ชายชราวัย 77 ปี หายขณะว่ายน้ำในแม่น้ำ พบถูกน้ำพัดไปไกลกว่า 50 กม.
เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ใกล้กับพระพุทธรูปเล่อซานอันโด่งดัง เมื่อนายจ้ง จินเฉิง ชายชราวัย 77 ปี ถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัดหายไปขณะว่ายน้ำ หลังจากการค้นหาอยู่หลายวัน ยืนยันว่าพบร่างผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตแล้ว
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า จ้ง จินเฉิง ที่ก่อนหน้านี้สูญหายบริเวณแม่น้ำต้าตู๋เหอสายในเมืองเล่อซาน ถูกพบร่างแล้ว แต่เสียชีวิตแล้ว ตามรายงานระบุว่า ร่างของเขาถูกพบห่างจากจุดลงน้ำประมาณ 50 กิโลเมตร บริเวณแม่น้ำหมินเจียง เขตเจียนเว่ย
ข้อมูลจากครอบครัวระบุว่า นายจ้ง จินเฉิง เกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 เดิมทีมาจากมณฑลกุ้ยโจว แม้จะอายุมากแล้ว แต่เขาชื่นชอบการว่ายน้ำ ขี่จักรยาน และท่องเที่ยวเป็นประจำ ทำให้ร่างกายยังคงแข็งแรง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เขาได้ขับรถท่องเที่ยวพร้อมเพื่อน ๆ มาถึงเมืองเล่อซาน โดยมีแผนที่จะเดินทางกลับในวันถัดมา
เช้าวันที่ 14 สิงหาคม เวลาประมาณ 07.30 น. นายจ้ง จินเฉิง และเพื่อน ๆ ได้ไปยังบริเวณลานริมแม่น้ำเล่อซาน ซึ่งจุดยอดนิยม และลงเล่นน้ำบริเวณที่สามแม่น้ำไหลมาบรรจบกันตรงหน้าพระพุทธรูปเล่อซาน
เล่อซานดงเสี่ยวกวางฉาง ตั้งอยู่ที่เขตเสี่ยวกงจุยของเมืองเล่อซาน มีบันไดลงน้ำตรงไปยังแม่น้ำต้าตู๋เหอ และเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวและประชาชนมักลงเล่นน้ำเพื่อชมวิวพระพุทธรูปขนาดใหญ่
ลูกสาวของผู้เสียชีวิตเล่าว่า พ่อของเธอมีนิสัยว่ายน้ำช่วงฤดูหนาวเป็นประจำ แต่ในวันเกิดเหตุ หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ขณะพยายามขึ้นฝั่ง เขาได้ถูกกระแสน้ำพัดไปกลางแม่น้ำ และต่อมาถูกพัดเข้าสู่จุดบรรจบของแม่น้ำต้าตู๋เหอและแม่น้ำหมินเจียง เพื่อนร่วมทางพยายามเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ ทำให้จ้ง จินเฉิง หายไปอย่างรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุ ครอบครัวได้โพสต์ประกาศตามหาในโลกออนไลน์ ซึ่งได้รับความสนใจจากสาธารณะอย่างกว้างขวาง ลูกสาวของเขาได้เดินทางจากเซี่ยงไฮ้มาช่วยค้นหา และหลายวันต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ออกค้นหาตามลำน้ำหมินเจียงตอนล่าง จนกระทั่งพบร่างของเขาในเขตเจียนเว่ย
ขณะนี้ กระบวนการดำเนินการทางด้านเอกสารและพิธีกรรมต่าง ๆ ของครอบครัวยังคงดำเนินอยู่ ทางการท้องถิ่นได้เตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวว่า แม่น้ำต้าตู๋เหอและแม่น้ำหมินเจียงมีสภาพน้ำที่ซับซ้อนและอันตราย จึงไม่ควรลงเล่นน้ำในบริเวณที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ