ประโยชน์ของ "ลูกพลับ" หนึ่งผลเทียบเท่ายาสิบโดส ดีต่อปอด แต่กินผิดชีวิตเปลี่ยน
หลายคนประทับใจกับรสหวานละมุนของ ลูกพลับ ที่ถูกยกย่องในแพทย์แผนโบราณว่า หนึ่งผลเทียบเท่ายาสิบโดส ไม่เพียงรสชาติที่ชวนหลงไหล แต่ลูกพลับยังมีสรรพคุณที่ช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างหลากหลายเมื่อรับประทานอย่างถูกวิธี
ประโยชน์ต่อสุขภาพที่ควรรู้
เติมความชุ่มชื้นให้ปอด บรรเทาอาการร้อนใน
ลูกพลับมีฤทธิ์เย็นตามตำรายาแบบดั้งเดิม ช่วยบรรเทาอาการไอ แก้กระหายน้ำ และลดอาการปากแห้งหรือแผลในปากที่มักเกิดจากความร้อนสะสมในร่างกายฟื้นฟูคอแห้ง ดับกระหาย
หากคุณมีอาการเสียงแหบ หรือคอแห้งจากไข้หรือขาดน้ำ ลูกพลับสดช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ ไม่ว่าจะรับประทานสด หรือทำน้ำลูกพลับดื่มในช่วงที่มีอาการดูแลระบบย่อยอาหาร เสริมม้าม และแก้อาการท้องผูก
เส้นใยเพกตินในลูกพลับทำหน้าที่เหมือนยาระบายอ่อน ๆ ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ และกระตุ้นให้อยากอาหารในผู้ที่ระบบย่อยไม่ดี
นอกจากนี้ ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่ค้นพบจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
ลูกพลับอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้า-แคโรทีน และแอนตี้ออกซิแดนต์อื่น ๆ ที่ช่วยลดการอักเสบ และปกป้องสุขภาพหัวใจ
เป็นแหล่งใยอาหารที่ช่วยลดไขมันในกระแสเลือดได้จริง ตามการทดลองทางการแพทย์
ข้อควรระวังเมื่อรับประทานลูกพลับ
ไม่ควรกินลูกพลับขณะท้องว่าง
ลูกพลับสดมีแทนนินและเพกตินในปริมาณสูง เมื่อเข้ากระเพาะอาจรวมตัวกับกรดในกระเพาะจนกลายเป็นก้อนแข็ง (phytobezoar) ก่อให้เกิดอาการปวดท้องและอาหารไม่ย่อยได้หลีกเลี่ยงการกินเปลือกลูกพลับ
แทนนินมักมีความเข้มข้นในเปลือก หากรับประทานเปลือกแม้ผ่านการบำบัด อาจยังเสี่ยงต่อการเกิดก้อนดังกล่าวผู้ที่ระบบย่อยหรือสุขภาพอ่อนแอ ควรเลี่ยงการกินลูกพลับสด
เช่น ผู้ที่มีท้องเสียบ่อย ผู้หญิงหลังคลอด หรือผู้เป็นหวัดควรเลี่ยง แต่สามารถใช้ ลูกพลับแห้งหรือปรุงผ่านความร้อน ซึ่งย่อยง่ายกว่าแทนได้อย่ากินมากเกินไป เพียงวันละ 1‑2 ผลก็พอ
กินมากเกินอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดก้อนในกระเพาะ และอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง