ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 3.22 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง
ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร
ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง 1 กิโลเมตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้ทำหนังสือแจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าจะมีการทำลายระเบิด เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
สำหรับลูกจรวด PG-7 รัศมีการยิง 1,500 เมตร ใช้สำหรับการสู้รบ คาดว่าทางกัมพูชาพยายามยิงใส่รถถังของไทย เพื่อต่อต้านรถถังเจาะเกาะโดยเฉพาะ ในการทำลายหัวจรวด PG-7 ครั้งแรกยังเหลือส่วนหัว จึงต้องมีการทำลายอีกหนึ่ง เสียงดังสนั่นลั่นสวนป่ายาง
เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC เป็นวันแรก ที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นการกำหนดกรอบและข้อตกลงระหว่างไทยและกัมพูชา ส่งผลถึงประชาชนในพื้นที่ที่มีความกังวลสำหรับคืนแรกของการประชุม GBC ทำให้เมื่อคืนนี้ ชุด ชรบ.หมู่บ้านติดชายแดน มีการตรวจตราเข้มงวดเป็นพิเศษ
ทีมข่าวสำนักข่าวไทยมีโอกาสติดตามการทำงานของชุด ชรบ.อ.กันทรลักษ์ ต้องยอมรับว่าเมื่อคืนบรรยากาศเงียบมาก มีเพียงชุด ชรบ.หมู่บ้านที่ออกตรวจตรา ซึ่งมีทั้งอยู่ประจำจุดเดินตรวจตราและตรวจรถที่สัญจรผ่าน แม้จะมีน้อยแต่ก็ต้องตรวจ รวมทั้งเสียงหมาหอนที่มีอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้คุยกับเจ้าของร้านชำในหมู่บ้าน แม่ไลย์ วัย 62 ปี ยอมรับว่าไม่สามารถไปอยู่ที่ศูนย์อพยพ เนื่องจากสามีอายุ 71 ปี มีโรคประจำตัว เส้นเลือดในสมองตีบ โรคความดันสูง ผ่าตัดเข่า ผ่าหลัง เดินไม่สะดวก จึงต้องอยู่ดูแลที่บ้าน ส่วนลูกหลานและหลานไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง แต่คืนนี้ลูกสาวพาหลานชายกลับมาเยี่ยมยาย ปกติหลานจะนอนกอดยายทุกคืน วันนี้เมื่อมาเจอยายหลานจึงคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง พรุ่งนี้คงต้องหลานกลับไปศูนย์พักพิง ยอมรับกังวลในความปลอดภัย นอนไม่หลับ ต้องใช้ยานอนหลับ อยากให้เหตุการณ์ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง
เมื่อคืนนี้ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าสามารถบันทึกภาพโดรนขณะบินผ่านบนท้องฟ้าเอาไว้ได้ แต่บินในระดับค่อนข้างสูง โดยได้มอบคลิปให้กับทีมข่าว จากคลิปจะเห็นดวงไฟกะพริบ 2 จุด ทำให้ยิ่งกังวลในความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย