เปิด 3 นโยบายรัฐยังลุยต่อ ใต้แรงเคลื่อน 3 รัฐมนตรี 'คมนาคม'
คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร 1/2 เริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยพบว่ามีการแต่งตั้งและโยกย้ายรัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง แต่ไม่มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกระทรวงคมนาคม ซึ่งยังคงมี 3 รัฐมนตรีคงเดิม ประกอบด้วย
- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
- นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
สำหรับ 3 รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ยังคงประกาศเดินหน้านโยบายหลักของรัฐบาลให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นำโดยนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นหัวเรือสำคัญในการขับเคลื่อน ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายรัฐมนตรี รวมทั้งตนยังคงเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสาย ต้องเกิดขึ้นตามเป้าหมายใน 30 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลมุ่งเน้นเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน
อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมยังได้ประกาศจะเปิดให้ประชาชนผู้ที่ต้องการใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ลงทะเบียนเตรียมรับสิทธิ์ผ่านแอป“ทางรัฐ” ในเดือน ส.ค.นี้ โดยปัจจุบันกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการผลักดันนโยบายนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างเสนอภายในการประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 1
เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ขณะที่นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้กำกับดูแลหน่วยงานขนส่งทางน้ำ และมีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนกฎหมายหลายฉบับของกระทรวงคมนาคมในชั้นการประชุมรัฐสภา ก่อนหน้านี้ออกมายอมรับว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะต้องเลื่อนพิจารณาในสภาออกไปก่อน
โดยสาเหตุมาจากต้องการรับฟังเสียงจากประชาชนเพิ่มเติม เนื่องจากยังคงไม่เข้าใจเกี่ยวกับเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งรัฐบาลต้องการสื่อสารให้ชัดเจนว่าโครงการนี้มีเรื่องกาสิโนเพียงแค่ 10% นอกนั้นเป็นเรื่องของการจัดศูนย์แสดงสินค้า หรือกิจกรรมต่างๆ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงของเศรษฐกิจ
แต่อย่างไรก็ดี “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” นับเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อมด้านพื้นที่ในการรองรับกิจการดังกล่าว โดย “ท่าเรือคลองเตย” ที่บริหารโดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เป็นหนึ่งในเป้าหมายพื้นที่พัฒนาเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ทั้งนี้ปัจจุบัน กทท.ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการปรับแก้พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้การท่าเรือสามารถดำเนินธุรกิจอื่นเพิ่มเติมจากการให้บริการท่าเรือเพื่อการขนส่งสินค้า พร้อมทั้งยังสามารถตั้งบริษัทลูก เพื่อร่วมทุนกับเอกชนหรือหน่วยงานอื่นๆ ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ภายใต้กรอบ “กิจการเกี่ยวเนื่อง” สามารถส่งเสริมและสนับสนุนกิจการท่าเรือ
โดยการปลดล็อกกฎหมายหารายได้ให้กับ กทท.ครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ของท่าเรือ นำร่องท่าเรือกรุงเทพ หรือ ท่าเรือคลองเตย เพื่อใช้ประโยชน์บนที่ดิน 2,353 ไร่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีเป้าหมายพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน (มิกส์ยูส) มีกิจกรรมบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์) ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมอาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ คอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยต่างๆ รวมไปถึงสนามกีฬา ส่วนกิจกรรมกาสิโนนั้นยังต้องรอให้มีกฎหมายรองรับก่อน
บ้านเพื่อคนไทย
ส่วนอีกหนึ่งนโยบายอย่าง“บ้านเพื่อคนไทย” ที่รัฐบาล “แพทองธาร” ประกาศเปิดอย่างยิ่งใหญ่ และปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินงาน ผู้รับผิดชอบหลักของนโยบายนี้ คือ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งปัจจุบันโครงการได้ปิดลงทะเบียน ระยะที่ 1 ไปเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการมากกว่า 260,000 คน และในจำนวนนี้มีผู้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์แล้วกว่า 130,000 คน
โดยเนื่องจากมีจำนวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมากกว่าจำนวนที่อยู่อาศัยในระยะที่ 1 ซึ่งกำหนดไว้ราว 5,000 ยูนิต ส่งผลให้กระทรวงฯ ต้องกำหนดรูปแบบ การจับสลากสิทธิ และได้ร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อกำหนดรูปแบบที่เหมาะสม โปร่งใส และตรวจสอบได้
ทั้งนี้คาดว่าจะเสนอ ครม. ภายในเดือน ต.ค.2568 เพื่ออนุมัติโครงการ และเริ่มกระบวนการเปิดประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมาทันที จึงคาดว่าภายในปีนี้จะเริ่มก่อสร้าง คาดมูลค่าก่อสร้างราว 6 – 7 พันล้านบาท โดยยังคงเป้าหมายทยอยสร้างแล้วเสร็จเพื่อเริ่มส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยในช่วงปี 2569 เป็นต้นไป