เสี่ยงตับเสื่อม! 2 สัญญาณเตือนอันตรายหลังตื่นนอน
ในแต่ละวัน ตับ ทำหน้าที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญสารอาหาร ผลิตน้ำดีเพื่อย่อยไขมัน เก็บสะสมวิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงขจัดสารพิษออกจากร่างกาย แต่เมื่อ ตับเริ่มทำงานผิดปกติ ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนออกมา โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน ซึ่งหลายคนมักมองข้าม
ล่าสุด มีรายงานจาก Very Well Health และ British Express ที่ระบุว่า หากพบ 2 อาการผิดปกติหลังตื่นนอน อาจเป็นสัญญาณว่าตับของคุณเริ่มมีปัญหา และควรเข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยเร็ว
1. เหนื่อยล้าแม้เพิ่งตื่นนอน
โดยปกติ หลังการพักผ่อน ร่างกายควรรู้สึกสดชื่น แต่หากคุณรู้สึก อ่อนเพลีย ง่วงนอน หรือหมดแรงทันทีที่ตื่นนอน และอาการนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวัน อาจไม่ใช่เรื่องปกติ
เนื่องจาก ตับมีบทบาทในการผลิตและควบคุมพลังงานของร่างกาย หากตับทำงานบกพร่อง กระบวนการเหล่านี้จะสะดุด ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่ายแม้ไม่มีกิจกรรมหนัก นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังกว่า 60-80% ยังประสบปัญหานอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือสะดุ้งตื่นกลางดึก ส่งผลให้รู้สึกอ่อนล้าเมื่อตื่นนอน
2. ปัสสาวะมีสีเข้มผิดปกติ
หากคุณสังเกตว่าปัสสาวะในตอนเช้ามีสีเหลืองเข้มหรือออกน้ำตาล อาจเป็น สัญญาณว่าตับทำงานผิดปกติ
เนื่องจาก ตับไม่สามารถกำจัดสารบิลิรูบิน (Bilirubin) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารนี้จึงสะสมในร่างกายและขับออกทางปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเปลี่ยนสี อาจมาพร้อมกับอาการตาเหลือง ตัวเหลือง หรือคันตามผิวหนัง
นอกจากสองอาการข้างต้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง เบื่ออาหาร ปวดใต้ชายโครงขวา ผิวแห้งหรือคันผิดปกติ อุจจาระมีสีซีดหรือเปลี่ยนแปลง
โรคตับมักไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก การใส่ใจความผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะหลังตื่นนอน จะช่วยให้ตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น หากคุณมีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องหลายวัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม
ใส่ใจสุขภาพตับ เริ่มต้นได้ตั้งแต่เช้านี้
อย่าลืมตรวจการทำงานของตับอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีประวัติโรคตับในครอบครัว หรือรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน
การรู้เท่าทัน คือจุดเริ่มต้นของการป้องกัน
สุขภาพดี เริ่มต้นที่ ตับ ของคุณเอง