“กัลฟ์”มอบ 18 ล้านบาท หนุนรพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล
บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้สนับสนุนงบประมาณกว่า 18 ล้านบาท แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร เพื่อจัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อน ทำให้ทีมแพทย์เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยี EUS-RFA ในการทำลายเนื้องอกตับอ่อนแบบไร้แผลได้สำเร็จเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทกัลฟ์มีความมุ่งมั่นสนับสนุนการศึกษาและสาธารณสุขมาโดยตลอด โดยเฉพาะการจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลของรัฐ เพื่อมีส่วนร่วมมอบเทคโนโลยีนี้ให้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้จำนวนมาก
การสนับสนุนในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมความพร้อมด้านเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของทีมแพทย์ เราหวังว่าผู้ป่วยจะสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และโรงพยาบาลจะมีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในระยะยาว นำมาซึ่งสุขภาพกายที่แข็งแรงและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วยและโรงพยาบาล
รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อํานวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้รักษาผู้ป่วยมาหลายปี และได้รับผลลัพธ์ที่ดี การจัดงานในวันนี้มีขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน แพทย์ และพยาบาล เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีส่องกล้องรักษาเนื้องอกตับอ่อนโดยไม่ต้องผ่าตัด ขอบคุณ GULF ที่ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งมาโดยตลอด
รศ.นพ.ประเดิมชัย คงคำ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยโรคตับอ่อน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และผู้ช่วยอธิการบดีด้านแผนและงบประมาณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันการรักษาแบบมาตรฐานของโรคเนื้องอกตับอ่อน คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อนำเนื้องอกออก ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ ซับซ้อน ใช้เวลานาน 6 – 8 ชั่วโมง เสี่ยงต่อการเสียเลือดและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ บางรายต้องดูแลต่อในห้องผู้ป่วยวิกฤต
ด้วยเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล (Endoscopic Ultrasound-Guided Radiofrequency Ablation, EUS–RFA) เป็นนวัตกรรมที่ผสานการส่องกล้องอัลตราซาวด์ผ่านทางเดินอาหาร (Endoscopic Ultrasound – Guided, EUS) เข้ากับการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency Ablation, RFA) เพื่อรักษาเนื้องอก หรือรอยโรคภายในอวัยวะในช่องท้อง โดยเฉพาะตับอ่อน ตับ ต่อมน้ำเหลือง และทางเดินน้ำดี ด้วยความแม่นยำสูง ภายใต้การมองเห็นแบบ Real–time ทำให้สามารถระบุตำแหน่งรอยโรคและส่งเข็มพิเศษที่มีขั้ว RFA เข้าไปยังเป้าหมายโดยตรง จากนั้นปล่อยพลังงานความร้อน เพื่อทำลายเนื้องอกเฉพาะจุด โดยไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงมากนัก ที่สำคัญยังใช้เวลาในรักษาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง และยังสามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น อาทิ เคมีบำบัด หรือใช้เป็นการรักษาหลักในผู้ป่วยที่ไม่สามารถผ่าตัดได้อีกด้วย
“เนื่องจากตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยที่เป็นเนื้องอกตับอ่อน จะมีปริมาณอินซูลินสูงกว่าปกติ จึงมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำตลอดเวลา ในรายที่อาการไม่มากอาจจะมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศรีษะ หิวบ่อย มือสั่น ในสั่น เหงื่อแตก หรือผู้ป่วยบางรายต้องรับประทานอาหารบ่อยถึงวันละ 6 มื้อ เพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บางรายที่มีอาการมาก อาจจะรุนแรงถึงชักหรือหมดสติได้ ด้วยเหตุนี้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงได้นำเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนมาใช้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้แทนการผ่าตัด ทำให้ฟื้นตัวเร็ว และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำกิจวัตรประจำวันและรับประทานอาหารได้ตามปกติ ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง การรักษาด้วยเทคโนโลยีนี้ถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและในอาเซียน”
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO