สรุป ประมูลคลื่นความถี่ TRUE คว้า 2300 และ 1500 MHz ด้าน AIS คว้า 2100 MHz
TRUE และ AIS ประกาศคว้าชัยในการประมูลคลื่นความถี่ล่าสุดของ กสทช. โดย TRUE คว้าคลื่น 2300 และ 1500 MHz มูลค่ารวมกว่า 26,000 ล้านบาท ดันโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลครอบคลุมทั่วประเทศ ด้าน AIS เสริมแกร่งด้วยคลื่น 2100 MHz มูลค่ารวม 14,850 ล้านบาท รองรับดีมานด์ดาต้าโตต่อเนื่อง
30 มิถุนายน 2568 – การประมูลคลื่นความถี่ซึ่งจัดโดยสำนักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ปิดฉากด้วยกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของไทยอย่าง TRUE และ AIS คว้าคลื่นสำคัญเข้าสู่พอร์ต เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ระยะยาวในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศ
โดยกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ผ่านบริษัท ทรูมูฟ เอช คว้าคลื่น 2300 MHz จำนวน 70 MHz มูลค่า 21,770 ล้านบาท และคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz มูลค่า 4,653 ล้านบาท รวมมูลค่าการลงทุนในครั้งนี้กว่า 26,423 ล้านบาท
[caption id="attachment_181324" align="aligncenter" width="1000"]
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม TRUE[/caption]
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม TRUE ระบุว่า “ผลการประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้เป็นไปตามความสำคัญของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ และเป้าหมายการจัดการคลื่นความถี่ที่มุ่งรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี 5G, AI, IoT และเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ยกระดับคุณภาพโครงข่ายเพื่อให้บริการลูกค้าทั่วประเทศให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด รองรับภารกิจการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ขององค์กรธุรกิจ และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระยะยาว”
ทั้งนี้ คลื่น 2300 MHz ที่ทรูมูฟ เอช ชนะการประมูลจำนวน 70 MHz ด้วยราคา 21,770,000,168 บาท จะนำมาให้บริการได้ทั้ง 5G และ 4G โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่ทรูมีอยู่แล้ว เพื่อส่งมอบความเร็ว ความครอบคลุม และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม พร้อมทั้งสามารถรวมกับคลื่นย่านอื่นเพื่อให้บริการที่เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถนำมาเพิ่มศักยภาพ 5G ของคลื่น 2600 MHz ให้เป็น 5G เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับคลื่น 1500 MHz จำนวน 20 MHz ของทรูมูฟ เอช ประมูลด้วยราคา 4,653,960,168 บาท เป็นคลื่นใหม่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาเครือข่ายสู่อนาคต มีจุดเด่นในการเสริมประสิทธิภาพเทคโนโลยี 5G และต่อยอดการใช้งาน 4G สามารถนำมาใช้งานเพื่อเพิ่มความจุของเครือข่ายและเพิ่มความครอบคลุมในช่วงดาวน์โหลด รองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในพื้นที่หนาแน่นและนอกเมือง
โดยสามารถนำคลื่น 1500 MHz รวมกับคลื่นอื่น หรือเทคโนโลยี Carrier Aggregation ส่งผลให้ผู้ใช้งานได้รับอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นแม้อยู่ในพื้นที่แออัด มีสัญญาณเสถียร และลดปัญหาเน็ตช้าในช่วงเวลาพีค
ปัจจุบัน TRUE ถือครองคลื่นความถี่รวม 8 ย่านคลื่น ครอบคลุมทั้งแบนด์ต่ำ กลาง และสูง ดังนี้
- คลื่นความถี่ต่ำ (Low-band): 700 MHz : 2x20 MHz, 900 MHz : 2x15 MHz
- คลื่นความถี่กลาง (Mid-band): 1500 MHz : 20 MHz, 1800 MHz : 2x20 MHz, 2100 MHz : 2x30 MHz, 2300 MHz : 70 MHz, 2600 MHz : 90 MHz
- คลื่นความถี่สูง (High-band): 26 GHz : 1000 MHz
ด้านบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) ในเครือ AIS ได้รับสิทธิใช้งานคลื่น 2100 MHz จำนวน 3 ชุด รวม 30 MHz ในราคาประมูลรวม 14,850 ล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญของ AIS ในการเสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐาน 5G พร้อมรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น
[caption id="attachment_181323" align="aligncenter" width="1000"]
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS[/caption]
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “การได้รับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2100 MHz จะทำให้ AIS สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครือข่าย 5G ของ AIS นอกจากมีความครอบคลุมที่ดีแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ ความเร็ว และสามารถรองรับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในอนาคตได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จนี้ยังตอกย้ำถึงพันธกิจของเราในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและยั่งยืน”
ทั้งนี้ คลื่นความถี่ 2100 MHz จัดอยู่ในกลุ่มคลื่นความถี่ย่านกลาง (Mid-band) ซึ่งเป็นช่วงความถี่สำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการให้บริการที่ครอบคลุม รองรับปริมาณการใช้งานที่หนาแน่น โดยเฉพาะในเทคโนโลยี 4G และ 5G
การประมูลครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ AIS ในการลงทุนพัฒนาเครือข่ายและนวัตกรรม โดยมีแผนพร้อมนำคลื่นที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทันที ทั้งในเชิงการให้บริการ การขยายเครือข่าย และการต่อยอดนวัตกรรม เพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียม พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ กสทช. จะมีการประชุมเพื่อมีมติรับรองผลการประมูลต่อไป