ทรัมป์จัดซัมมิตกับผู้นำแอฟริกาตะวันตก หมายตาทรัพยากรแร่ธาตุ
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ว่า รัฐบาลของทรัมป์พยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับภูมิภาคที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ควบคู่กับการจำกัดความช่วยเหลือต่างประเทศต่อแอฟริกา และเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ในอัตรา 10%
ทั้งนี้ การเจรจากับประธานาธิบดีของเซเนกัล ไลบีเรีย กินี-บิสเซา มอริเตเนีย และกาบอง มุ่งเน้นไปที่ประเด็นเกี่ยวกับโอกาสทางการค้า และความมั่นคง
“เรากำลังทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทั้งสหรัฐ และหลายประเทศในแอฟริกา” ทรัมป์ กล่าวกับบรรดาผู้นำและผู้สื่อข่าวก่อนการประชุม พร้อมกับเสริมว่า แอฟริกามีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมในหลายด้าน เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นอีกไม่กี่แห่ง
อนึ่ง ทั้งห้าประเทศที่ได้รับคำเชิญร่วมการประชุมสุดยอด ต่างมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น แมงกานีส ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญในการผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมและแบตเตอรี่ รวมถึงแร่เหล็ก ทองคำ เพชร ลิเทียม และโคบอลต์
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บดบังการเจรจาครั้งนี้ คือ มาตรการรุนแรงซึ่งทรัมป์และเจ้าหน้าที่ของเขา ใช้ในการปรับสมดุลความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและประเทศในแอฟริกา โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลวอชิงตันปิดหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (ยูเอสเอด) เพื่อยุติรูปแบบที่ “มุ่งเน้นการกุศล” และให้ความสำคัญกับความร่วมมือทางการค้าแทน
นอกจากนี้ ความมั่นคงคาดว่าจะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมสุดยอดเช่นกัน เนื่องจากปัญหาการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ และการอพยพเข้าเมือง ถือเป็นความกังวลอันดับต้น ๆ ของรัฐบาลวอชิงตัน.
เครดิตภาพ : AFP