"ทักษิณ" เปิดใจเบื้องหลังสัมพันธ์สะบั้น "ฮุน เซน" หลังคลิปเสียงฉาว ลั่น "ทำลูกผมแบบนี้ ไม่มีอะไรต้องคุย"
ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมงานเสวนาพิเศษ “55 ปี NATION ผ่าทางตันประเทศไทย Exclusive Talk กับ 4 ผู้นำทางความคิด” โดยมาพร้อม น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว และนายณัฐพงศ์ คุณากรณ์วงศ์ ลูกเขย
ก่อนเริ่มรายการ นายทักษิณปฏิเสธตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับประเด็นการเมือง โดยกล่าวสั้น ๆ ว่า “เดี๋ยวมันจืด เอาให้เสร็จก่อน”
แต่ระหว่างขึ้นเวทีในช่วงสัมภาษณ์ “Chapter 1” นายทักษิณได้เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุตรสาวของตน หลุดสู่สาธารณะ และกลายเป็นชนวนปัญหาทางการเมือง
“เคยเป็นพี่น้องกัน แต่เขาทำลูกผมแบบนี้ ความสัมพันธ์จบแล้ว ผมไม่รู้จะคุยทำไม”
เบื้องหลังคลิปเสียง: จากไมตรีสู่ความไม่ไว้ใจ
นายทักษิณเล่าว่า เหตุการณ์เริ่มต้นจากที่นายกรัฐมนตรีแพทองธารตั้งใจไปพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ผ่านการประสานของ “ฮวด” ล่ามชาวกัมพูชา โดยมีรัฐมนตรีไทยหลายคนร่วมเดินทางไปด้วย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ แต่กลับต้องรอนานเกือบ 3 ชั่วโมง ฝ่ายกัมพูชาระบุว่า “หลับอยู่” พร้อมถ่ายภาพส่งมาให้ดู
ในที่สุด เมื่อคณะฝ่ายไทยเดินทางกลับแล้ว ฮุน เซนจึงโทรเข้ามายังมือถือส่วนตัวของนายกฯ แพทองธาร ทำให้นายทักษิณสงสัยว่าอาจมีการเตรียมบันทึกเสียง และตั้งคำถามว่า ฝ่ายกัมพูชาอาจไม่ต้องการพูดคุยต่อหน้านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคนอื่น
“คลิปเสียงหลุด ไม่ใช่แค่ทำร้ายลูกผม แต่ทำลายความเชื่อใจทุกอย่าง”
เขากล่าวอีกว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ฮุน เซนได้โพสต์ข้อความพาดพิงตนในโซเชียล แต่ตนไม่ได้ตอบโต้ มีเพียงข้อความเดียวที่ส่งไปว่า “สิ่งที่คุณทำ มันเสียหายทั้งสองฝ่าย”
ชี้เหตุความไม่พอใจ: เรื่องในอดีตยังหลอน-ปัจจุบันสะสม
นายทักษิณเล่าว่า เหตุการณ์ที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2546 ในช่วงที่มีกระแสข่าวว่า “กบ สุวนันท์” นางเอกชื่อดัง กล่าวอ้างว่า เสียมเรียบเป็นของไทย ทำให้เกิดจลาจลในพนมเปญและการเผาสถานทูตไทย ทักษิณเผยว่า ขณะนั้นตนได้สั่งการให้ดูแลความปลอดภัยคนไทยเต็มที่ พร้อมเตรียมส่ง C-130 และเรือจักรีนฤเบศรไปประจำการที่สีหนุวิลล์
สำหรับเหตุล่าสุดนี้ นายทักษิณตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีสาเหตุมาจากหลายเรื่องสะสม ทั้งการที่ไทยส่งตำรวจไปสืบความเคลื่อนไหวของแก๊งคอลเซนเตอร์ในอาคารแห่งหนึ่งที่พัวพันกับกลุ่มทุนในกัมพูชา รวมถึงกรณีไทยปิดด่านชายแดนในช่วงที่กัมพูชาเพิ่งถอนกำลังทหาร
เขายังเผยว่า คลิปเสียงหลุดอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในเกมการเมืองภายในกัมพูชา เพื่อรักษาคะแนนนิยมของผู้นำรุ่นใหม่
แฉเส้นเงิน–บริษัทฟอกเงิน–การเมืองใต้ดิน
นายทักษิณยังเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแรงงานต่างด้าวผ่านที่ปรึกษาแรงงานของกัมพูชา โดยเป็นการโอนเงินกลับไปกลับมาระหว่างไทย-กัมพูชา
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงบริษัท Huione (ฮุยวัน) ที่ถูกสหรัฐอเมริกาแบล็กลิสต์ในฐานะกลุ่มฟอกเงิน โดยระบุว่า ฮุน โต หลานชายฮุน เซน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และบริษัทดังกล่าวรับ “ฟอกทุกอย่าง”
ยืนยันไม่มีสงคราม – แต่ไม่ขอพูดอีก
แม้ความสัมพันธ์ส่วนตัวจะจบลง นายทักษิณย้ำว่า “ยังไม่มีอะไรจะนำไปสู่สงคราม” และยังสามารถใช้ช่องทาง คณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) เพื่อการพูดคุยระหว่างประเทศต่อไป
“เราไม่ต้องการให้ประเทศที่สามเข้ามาไกล่เกลี่ย ใครดำน้ำอึดกว่าก็ชนะ”
เขาทิ้งท้ายว่า “มันพลาดที่คบคนแบบนี้ เขาเจ้าเล่ห์จริง ๆ” และระบุว่า ตั้งแต่คลิปเสียงหลุดออกมา ตนไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกับฮุน เซนอีกเลย