ยังระอุ! เขมรยิงยันเช้าแม้ตกลงหยุดยิง ชาวบ้านเคียงข้างสู้ซักผ้าให้ทหาร
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามอำเภอใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา เช้าวันนี้ (30 ก.ค. 2568) หลังจากที่มีการพูดคุยระดับทหารในพื้นที่ และสามารถตกลงกันได้ถึง 7 ข้อ เมื่อวานที่ผ่านมา (29 ก.ค. 2568) ล่าสุดพบว่าบรรยากาศในช่วงเช้ายังคงมีชาวบ้านบางส่วนออกมาใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์เช่นปกติ จากการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่พบว่า ประชาชนจำนวนมากยังคงไม่เชื่อมั่นในท่าทีของฝ่ายกัมพูชา โดยให้ความเห็นว่า “เขมรเสียหายเยอะ ยังไงก็ต้องเอาคืน ใจมันได้แล้ว” พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดการกับผู้นำต้นเหตุความขัดแย้ง
ต่อมาผู้สื่อข่าวพบกับชาวบ้านอีกรายหนึ่งที่กำลังซักและตากเสื้อผ้าให้กับทหารกล้า ซึ่งก็คือ นางอมรรัตน์ อายุ 53 ปี โดยเธอได้นำเครื่องแบบทหารแนวหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนมาซักให้ฟรีโดยไม่คิดค่าบริการ พร้อมกล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือทหารกล้า ผู้คอยปกป้องพวกเราให้พ้นจากภัยศัตรู วันนี้นำมาซัก 10 ชุด ไม่รู้ว่าทหารที่มาประจำจุดนี้เป็นใคร มาจากไหน แต่ก็นับถือ และเรียกพวกเขาว่าลูก ถ้ายังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่ ก็จะช่วยซักผ้าให้ลูกๆ ทหารต่อไป
นางอมรรัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทหารกล้าทุกนาย ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เอาให้หนักไปเลย ทหารกัมพูชาจะได้ไม่กล้าหือกับเราอีก
ด้านนายบุญรัตนา อุบล อายุ 52 ปี สมาชิกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่เฝ้าตรวจตราในชุมชนมาตลอดทั้งคืน โดยกล่าวว่า เมื่อคืนตั้งแต่เวลา 18.00 น. ทหารกัมพูชายังยิงปืนเล็กและปืนจากรถถังเข้ามาฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง จนถึงเช้าประมาณ 07.00 น. ถึงเพิ่งหยุดยิงไปเมื่อสักพัก ส่วนตัวไม่ไว้ใจ เพราะเชื่อว่ายังไงก็ไม่หยุดยิงแน่นอน
ขณะที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระหว่างทางพบว่าถนนสายหลัก 4 เลน บริเวณก่อนถึงจุดที่ระเบิดตกใกล้ร้านสะดวกซื้อ ถูกปิดให้เหลือเพียง 2 เลน เป็นระยะทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร พร้อมมีป้ายเตือนว่า “ระวังมีระเบิดที่ยังไม่เก็บกู้” เมื่อไปถึงหมู่บ้านดังกล่าว พบว่ามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเดินทางกลับจากศูนย์อพยพตั้งแต่เช้า เพื่อมาดูบ้านและให้อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น หมู หมา เป็ด ไก่ และวัวควาย แต่หลังจากนั้นต้องรีบออกจากพื้นที่เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากละแวกดังกล่าวมีบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหายจากการยิงปะทะ โดยชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวว่า เกิดมาก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์รุนแรงขนาดนี้ ทหารยิงปืนมาตกฝั่งไทยโดยไม่คำนึงถึงประชาชนเลย
ขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ พบว่ามีการเคลื่อนศพทหารกล้ากลับสู่บ้านเกิด โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเปิดเผยว่า วันนี้จะมีศพทหาร 2 นาย ออกจากโรงพยาบาล เพื่อส่งกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดของแต่ละคน ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดของครอบครัวและประชาชนที่มาให้กำลังใจ.