ปตท.สผ. คาดปริมาณการขายปิโตรเลียมไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นแตะ 5.15 แสนบาร์เรล/วัน จากการซื้อกิจการแปลงA-18 พื้นที่ MTJDA ดันทั้งปี 68 สูงกว่าเป้าหมายเดิม
BTimes
อัพเดต 14 สิงหาคม 2568 เวลา 1.00 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Bizปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า แนวโน้มปริมาณการขายในไตรมาส 3/2568 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 5.15 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเดิมตั้งไว้ที่ 5.05 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เนื่องจากบริษัทมีการซื้อกิจการแปลง A-18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (MTJDA)สัดส่วน 50% ทำให้เพิ่มปริมาณการขายได้ทันทีนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทำให้ทั้งปี 2568 บริษัทมีปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายเดิมที่ 5.05-5.10 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน มาอยู่ที่ 5.12-5.17 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักมาจากการเข้าซื้อแปลง A-18 ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย ที่จะรับรู้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นมา รวมทั้งยังมีอีกหลายแหล่งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งโครงการ G1/61 (เอราวัณ) และสินภูฮ่อม ขณะที่ในไตรมาส 4/2568 คาดว่าปริมาณการขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะแหล่งแอลจีเรีย โอมาน และมาเลเซีย ทำให้ปริมาณการขายทั้งปี 2568 ปรับเพิ่มขึ้น
ด้านราคาก๊าซฯในงวดไตรมาส 3/2568 และทั้งปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.8 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2568 และอัตรากำไรที่ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายได้ (EBITDA Margin) คาดว่าจะรักษาระดับอยู่ในช่วง 70-75% ใกล้เคียงปีก่อน ซึ่งถือเป็นระดับที่บริษัทสามารถรักษาได้ตลอดมา
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าอุปสงค์จะชะลอตัวลง ส่วนอุปทานจะเพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มโอเปกพลัส ทำให้ตลาดโลกมีกำลังผลิตที่เกินความต้องการใช้อยู่กว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน กดดันราคาน้ำมันดิบ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปี 2568 จะอยู่ที่ 65-75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งปตท.สผ. มีสัดส่วนน้ำมันดิบในพอร์ตประมาณ 30% และมีก๊าซธรรมชาติประมาณ 70% จึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะราคาก๊าซผันผวนน้อย
ขณะที่ทิศทางราคา LNG Spot ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12-14 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู จากภาวะอุปสงค์ที่มากกว่าอุปทาน ตามความต้องการใช้ LNG ที่เพิ่มขึ้นทั้งในเอเชียและยุโรป
กรณีที่สหรัฐฯประกาศ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทยนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อก๊าซฯที่ขายในประเทศ แต่ในทางอ้อมจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ส่วนกรณีไทยเตรียมนำเข้า LNG จากสหรัฐฯนั้น ในส่วนของ ปตท.สผ.เป็นการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งในประเทศที่มีต้นทุนถูกกว่าการนำเข้า LNG ดังนั้นการรักษาอัตราการผลิตหรือการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซฯของ ปตท.สผ.จะช่วยทดแทนการนำเข้า LNG