‘ฮุนเซน’ขู่แฉ‘ทักษิณ’ เปลี่ยนผู้นำพาดพิงสถาบัน ‘อิ๊งค์’ชะลอสัมพันธ์กัมพูชา
นายกฯ ลงพื้นที่สระแก้ว รับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจทหาร-ฝ่ายปกครอง พร้อมเยี่ยมครู-นร.โรงเรียน ตชด. ดูความพร้อมหลุมหลบภัย สั่ง พณ.จำกัดโควตานำเข้ามันสำปะหลัง-พืชเกษตร ช่วยผลผลิตไทยราคาตก เจอทั้งกลุ่มหนุน-ม็อบต้านตะโกนไล่ "ผู้ว่าฯ สระแก้ว" ชงเข้มชะลอกิจกรรมสัมพันธ์ 75 ปีไทย-กัมพูชา เลิกยกเว้นค่าธรรมเนียมกลับบ้านสงกรานต์ ระงับการช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี "ศบ.ทก." ถกแผนเยียวยาภาคเอกชน-ผู้ประกอบการชายแดน "รังสิมันต์" บี้ รบ.แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริงจัง เล็งเรียก "อิ๊งค์" แจง กมธ.มั่นคง "มทภ.2" เดินสายถวายพระประธาน 20 จว.อีสานใต้ "สื่อเขมร" ปูด "ลุงฮุน" เตรียมแฉข้อมูลทักษิณ 27 มิ.ย. วางแผนเปลี่ยนนายกฯ-พาดพิงสถาบันฯ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. เวลา 09.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์เพื่อตรวจราชการจังหวัดสระแก้ว
จุดแรก เวลา 10.15 น. โรงเรียนอรัญประเทศ น.ส.แพทองธารเป็นประธานการประชุมหารือผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเข้า-ออกจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1, นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว, ตัวแทนเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ สระแก้วกล่าวรายงานและเสนอในที่ประชุมว่า ได้รับข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกรจังหวัด ในแต่ละปีมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากกัมพูชาช่องทางสระแก้วปีละ 1 หมื่นล้านบาท จึงเสนอให้ทบทวนโควตานำเข้า เพื่อให้มันสำปะหลังของไทยได้รับการรับซื้อมากยิ่งขึ้น รวมถึงขอให้ยกเลิกการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านแดนคนละ 1,000 บาทในช่วงสงกรานต์ เพราะที่ผ่านมาเงินยกเว้นมีมูลค่าสูงถึง 74 ล้านบาท
นอกจากนี้ ขอให้ชะลอหรือยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 75 ปีออกไปโดยไม่มีกำหนด ขณะเดียวจังหวัดสระแก้วเห็นควรระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน ที่ใช้งบกลางในการก่อสร้างสะพาน เนื่องจากสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบด ซึ่งอยู่บริเวณ ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ที่ก่อนหน้านี้มีการก่อสร้างให้ จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาทบทวนหลายๆ เรื่อง
น.ส.แพทองธารกล่าวหลังรับฟังรายงานจากหน่วยงานต่างๆ ว่า พูดได้ตรงใจในเรื่องปัญหาชายแดน เพราะเข้าใจว่าทุกภาคส่วนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ทุกคนที่ทำอยู่ในพื้นที่ได้รู้ปัญหาของประชาชนดีขึ้น ที่ประธานหอการค้าฯ พูดถูกเลยว่าตรงนั้นมีปัญหาเรื่องการค้าขายไม่ได้ มีปัญหาเรื่องทะเลาะกันหรือชายแดนใดๆ แต่มันติดเรื่องการค้าขาย เพราะมันมีปัญหาเรื่องชายแดนเกิดขึ้น ซึ่งอันนี้ทางกองทัพทำอย่างเต็มที่เพื่อสันติวิธี เป็นสิ่งที่ตนถ้าจะทำอะไรต้องคิดข้อนี้เป็นข้อแรกก่อนว่าทำอย่างไรให้เกิดสันติวิธี ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการปะทะ
"เราพูดถึงเรื่องมันสำปะหลัง โควตาของมันสำปะหลังพูดจริงๆ ว่าราคามันสำปะหลังตกต่ำเรื่อยๆ เราทำราคาของเราให้ดีก่อนไปกำหนดโควตาใหม่ จะให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดโควตาราคามันสำปะหลังใหม่ ในประเทศมันต้องได้ก่อนค่อยไปกำหนดโควตาต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นจะทำไปทำไม ขอให้ถือเป็นโอกาสดีในการทบทวนมาตรการใหม่ว่าอะไรบ้างที่เรานำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วทำให้ราคาสินค้าเราไม่ตก จะรับเรื่องนี้ดำเนินการต่อ เราให้อำนาจกองทัพดูว่าหน้างานควรทำอย่างไร ตรงหน้างานว่าปิดหรือเปิด" น.ส.แพทองธารกล่าว
อิ๊งค์เจอทั้งกลุ่มหนุน-ม็อบไล่
ต่อมา น.ส.แพทองธารไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนของโรงเรียนอรัญประเทศ และร่วมกิจกรรมทักทายเป็นภาษาอังกฤษ และได้ถ่ายรูปและทักทายกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง
จากนั้นเวลา 11.45 น. น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางต่อมายังด่านพรมแดนคลองลึก เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ก่อนที่ผู้ว่าฯ สระแก้วรายงานว่า ที่ด่านพรมแดนคลองลึก ปัญหาในพื้นที่ผู้ค้าขายส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา ทั้งหมดกว่าหมื่นคน ซึ่งขณะนี้มีการผ่อนปรนให้ผู้ค้าสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ ซึ่งนายกฯ ได้หันไปคุยกับ พล.อ.ณัฐพล ว่าประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่สามารถเริ่มปรับตัวได้ แต่กลับเป็นผู้ประกอบการมากกว่า ซึ่งในพื้นที่เองกำลังรับนโยบายเพื่อไปปรับ
ก่อนที่นายกฯ จะเดินทักทายประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ มอบดอกไม้ให้กำลังใจ และถือป้ายซึ่งมีข้อความระบุว่า “นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ สู้ๆ จากคนสระแก้ว” และ “ชาวสระแก้ว เป็นกำลังใจให้นายกฯ แพทองธาร” ต่อมานายกฯ ได้รับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม บริเวณหน้าด่านพรมแดนคลองลึก ยังมีประชาชนประมาณ 30 คน มาปักหลักชูป้ายตะโกนไล่นายกฯ และถือป้ายข้อความว่า “นายกขายชาติ-นายกเนรคุณ", "นายกไทยใจเขมร" และ “นายกทรราชชั่วทั้งโคตร"
โดยในระหว่างที่นายกฯ ติดตามสถานการณ์ ปรากฏว่ามีกลุ่มชาวบ้านคนไทยจำนวนหนึ่งมายืนรอขบวนรถนายกฯ เพื่อเรียกร้องให้ผ่อนปรนเปิดด่านเพื่อทำการค้าขาย
เวลา 12.55 น. นายกฯ เดินทางไปที่กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพราน เมื่อไปถึง พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับชุดควบคุม กรมทหารพรานที่ 12 ให้การต้อนรับและนำนายกฯ เดินตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณบังเกอร์ พร้อมมอบอาหารแห้งให้
นายกฯ กล่าวกับกำลังพลว่า วันนี้ขอมาให้กำลังใจทุกคนที่อยู่ที่นี่ ทราบว่าต้องมาประจำอยู่ที่นี่ห่างไกลจากครอบครัวด้วย ขอขอบคุณที่เสียสละทั้งทุ่มเทแรงกายแรงใจ อย่างที่รู้ว่าทหารคือรั้วของชาติอยู่แล้วที่ปกป้องให้เกิดสันติภาพ ทุกท่านอยู่ใกล้สุดขนาดนี้ต้องใช้ทั้งความอดทนอดกลั้นจากสิ่งยั่วยุ และสิ่งอะไรอีกมากมาย ยังรักษาความสงบสุขนี้ไว้ได้ ขอให้การทำงานต่อไปจากนี้ราบรื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้มอบอาหารแห้ง ประกอบด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำดื่ม เครื่องดื่มเกลือแร่ และน้ำมันไพลบรรเทาอาการปวดเมื่อยให้ตัวแทนกำลังพล
เวลา 13.10 น. นายกฯ ได้พบปะครูและเยี่ยมเด็กนักเรียนที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ โดยให้กำลังใจครูและนักเรียน พร้อมเดินดูหลุมหลบภัยที่สร้างอยู่ภายในรั้วโรงเรียน ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 4 กม.
จากนั้นเวลา 13.45 น. นายกฯ ไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ณ ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) โดยมีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครองร่วมด้วย โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณกำลังสำคัญที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ตำรวจ ทหาร ทุกท่านที่ให้ความร่วมมือทำงานดูแลและปกป้องประชาชนในพื้นที่ของตัวเองให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย
นอกจากนี้ เดินตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ก่อนมอบข้าวเหนียวไก่ย่างจำนวน 700 ชุด ที่นายกฯ แวะเหมามาจากแม่ค้าก่อนเดินทางมาค่ายสุรสิงหนาท ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯ เดินทางกลับกรุงเทพฯ
เวลา 18.05 น. น.ส.แพทองธารโพสต์ข้อความตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดสระแก้วมีข้อสั่งการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการเยียวยาให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดการเข้า-ออกจุดผ่านแดน กระทรวงพาณิชย์ ขอให้เร่งมาตรการช่วยเหลือและเยียวยา เร่งระบายสินค้าที่คงเหลืออยู่ในพื้นที่ไปยังภาคส่วนต่างๆ ที่มีความต้องการ ตลอดจนหามาตรการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากในประเทศก่อน ปรับโควตาการนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรจากต่างประเทศ ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่
พี่น้องเกษตรกร ขณะนี้พาณิชย์จังหวัดได้ลงไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด และได้ขอความร่วมมือกับหอการค้า ภาคเอกชน กระจายสินค้าไปยังห้างร้านต่างๆ และใช้เครือข่ายธงฟ้ากระจายสินค้าด้วย ผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยประสานกับสถาบันการเงินให้ทุนหมุนเวียนที่มีดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการ และประสานกับตลาดในจังหวัดให้ผู้ประกอบการไปขายของในชุมชน ผู้ส่งออกบริหารเงินจากกองทุนของกระทรวงพาณิชย์เข้าช่วยเหลือ และลดค่าใช้จ่ายการส่งออก รวมถึงหาตลาดใหม่ๆ เพื่อกระจายสินค้า
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยกระดับมาตรการปราบปราบบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์ รวมถึงร่วมมือกับมิตรประเทศปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเด็ดขาด
กมธ.มั่นคงเชิญนายกฯ แจง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกัมพูชายังใช้ไฟฟ้าจากไทยอีก 6 จุดว่า ให้ว่าไปตามสภาพที่เป็นตามสัญญาต่างๆ ที่ได้ทำไว้ เหมือนทำในจังหวัดตาก ที่ค่อยดูว่าส่วนใดจะดำเนินการจัดการได้ ส่วนใดที่ผิดข้อสัญญาก็ว่าไปตามนั้น
"ขณะนี้กัมพูชาขยันออกข่าวเพื่อมุ่งหวังต่อสู้สงครามจิตวิทยา แต่ส่วนอื่นไม่มีอะไร ขณะที่ปัญหาที่ด่านถาวรคลองลึก อ.อรัญประเทศ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเปิดด่านไม่ตรงกัน เมื่อเจราจากันแล้วก็เข้าใจกัน และปล่อยประชาชนเข้าประเทศ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย" นายภูมิธรรมกล่าว
รองนายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ระบุประเทศไทยจะได้ผู้นำใหม่ใน 3 เดือนนี้ว่า คุณเชื่อสมเด็จสมเด็จฮุน เซนเหรอ อย่าไปสนใจเรื่องนี้เลย
ส่วนนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ยืนยันเรื่องการฟ้องร้องสมเด็จฮุน เซน โดยใช้กฎหมายไทยและการดำเนินคดีต่างๆ ว่าประเทศไทยมีกฎหมายอยู่คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องชวนตนไปศาลโลก ไม่ไปหรอก รวมทั้งจะไม่ถอนแจ้งความ เพราะไม่ใช่คลิปหลุด แต่เป็นคลิปปล่อย เป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถถอนแจ้งความได้
"ขั้นตอนต่อไปก็คือเข้าสู่คดีพิเศษภายหลังมีการสอบสวน ก็ส่งให้อัยการสูงสุดไต่สวนตามขั้นตอน หากไม่มาก็ออกหมายเรียกและออกหมายจับ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ เพราะฉะนั้นหากมีการออกหมายจับสมเด็จฮุน เซน ก็ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้" นายสมคิดกล่าว
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ที่ประชุม ศบ.ทก.มี 2 ประเด็นหลักพิจาณา 1.เรื่องการติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนที่จุดผ่านแดนต่างๆ โดยรับทราบส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเรียบร้อย 2.เรื่องของมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงแนวทางการบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการต่างๆ เช่น การช่วยเหลือเยียวยาภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทยในกัมพูชาเป็นการเฉพาะ
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน พิจารณากรณีความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจ และเส้นเขตแดน โดยเชิญนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ แต่ได้ส่งนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มาแทน รวมทั้งเลขาฯ สมช. และ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุม
นายรังสิมันต์แถลงหลังประชุมว่า หลังจากนายกฯ แถลงจะมีมาตรการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้มีการเริ่มต้นในมาตรการเชิงรุก ซึ่งเรื่องนี้กรรมาธิการค่อนข้างแปลกใจว่าไม่มีความคืบหน้าเลย ความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมที่สุดที่มีมาตรการออกมาจากทางรัฐบาลคือการปิดด่านเท่านั้น
"ในสัปดาห์หน้าจะมีการเชิญนายกฯ คิดว่าไม่น่าจะมีใครชี้แจงแทนได้ เพราะมีการบอกว่าสถานการณ์ตรงนั้นมีไม่กี่คนที่ล่วงรู้ รวมถึงขอให้ รมว.การต่างประเทศมาด้วย ร่วมกับ สมช.และ ผบ.ตร.มาด้วย ซึ่งหากนายกฯ ไม่มาก็กำลังพิจารณาในเรื่องของการใช้อำนาจเรียก แต่เบื้องต้นก็อยากจะขอความร่วมมือ" นายรังสิมันต์กล่าว
สื่อเขมรปูดฮุนเตรียมแฉแม้ว
เช่นเดียวกับ คณะกรรมาธิการการทหาร ที่มีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน ประชุมลับเรื่องเครือข่ายกลุ่มทุนในราชอาณาจักรกัมพูชา การปราบปรามการฟอกเงิน และกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา โดยเชิญสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้นำเหล่าทัพ และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าร่วมประชุม
ด้านแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งเอกสารประกอบรายงานเรื่อง “ฉันคือทรัพย์สินของคนอื่น” การเป็นทาส การค้ามนุษย์ และการทรมานในศูนย์สแกมเมอร์ของกัมพูชา” (I Was Someone Else's Property": Slavery, Human Trafficking and Torture in Cambodia's Scamming Compounds) นำเสนอเกี่ยวกับศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชา
ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสานใต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธานไปถวายยังวัดในจังหวัดนั้นๆ จังหวัดละ 1 องค์
ด้าน พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ ผอ.สำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงประชาชนชาวกัมพูชาว่า ความเดือดร้อนที่ประชาชนกัมพูชาได้รับอยู่ในขณะนี้นั้น เป็นผลมาจากการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชาทั้งสิ้น และที่สถานการณ์ล่วงเลยมาจนปัจจุบัน เหตุเพราะรัฐบาลกัมพูชาเริ่มก่อนทั้งนั้น ผู้นำกัมพูชาก็เล่นใหญ่เกินเบอร์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกัมพูชาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ได้กลับมาเปิดให้คนไทยมองเห็นอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปิดกั้นไอพีประเทศไทยไว้ ทำให้คนไทยไม่สามารถมองเห็นเนื้อหาและได้เข้าโพสต์ในเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ โดยสมเด็จฮุน เซน ได้เผยแพร่คลิปการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย หรืออุดดอร์เมียนเจ็ย ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกองทัพและพบปะประชาชน ซึ่งพบว่ามีคนไทยเข้าไปคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
สื่อกัมพูชารายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ได้ตอบรับตำแหน่งใหม่ในฐานะพลเอกอาวุโสด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพกัมพูชา โดยมีภารกิจหลักในการกำกับดูแลและสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงอย่างเต็มรูปแบบให้แก่กองกำลังที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
เชีย ธีริธ โฆษกวุฒิสภา เปิดเผยว่า สมเด็จฮุน เซน ซึ่งยังดำรงยศทหารระดับจอมพล (พลเอก 5 ดาว) ได้แสดงการสนับสนุนอย่างแน่วแน่ต่อกองทัพ
เฟซบุ๊กเพจ The Phnom Penh Post สื่อหลักของประเทศกัมพูชา เผยแพร่ข้อความพร้อมภาพถ่ายสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เดินเคียงข้างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไทย โดยมีถ้อยแถลงระบุว่า สมเด็จฮุน เซน เตรียมเปิดเผยแผนการของทักษิณ ที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวผู้นำประเทศไทย และมีถ้อยคำพาดพิงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า เขาจะส่ง “ข้อความพิเศษ” ถึงประชาชนชาวไทยในวันพรุ่งนี้ วันที่ 27 มิถุนายน ขณะเดียวกันระหว่างการเดินทางเยี่ยมทหารกัมพูชาที่จังหวัดอุดรมีชัย และพบปะกับผู้พลัดถิ่นในจังหวัดพระวิหาร เขายังกล่าวด้วยว่า “ไม่มีอะไรต้องกลัว” เพราะ “ไม่เป็นหนี้บุญคุณประเทศไทย”
ต่อมา The Phnom Penh Post โพสต์อีกว่า ลาก่อน ‘พี่ชาย’ : ฮุน เซน เตือนจะเปิดโปง ทักษิณหักหลัง.