สีกา กอล์ฟ ผมเลยอดคิดคำๆ….ตามนิสัยคนปากสุนัข…ว่าจะปราชิกทั้งที จะเสียชื่อทั้งที จะเสียเกียรติ ประวัติ หลวงพ่อทั้งที เลือกคนที่ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ?

เอาเถอะครับ ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคน คงคิดมุกตลกๆ เรื่อง สีกา กอล์ฟ สารพัดต่างๆนานา แต่เมื่อหมดช่วงขำกัน เรื่องที่เหลือคือเรื่องเศร้า

เศร้าที่บนโลกนี้ คนอย่าง สีกา กอล์ฟ มีไม่น้อย ข่าวเรื่อง พระมีเซ็กส์กับ สีกา (และโยม) ไม่ใช่เกิดครั้งนี้ครั้งเดียว และไม่ใช่ครั้งนี้จะครั้งสุดท้าย ตราบใดที่มีฝ่ายไม่กลัวบาป (ไม่ว่าจะหญิง หรือชาย) และไม่คิดว่าการมีเพศสัมพันธ์กับ พระภิกษุสงฆ์ เป็นเรื่องผิด โลกของเราอยู่ยากครับ ผมเข้าใจว่าทุกๆคน มีความต้องการทางเพศ ที่ฝังลึกอยู่ในใจ มันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ และถือเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ ต่างคนต่างชอบในสิ่งที่ตัวเองชอบ และ/หรือ ตัวเองต้องการ สิ่งที่ตัวเองต้องการ

ปกติแล้ว ถ้าสิ่งที่ตัวเองชอบและ สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ได้ละเมิดคนอื่น ไม่ได้ผิดกฎหมาย ถือว่า เป็นสิทธิของคนๆนั้นไป เพราะใครจะห้าม และใครจะเป็นคนบอกว่า ความต้องการของคนอื่น “ผิด”? เราอยู่ในประเทศไทยนะครับ ไม่ได้อยู่สิงคโปร์ ไม่ดีอยู่กัมพูชา ไม่ได้อยู่เกาหลีเหนือ ที่เสรีภาพอยู่ในกรอบ และต้องอยู่ในโอวาท

แต่สีกาที่ ต้องการมีอะไรกับพระ ไม่รู้สิครับ ผมว่าทุเรศ ผมไม่มีคำอื่นจะบรรยาย และไม่มีคำอื่นจะใช้ มีแต่คำว่า…ทุเรศ ไม่รู้จะประนามอย่างไร ไม่รู้จะสาปแช่งอย่างไร ไม่รู้จะต่อว่าอย่างไร เพราะถ้าเขาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว พูดอะไรไปก็เท่านั้น รู้แต่ว่า เขารับกรรมของเขา รับกรรมที่เขาสร้างเอง เลยช่วยไม่ได้ถ้าชาติหน้าเขาเกิดมาเป็น แมลง หรือถ้าได้เกิดเป็นคน คงได้เกิดเป็นโสเภณี

แต่เรื่องแบบนี้ ปรบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกครับ พระต้องเล่นด้วย ส่วนจะ ถูกวางยา จะถูกบังคับ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกิดอารมณ์ชั่ววูบ หรือขาดสติชั่ววูบ อะไรก็แล้วแต่ครับ เหตุเกิดขึ้นมาแล้ว สำหรับพระองค์ได ถูกเวตมนต์ดำหรือไสยศาสตร์ ผมเห็นใจจริงๆ เพราะโลกด้านมืด ที่เต็มไปด้วยศาสตร์แบบนั้นมี และคนที่ไม่เกรงกลัวบาป ไม่สนหรอกว่า ใช้เวทย์มนตร์ดำ เพื่อได้สิ่งที่ต้องการ มันเลวทรามอย่างไร เขารู้อย่างเดียวว่าเขาต้องการ และต้องได้ในสิ่งที่ เขาตั้งใจไว้

ผมไม่ได้ออกตัวให้หลวงพ่อทั้งหลาย ผิดหรือถูก เพราะผมไม่ทราบรายละเอียดอะไรเลย สำหรับเรื่อง สีกา กอล์ฟ ที่ต่างคนต่างบอกว่าศาสนาพุทธจะเสื่อม และคนจะหมดความศรัทธา ผมไม่เคยเชื่อครับ

ช่วงหยุดยาวนี้เป็นช่วงวันอาสาฬหบูชา กับวันเข้าพรรษา สำหรับทุกข์หนึ่งคนเลวๆอย่าง สีกา กอล์ฟ และทุกหนึ่งพระเลว ประเทศเรายังมี คนดีอีก 100 และพระดี อีก 100 ในวันอาสาฬหบูชาผมได้พาลูกไปเวียนเทียนที่วัดใหญ่ชัยมงคล ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คนแน่นวัด และคนเวียนเทียนด้วยใจ บางคนอาจถูกบังคับ จากแฟนจากครอบครัวบ้าง แต่เขาก็ยังมา ซึ่งเขานอนอยู่บ้านก็ได้ ไม่มาเลยก็ยังได้ แต่เขาเลือกมาเวียนเทียนที่วัด

แต่ถ้าถามว่าทุกคนที่มาเวียนเทียนในวันอาสาฬหบูชา เป็นคนดีหมด ไม่ใช่เลยครับ ไม่ใช่ว่าเพราะไปวัด เพราะไปเวียนเทียนเพราะไปกราบพระ คุณเป็นคนดีโดยอัตโนมัติ ไม่เกี่ยวแล้วไม่ควรเกี่ยวด้วยซ้ำ ผมขอถามตรงๆว่า ถ้าเห็นคนเข้าวัดแน่นๆ จะรู้สึกอุ่นใจใช่ไหมครับ? ถ้าผมบอกว่า คนที่ไปเวียนเทียน เกินครึ่งไปเพราะ อำนาจหน้าที่ และตำแหน่งบังคับ ให้เขาต้องไป อันนั้นโอเคไหมครับ? หรือ อีกจำนวนหนึ่ง ที่ทำให้วัดแน่น ไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะอยากถูกหวย แบบนั้นโอเคไหมครับ?

เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่เข้าวัด ไปด้วยใจหรือไม่ และไม่ใช่หน้าที่ของเราด้วย แต่เราจะวัดอย่างไรว่า ศาสนาจะเสื่อม? วัดจากจำนวนคนเข้าวัด? วัดจากเงินบริจาค? วัดอย่างไรครับ? ในฐานะที่ผมเคยบวชเข้าพรรษา และบวชอีกรอบหลังคุณพ่อเสีย ไม่ใช่ว่าเพราะคุณห่มจีวร คุณกลายเป็นคนดี การห่มจีวรเป็นพระ แสดงเจตนาที่ดีจริง แต่ก่อนเป็นพระคุณเป็นคนๆหนึ่ง คุณเคยมีนิสัยอย่างไร น่าคบอย่างไร ตอนเป็นโยมนั้น เมื่อเป็นพระ ก็คือคนๆเดียวกัน เพียงแต่ห่มจีวร

ห่มจีวร ไม่ได้เปลี่ยนนิสัยของคนได้หรอก ถ้าตอนเป็นโยมเป็นคนไม่น่าคบ ตอนเป็นพระ ก็ไม่ต่าง

ดังนั้นผมไม่เชื่อว่าศาสนาพุทธของเราจะมีวันเสียครับ อยู่ม่าเกิน 2500 ปีมาแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ผ่านการกระทำพระเลวๆ มาแยะ และผ่านประเภท “สีกา กอลฟ์” กี่ราย? ไม่เคยเสื่อมลง เพราะพระดีๆมีเยอะกว่า พระที่ควรบูชา พระที่ควรนับถือ จะมีเยอะกว่าตลอดไปครับ ถ้าหาว่าผมมองโลกสวย สวยก็สวยครับ

ขอทิ้งท้ายคอลัมน์ในวันนี้ ด้วยการไว้อาลัยให้ นายสุนทร สิงหจินดาวงศ์ หรือ คุณโต สำหรับพวกเราที่อยู่เมืองทองธานี เราจะคุ้นกับคุณโตกันไม่น้อย คุณโตเป็นช่างทำผม ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เขามีลูกค้าเยอะ ซึ่งไม่ใช่ลูกค้าเฉพาะในหมู่บ้านนี้ แต่มาจากที่อื่นเยอะพอๆ กัน เขาตัดผมทั้งหญิงและชาย ด้วยฝีมือระดับประเทศ

เขาเป็นช่างของผมเกือบ 30 ปี สำหรับคนเรา การหาช่างที่ถูกใจ มันเป็นรางวัลของชีวิตที่ล้ำค่า การเดินเข้าไปในร้านตัดผม โดยที่ไม่ต้องกังวลว่า “จะตัดเบี้ยวป่าววะ?” “เราจะดูเด๋อไหม?” “จะตัดเป็นเปล่าวะ?” เมื่อมีช่องประจำเราไม่ต้องกังวลอะไร เราเดินเข้าไปในร้านด้วยความสบายใจ นั่งปุ๊บเตรียมตัวเม้าท์ทันที

ตอนผมอยู่อินโด สิ่งแรกที่ผมต้องคิดหนักคือ “จะตัดผมที่ไหนวะ?” อย่าว่าแต่ต้องหาช่างใหม่ ผมต้องหาช่างในประเทศที่ผมไม่คุ้น ผมกังวลมากครับ ไม่แน่ใจว่าคนอื่นคิดเหมือนผมหรือไม่ แต่ผมคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า ในชีวิตคนเราสิ่งที่ควรอยู่ใกล้บ้านคือ ตลาด ที่ออกกำลังกาย ที่นวด และที่ตัดผม ส่วนอื่นๆว่ากันไป

บังเอิญแถวบ้านในอินโด ผมเจอร้าน ตัดผมผู้ชายที่ดูดี เลยเดินเข้าไป พอเดินเข้าไปผมรู้สึกดี บรรยากาศทำให้ผมรู้สึกมั่นใจ แต่พอช้างเดินเข้ามา แล้วผมเห็นทรงผมเขา ผมรู้เลยว่าผมไม่เอาแน่ เพราะเขาไว้ทรงทหาร ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าถ้าผมตัดกับเขา ผมจะกลายเป็นหัวเกรียนหรือไม่ เลยทำเป็น ถามราคาแล้วเดินออกไป โดยที่รู้แน่ๆว่าไม่มีทางกลับมา

บังเอิญโชคดีที่ ตอนอยู่อินโดผมต้องเดินทางบ่อย และเวลาเดินทางเดินทางออกจากบ้านเราง่ายกว่า ผมถึงมีโอกาสกลับบ้านบ่อย เลยถือโอกาสตัดผมกับคุณโตต่อ

ครั้งแรกตัดกับคุณโต เขาเปิดร้านในเมืองทองใหม่ๆ และตอนนั้นผมยังไม่มีช่างประจำ คือผมตระเวนหาช่างร้านนี้บ้าง ร้านนู้นบ้างแต่ไม่ถูกใจสักคน จนคุณแม่ผมบอกว่า “ลองตัดกับร้านใหม่ที่ชื่อคุณโต เขาน่าจะตัดดีเพราะ เขาเป็นเกย์” ผมเลยลองตัดดู และครั้งแรกที่ตัดคุณโต เขาว่า “ตัดครั้งแรก อาจไม่ถูกใจ เพราะเราเพิ่งรู้จักกัน และยังไม่คุ้น” ซึ่งจริงของเขาครับ ครั้งแรกไม่ถึงกับถูกใจมาก แต่พอกลับไป พอคุ้นเคยกัน พอรู้ใจกัน ผมเป็นลูกค้าเขาตลอดถึง (เกือบ) 30 ปีครับ

ขอให้คุณโตนอนหลับสบายครับ ไม่ทรมานแล้ว ไม่เหนื่อยแล้ว ขอขอบคุณมิตรภาพดีๆ ที่มีมายาวนานถึง 30 ปีครับ