ปิดด่านชายแดน ความเสียหายที่ต้องจ่าย
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
ข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา 4 จุด ตั้งแต่กลุ่มปราสาทตาเมือน/ตาควาย ไปจนถึงบริเวณช่องบก และนำมาซึ่งการปะทะกันระหว่างกองทหารทั้ง 2 ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้มีมติมอบให้กองทัพบกเป็นหน่วยงานหลักที่มีอำนาจในการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทางบกทุกประเภท ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 18 แห่ง ใน 7 จังหวัด
อาศัยคำสั่งกองทัพบกเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ประกาศมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน ตามระดับความเข้มข้นของสถานการณ์ โดยขั้นตอนที่ 1 จะจำกัดการผ่านแดนเฉพาะบุคคลที่มีเหตุจำเป็น ขั้นตอนที่ 2 ให้จำกัด วัน เวลา ในการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ขั้นตอนที่ 3 ปิดบางจุดผ่านแดน และขั้นตอนที่ 4 ก็คือการปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดน
ที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองกำลังบูรพา ได้อาศัยคำสั่งกองทัพบกฉบับดังกล่าว กำหนดมาตรการควบคุมด่านชายแดนเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2 คือการจำกัด วัน เวลา ในการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ด้วยการปรับเวลาการเปิด-ปิดด่านให้เร็วขึ้น การห้ามคนไทยออกไปเล่นการพนันและท่องเที่ยวในกัมพูชา การห้ามรถบรรทุกสินค้าเข้า-ออกในบางด่าน
แต่ก็ยังอนุญาตให้ไปผ่านจุดผ่านแดนถาวรได้บ้าง โดยฝ่ายไทยเป็นคนเริ่มมาตรการควบคุมด่านชายแดนก่อน ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชาก็มีมาตรการตอบโต้ด้วยการห้ามรถบรรทุกผัก-ผลไม้ผ่านด่านเช่นกัน แต่การค้าตามแนวชายแดนส่วนใหญ่ก็ยังสามารถเปิดดำเนินการได้แม้จะไม่สะดวก
มาจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ “คลิปเสียง” ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในรัฐบาลไทย ท่ามกลางการตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนที่เพิ่มมากขึ้น กองทัพจึงได้ออกคำสั่งยกระดับการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไล่มาตั้งแต่จังหวัดบุรีรัมย์-ศรีสะเกษ-สุรินทร์ ไปจนกระทั่งถึงจังหวัดจันทบุรี-ตราด
ด้วยการ “งด” การผ่านเข้า-ออกของยานพาหนะทุกประเภท “งด” การเดินทางผ่านเข้า-ออกของประชาชน และที่สำคัญก็คือการ “งด” การค้าขายทุกประเภทมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนเป็นต้นไป แต่ “อนุโลม” ให้ข้ามแดนแบบจำกัดจำนวนคนได้เฉพาะด่านในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว
แม้กองทัพบกจะออกมาแจ้งว่า มาตรการล่าสุดยังอยู่ในขั้นตอนที่ 2 กล่าวคือยังไม่มีการปิดจุดผ่านแดนถาวร แต่ความเสียหายก็ได้ปรากฏขึ้นกับการค้าชายแดนแล้ว อันเนื่องมาจากคำสั่งให้ “งด” การค้าขายทุกประเภท สินค้าทั้งขาเข้า-ออกไม่สามารถผ่านข้ามแดนไปได้ ลุกลามไปถึงแรงงานกัมพูชาที่เป็นที่ต้องการของนายจ้างไทยด้วย
จนล่าสุดสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา เองก็ได้ออกมาประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่าวันละ 500 ล้านบาท จากตัวเลขการค้าชายแดนรวม 174,530 ล้านบาท และยิ่งนับวันก็จะยิ่งเสียหายเพิ่มมากขึ้น ตามจำนวนวันที่ด่านชายแดนถูกจำกัดการเข้า-ออก
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปิดด่านชายแดน ความเสียหายที่ต้องจ่าย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net