ผู้เชี่ยวชาญมอง เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว
ผู้เชี่ยวชาญมอง เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -25 ก.ค. 68 18:31 น.
นักวิเคราะห์ชี้ ความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ซึ่งต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญ แต่มีแนวโน้มว่า เศรษฐกิจของกัมพูชาจะเปราะบางกว่า ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของทั้งสองประเทศ โดยมีสัดส่วน 12% ของจีดีพีไทย และ 9% ของกัมพูชาในปี 2024
ปี 2024 ไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 35 ล้านคน ขณะที่กัมพูชา อยู่ที่ประมาณ 6.7 ล้านคน
นักวิจัยจาก Observer Research Foundation กล่าวกับ CNBC ให้ความเห็นว่า "การท่องเที่ยวมีส่วนสนับสนุนแรงงานจำนวนมากในไทย ซึ่งความไม่สงบในระยะสั้น แม้จะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณชายแดน แต่ก็ทำให้ประเทศต่าง ๆ ออกคำเตือนให้ระมัดระวังในการเดินทาง ซึ่งจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวได้ และอาจสร้างความเสียหายอย่างยิ่งในปีที่เศรษฐกิจไทยกำลังพึ่งพาการฟื้นตัวจากแรงขับเคลื่อนในภาคการท่องเที่ยว
ส่วนในกัมพูชา แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวจะมีสัดส่วนต่อขนาดเศรษฐกิจน้อยกว่าไทยก็ตาม แต่ก็ใช่ว่า เศรษฐกิจกัมพูชาจะเปราะบางต่อการหยุดชะงักของภาคการท่องเที่ยวน้อยกว่าไทย
นักวิเคราะห์กล่าวว่า "กัมพูชาไม่เหมือนประเทศไทย เพราะมีเครื่องมือด้านนโยบายที่น้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว เงินสำรองทางการคลัง หรือเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมที่แข็งแกร่งในการบรรเทาผลกระทบ
เหตุปะทะกัน ซึ่งรวมถึงการยิงปืนใหญ่ของกัมพูชา และการนำเครื่องบิน F-16 ของฝั่งไทยออกปฏิบัติการ เกิดขึ้น หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตลง โดยไทยเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงพนมเปญกลับเมื่อวันพุธ และส่งทูตกัมพูชากลับประเทศ เพื่อตอบโต้กรณีที่ทหารไทยถูกทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บบริวเณแนวพื้นที่ข้อพิพาท
นักวิเคราะห์จาก Council on Foreign Relations มองว่า ความขัดแย้งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเพียงเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของไทยอยู่ห่างไกลจากบริเวณจุดปะทะ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ท่องเที่ยว The Vacatione ระบุว่า กรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นสองเมืองของไทยที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในปี 2024
ที่มา CNBC
รายงาน โดย Supak Hopuengju เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ