ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯดีดตัวขึ้น รอ PCE NKE เผยแนวโน้มสดใส หุ้นเด้งรับ
#หุ้นสหรัฐ #ทันหุ้น - ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนรอลุ้นข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ และติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศที่อาจเริ่มผ่อนคลาย ดัชนีวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ความสำคัญมากที่สุดจะมีการเปิดเผยระหว่างวัน ขณะที่นักวิเคราะห์ยังคงจับตาผลกระทบจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้านหุ้นไนกี้ (NYSE:NKE) พุ่งขึ้นในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังบริษัทเปิดเผยแนวโน้มรายได้ที่สดใส พร้อมแผนการย้ายฐานการผลิตบางส่วนจากจีนกลับไปยังสหรัฐฯ
.
1. ฟิวเจอร์สปรับขึ้น
ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ บ่งชี้ว่าตลาดน่าจะปิดสัปดาห์นี้ในแดนบวก หลังนักลงทุนมีความหวังเพิ่มขึ้นจากการหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน และสัญญาณบวกจากการเจรจาการค้า
เมื่อเวลา 03:33 ET (07:33 GMT) ดัชนี Dow futures เพิ่มขึ้น 149 จุด หรือ 0.3%, S&P 500 futures เพิ่มขึ้น 20 จุด หรือ 0.3%, และ Nasdaq 100 futures เพิ่มขึ้น 87 จุด หรือ 0.4%
ดัชนีหลักในวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้า จากความคืบหน้าในการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งช่วยคลายความกังวลว่าความขัดแย้งจะลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง
บรรยากาศของตลาดยิ่งดีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่าสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับจีนในการเร่งส่งออกแร่หายาก ซึ่งจำเป็นต่ออุตสาหกรรมหลายประเภท ขณะที่โฆษกประจำทำเนียบขาว Karoline Leavitt ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจขยายเวลาการพักเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตอบโต้ (reciprocal tariffs) ออกไปเกินกว่ากำหนดเดิมในต้นเดือนหน้า
มีรายงานด้วยว่า ทรัมป์อาจพิจารณาเปลี่ยนตัวประธาน Fed คนใหม่ในเดือนกันยายนหรือตุลาคม โดยอาจเป็นผู้ที่มีจุดยืนผ่อนคลายเรื่องดอกเบี้ยมากกว่าเดิม ซึ่งส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมี "เงา" ประธาน Fed เข้ามามีบทบาทในช่วงท้ายวาระของเจอโรม พาวเวลล์ ดอลลาร์สหรัฐฯ ยิ่งอ่อนค่าไปอีก หล่นแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีครึ่ง และมุ่งหน้าสู่การขาดทุนรายสัปดาห์หนักที่สุดในรอบเดือน
นักวิเคราะห์จาก Vital Knowledge ระบุว่า “มีปัจจัยบวกด้านมหภาค 2ประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วัน ได้แก่ การปรับน้ำเสียงผ่อนคลายจาก Fed และความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง”
.
2. จับตาข้อมูล PCE
ข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญ มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเร่งขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทรงตัวจากเดือนเมษายน ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) คาดว่าจะเร่งขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน และเพิ่มขึ้น 0.1%จากเดือนก่อนหน้า เท่ากับเดือนเมษายน
เส้นทางของเงินเฟ้อถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Fed ใช้พิจารณานโยบายดอกเบี้ยในอนาคต โดยล่าสุด Fed ใช้ท่าทีรอดูข้อมูลก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบายเพิ่มเติม โดยให้เหตุผลว่ายังต้องรอดูผลของภาษีนำเข้าที่ทรัมป์กำหนดว่าจะส่งผลต่อราคาอย่างไร
แม้ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าภาษีเหล่านี้ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น แต่นักวิเคราะห์คาดว่า Fed ต้องการรอดูข้อมูลของเดือนมิถุนายน-สิงหาคมก่อนจะมั่นใจว่าสถานการณ์ยังอยู่ในแนวโน้มที่ดี
นอกจากนี้ ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง โดยข้อมูลล่าสุดพบว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายน 2021 แม้ว่าจำนวนผู้ขอรับสิทธิ์รายสัปดาห์และค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์จะลดลง
.
3. แผนย้ายฐานการผลิตของไนกี้
ไนกี้เผยแผนการย้ายฐานการผลิตรองเท้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่ทรัมป์อาจใช้
ในการโทรศัพท์กับนักวิเคราะห์หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ดีกว่าคาด ผู้บริหารไนกี้กล่าวว่าภาษีนำเข้าของทรัมป์อาจเพิ่มต้นทุนของบริษัทถึง 1 พันล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันประมาณ 16%ของรองเท้าที่นำเข้าสหรัฐฯ ผลิตจากจีน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของภาษีเหล่านี้
CFO Matthew Friend ระบุว่าไนกี้ตั้งเป้าลดสัดส่วนนี้เหลือเลขหลักเดียวระดับสูง (high single-digit) ภายในเดือนพฤษภาคม 2026
ยอดขายรายไตรมาสของไนกี้ลดลง 12% เหลือ 11.10 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังดีกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากธุรกิจรองเท้าวิ่งหลักเริ่มฟื้นตัวจากการแข่งขันที่รุนแรงในไตรมาสก่อน ๆ
สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณหน้า บริษัทคาดว่ารายได้จะลดลงระดับกลางหลักเดียว ซึ่งยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 7.3%
ราคาหุ้นไนกี้พุ่งขึ้นในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
.
4. ผลการทดสอบความทนทานของธนาคารขนาดใหญ่
Fed เตรียมเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารขนาดใหญ่ประจำปีในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะผ่านการทดสอบ และแสดงให้เห็นว่ามีเงินทุนเพียงพอที่สามารถนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ได้
แบบทดสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อประเมินว่าธนาคารมีทุนเพียงพอรองรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงหรือไม่ โดยปีนี้คาดว่าจะเข้มงวดยิ่งน้อยกว่ารอบก่อนหน้า
นักวิเคราะห์จาก Wells Fargo กล่าวในหมายเหตุว่า "ผลทดสอบควรเป็นสัญญาณไฟเขียวให้ธนาคารนำเงินทุนไปใช้ในการปล่อยกู้ ลงทุน หรือซื้อหุ้นคืน ซึ่งผู้บริหารหลายรายบอกว่า พวกเขาจะเข้าใจสถานะทุนส่วนเกินได้ชัดเจนขึ้นหลังทดสอบ"
การทดสอบนี้มีมาตั้งแต่หลังวิกฤตการเงินปี 2007–2009 และถือเป็นส่วนสำคัญในการวางแผนเงินทุนของธนาคาร 22แห่ง รวมถึงใช้ในการกำหนดเงินปันผลสำหรับผู้ถือหุ้น
.
5. ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย
ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อย แต่กำลังมุ่งหน้าสู่การร่วงหนักรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หลังความเสี่ยงจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-อิหร่านลดลง ส่งผลให้แรงกดดันด้านราคาหายไป
เมื่อเวลา 03:32 ET ฟิวเจอร์สเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 67.14ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ WTI เพิ่มขึ้น 0.7% อยู่ที่ 65.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งสองสัญญากำลังจะปิดสัปดาห์ด้วยการร่วงประมาณ 12%ซึ่งจะเป็นการลดลงรายสัปดาห์แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 และกลับมาที่ระดับก่อนที่ความขัดแย้งจะเริ่มต้น
การขยับขึ้นเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์เป็นผลจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงในคลังลดลงในสัปดาห์ก่อนหน้า บ่งชี้ว่าความต้องการในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังแข็งแกร่ง
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้