ทรัมป์จะเจรจาสงครามยูเครนกับปูติน ไม่เชิญเซเลนสกี
โดนัลด์ ทรัมป์จะพบปะกับวลาดิมีร์ ปูตินเพื่อหารือประเด็นสงครามยูเครน แม้ว่าผู้นำรัสเซียจะยังไม่มีกำหนดคุยกับคู่แค้นโดยตรงอย่างโวโลดีมีร์ เซเลนสกีก็ตาม
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย (ซ้าย) และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (Photo by Ilya PITALEV and Sarah Meyssonnier / various sources / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขาจะพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามยูเครน ในอีกไม่กี่วันนี้
คำประกาศดังกล่าวซึ่งขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่าการประชุมระหว่างปูตินและเซเลนสกีเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการประชุมสุดยอด เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ให้เวลารัฐบาลมอสโกจนถึงวันศุกร์ในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่
แต่เมื่อผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ถามว่าเส้นตายดังกล่าวยังคงอยู่หรือไม่ ทรัมป์ไม่ได้ตอบอย่างชัดเจน
"มันขึ้นอยู่กับปูติน เราจะรอดูว่าเขาจะพูดอะไร" ทรัมป์กล่าว
นับตั้งแต่กลับเข้าทำเนียบขาวเมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ได้กดดันรัสเซียให้ยุติการโจมตีทางทหารต่อยูเครน
ขณะที่รัสเซียเองก็ยืนยันว่าปูตินมีกำหนดเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับทรัมป์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ผู้นำรัสเซียปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับเซเลนสกี
ถึงกระนั้น เซเลนสกียืนยันว่าเขาต้องมีส่วนร่วมในทุกๆการเจรจาที่เกี่ยวกับยูเครน
เมื่อทรัมป์ถูกถามว่าปูตินจำเป็นต้องพบกับเซเลนสกีก่อนการประชุมสุดยอดหรือไม่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "ไม่ ไม่จำเป็น"
ทั้งนี้ ปูตินได้ระบุให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอด แต่รัฐบาลวอชิงตันยังไม่ยืนยัน
การประชุมสุดยอดครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรัสเซียที่ยังอยู่ในตำแหน่ง นับตั้งแต่โจ ไบเดนพบกับปูตินที่เจนีวาในเดือนมิถุนายน 2021
การเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียและยูเครนสามรอบในอิสตันบูลยังไม่สามารถบรรลุความคืบหน้าในการหยุดยิงได้ โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากในเงื่อนไขที่กำหนดไว้เพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่าสามปี
ทรัมป์และปูตินได้ประชุมร่วมกันครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019 ในการประชุมสุดยอด G20 ที่ญี่ปุ่นในช่วงสมัยแรกของทรัมป์ หลังจากนั้นมีเพียงการพูดคุยกันทางโทรศัพท์นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งวาระใหม่เมื่อต้นปี
ก่อนหน้านี้รัสเซียประกาศว่า สัปดาห์หน้าถูกกำหนดเป็นวันเป้าหมายและทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันในหลักการเกี่ยวกับสถานที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุชื่อ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลวอชิงตันปฏิเสธในภายหลังว่าไม่ได้กำหนดสถานที่หรือวันที่ไว้แล้วแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ แต่การประชุมอาจเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นรายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
การทิ้งระเบิดของรัสเซียทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และทำลายพื้นที่ทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน
ปูตินได้ต่อต้านข้อเรียกร้องหลายครั้งจากสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และยูเครนที่ขอให้หยุดยิง
ในการเจรจาที่อิสตันบูล ผู้เจรจาของรัสเซียได้ระบุข้อเรียกร้องอันแข็งกร้าวหากต้องการให้หยุดยั้งการรุกคืบ โดยเรียกร้องให้ยูเครนถอนตัวออกจากดินแดนบางส่วนที่ยังคงควบคุมอยู่ และยุติการสนับสนุนทางทหารจากชาติตะวันตก
มีรายงานเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดที่อาจเกิดขึ้นเกิดขึ้นหลังจากสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ได้พบกับปูตินที่มอสโกเมื่อวันพุธ
วิทคอฟฟ์เสนอให้มีการประชุมไตรภาคีกับเซเลนสกี แต่ปูตินดูเหมือนจะปฏิเสธการเจรจาโดยตรงกับผู้นำยูเครน
"ต้องมีการสร้างเงื่อนไขบางประการสำหรับเรื่องนี้ น่าเสียดายที่เรายังคงห่างไกลจากการสร้างเงื่อนไขเช่นนั้น" ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าว
อดีตสายลับเคจีบีซึ่งปกครองรัสเซียมานานกว่า 25 ปี กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนว่า เขาพร้อมที่จะพบกับเซเลนสกี แต่เฉพาะในช่วงขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งเท่านั้น
เซเลนสกีตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐและรัสเซีย กล่าวว่า "ยูเครนควรมีส่วนร่วมในการเจรจา เพื่อความเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย"
ผู้นำยูเครนได้หารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ ของเยอรมนี และเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป โดยมีการเรียกร้องให้ยุโรปเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
"ยูเครนเป็นส่วนสำคัญของยุโรป เรากำลังเจรจาเรื่องการเข้าร่วมสหภาพยุโรป ดังนั้นยุโรปจึงต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง" เซเลนสกีกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย.