Silent Stroke สู่ Stroke นาทีชีวิต ภัยเงียบสมองขาดเลือด ที่ป้องกันได้ถ้ารู้ทัน
Silent Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมอง คือ ภาวะที่หลอดเลือดสมองขนาดเล็กเกิดการอุดตันหรือตีบตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองสูญเสียการทำงานบางส่วนไปแบบเงียบๆ แต่ผู้ป่วยไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน หรืออาจไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรคนี้ แม้จะไม่มีอาการแสดง แต่ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับสมองได้ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองแบบเฉียบพลัน หรือภาวะสมองเสื่อมในภายหลังได้
โดยSilent Stroke มักพบในกลุ่มผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์จัด รวมถึงผู้ที่หายจากโควิด-19 ที่มีปัญหาหลอดเลือดอักเสบ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Silent Stroke น่ากลัว เพราะเหมือนสัญญาณเตือนถึงความเสียหายของหลอดเลือดในสมองที่สะสมเรื่อยๆ และอาจเพิ่มโอกาสในการเกิด Stroke แบบเฉียบพลัน
เมื่อ Silent Stroke นำไปสู่ Stroke แบบเฉียบพลัน นาทีชีวิตที่ต้องรู้ทัน
"โรค Stroke" หรือ "โรคหลอดเลือดสมอง" คือ ภาวะที่หลอดเลือดในสมองมีการตีบตันหรือแตกอย่างเฉียบพลัน ทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนนั้นหยุดชะงักลง เมื่อสมองขาดเลือดก็ส่งผลให้เนื้อสมองถูกทำลายและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และเนื้อสมองส่วนนั้นตายลง ส่วนอาการแสดงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง และตำแหน่งของสมองที่ถูกทำลาย แต่ที่เราสามารถสังเกตได้นั้นมีหลายอย่าง เช่น
- ชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน
- พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว มุมปากตก น้ำลายไหล กลืนลำบาก
- ชาหรืออ่อนแรงที่แขน ขา ซีกใดซีกหนึ่งอย่างฉับพลัน เดินเซ สูญเสียการทรงตัว
- ตามัว มองเห็นภาพซ้อนหรือครึ่งซีก หรือตาบอดข้างเดียวอย่างฉับพลัน
- มีอาการปวดศีรษะอย่างฉับพลัน
อาการเหล่านี้ อาจเกิดเพียงอาการเดียวหรือหลายอาการร่วมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสมองที่สูญเสียหน้าที่ไป บางรายอาจมีอาการผิดปกติเหล่านี้ชั่วขณะ แล้วก็ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากสมองขาดเลือดชั่วคราว (Mini Stroke) แต่ไม่ว่าอย่างไร หากมีอาการดังกล่าวเกิดขึ้น ไม่ควรรอดูอาการ ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้แพทย์เฉพาะทางตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและทำการรักษาโดยทันที
Stroke รักษาได้…ลดการสูญเสีย หากทันเวลา
การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง จะขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของโรค ว่าเป็นหลอดเลือดสมองตีบ ตัน หรือหลอดเลือดสมองแตก ซึ่งแต่ละอาการจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน
1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตันเป้าหมายของการรักษา คือทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ โดยทางเลือกในการรักษามีหลายวิธีเช่น
- การให้ยาละลายลิ่มเลือด
- การขยายหลอดเลือด ในบางกรณี
- การลากลิ่มเลือด โดยการสอดสายผ่านเข้าไปในหลอดเลือดสมองโดยตรง
ซึ่งพบว่าจะได้ผลดีกับผู้ที่มีอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และมาถึงโรงพยาบาลเร็ว โดยได้รับการรักษาในระยะเวลาไม่เกิน 4.5 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ
2. หลอดเลือดสมองปริแตกหรือฉีกขาด
เป้าหมายของการรักษา คือ การควบคุมปริมาณเลือดที่ออก และลดความดันในสมองอย่างรวดเร็ว ในกรณีที่มีเลือดออกจำนวนมากในสมอง แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดเพื่อป้องกัน และลดความเสียหายต่อสมองที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทุกวินาทีมีค่า สำหรับโรคหลอดเลือดสมอง
Silent Stroke แม้จะไม่แสดงอาการเหมือน Stroke แบบเฉียบพลัน แต่สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการทำ MRI สมอง, CT Scan และ AI Brain Scan (RAPID software) ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงการตรวจสุขภาพประจำปี ควบคุมความดัน เบาหวาน ไขมัน เลิกบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ล้วนเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง และหากวันใดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น การนำส่งผู้ป่วยให้อยู่ในความดูแลของแพทย์เร็วมากเท่าไร อัตราความสูญเสียก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น และเพิ่มโอกาสในการฟื้นคืนคุณภาพชีวิตได้มากที่สุด เพราะทุกวินาทีมีค่าสำหรับชีวิตสมอง
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์สมองและกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Silent Stroke สู่ Stroke นาทีชีวิต ภัยเงียบสมองขาดเลือด ที่ป้องกันได้ถ้ารู้ทัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Stroke in the Young เมื่อโรคหลอดเลือดสมองไม่ใช่แค่ของผู้สูงอายุ
- ลดความเสี่ยงในการทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ ด้วยเทคโนโลยี OCT แม่นยำและปลอดภัย
- RAPID Software นวัตกรรมพลิกนาทีชีวิต ผู้ป่วย Stroke สมองขาดเลือด
- วิตามินดี สำหรับเด็ก
- ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจไมทรัล แบบส่องกล้องแผลเล็กกับเทคนิคใหม่ Minimally Invasive Mitral Valve Surgery
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath