ไม่ใช่ออฟฟิศซินโดรม! 5 อาการที่คนส่วนใหญ่คิดว่าธรรมดา แต่คือสัญญาณ “หัวใจวาย”
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์ข้อความระบุว่า
ระวัง ! 5 สัญญาณเตือน ที่หลายคนไม่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ!
หลายคนเวลาได้ยินคำว่า “โรคหัวใจ” ก็มักจะนึกถึงแค่ว่า ต้องเจ็บหน้าอกเท่านั้น ถึงจะใช่
แต่ความจริงแล้วมันมีอาการอื่น ๆ อีกหลายอย่างที่ซ่อนอยู่ แบบที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันสังเกตเลยด้วยซ้ำ
ปัญหาคือ…กว่าจะรู้ตัวว่ามันไม่ปกติ ก็อาจจะได้เข้าโรงพยาบาลซะก่อนแล้วก็ได้ครับ
และแย่กว่านั้ยคือมีโอกาสเสียชีวิตได้เลยนะ
วันนี้เลยอยากมาชวนคุยเรื่อง 5 อาการที่มักถูกเข้าใจผิด แต่จริง ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคหัวใจ เอาไว้เผื่อคุณหรือคนที่คุณรักจะได้ระวังตัวทันครับ
1.ปวดจุกแน่นลิ้นปี่
หลายคนเจ็บตรงลิ้นปี่แล้วคิดว่า “อ๋อ โรคกระเพาะแน่ ๆ” หรือ “คงกรดไหลย้อน” แต่ความจริงแล้ว
ถ้าอาการมัน มาเวลาที่เราเดินหรือออกแรง แล้วหายตอนนั่งพัก อันนี้ต้องระวังเลยครับ
เพราะมันเป็นลักษณะที่เจอได้บ่อย ของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดชั่วคราว (Angina)
เวลาเราออกแรง หัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้น แต่ถ้าเส้นเลือดหัวใจตีบ เลือดไปเลี้ยงไม่พอ หัวใจเลยส่งสัญญาณผ่านอาการจุกแน่น พอเราหยุดพัก หัวใจทำงานเบาลง อาการเลยค่อย ๆ ดีขึ้น
ถ้าอาการนี้มาทุกครั้งตอนออกแรง แล้วหายตอนพัก อย่ารอครับ ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
หรือทำ Stress Test จะได้รู้ว่าเส้นเลือดหัวใจโอเคไหม เพราะถ้าปล่อยไว้ เส้นเลือดตีบสนิทเมื่อไหร่ = หัวใจวายเฉียบพลันทันที
2.เจ็บร้าวไปไหล่ซ้าย
ผมเจอบ่อยมากที่คนไข้มาด้วยอาการเจ็บไหล่ซ้าย แล้วบอกว่า “คงยกของเยอะ” หรือ “ออฟฟิศซินโดรม”
แต่พอตรวจจริง ๆ กลับกลายเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ
อาการเจ็บจากหัวใจมันจะไม่ใช่ปวดแหลม ๆ จุดเดียว แต่มักจะเป็นแบบ ร้าว ลาม แปล๊บ ๆ จากกลางอกไปไหล่ซ้าย
บางคนขึ้นคอ ลามไปกราม หรือบางครั้งไปถึงไหล่ขวาเลยก็มี
เป็นเพราะว่า เส้นประสาทหัวใจกับไหล่ใช้เส้นเดียวกัน สมองเลยสับสนว่าปวดมาจากไหล่ ทั้งที่จริง ๆ มาจากหัวใจ
อันนี้ต้องระวังนะ ถ้าเจ็บไหล่แบบไม่มีเหตุผล ยิ่งถ้าออกแรงแล้วเป็น นั่งพักแล้วดีขึ้น อย่ารีบไปนวดหรือกินยาแก้ปวดนะครับ
ลองเช็กหัวใจดูก่อน เพราะหลายเคสที่มาช้า สุดท้ายคือหัวใจวาย
3. เหนื่อยง่ายขึ้น อย่าโทษว่าแก่ลงหรืออ้วนขึ้น
อันนี้คืออาการที่คนมักไม่ใส่ใจที่สุด เช่น ปกติเดินขึ้นบันได 3 ชั้นสบาย ๆ อยู่ดี ๆ แค่ขึ้นชั้นเดียวก็หอบ ต้องหยุดพัก
หลายคนมักโทษตัวเองว่า “คงแก่ขึ้น” หรือ “ไม่ค่อยออกกำลัง” แต่จริง ๆ นี่อาจเป็นสัญญาณแรก ๆ ของ โรคหัวใจและเส้นเลือดหัวใจตีบ
เพราะหัวใจที่เส้นเลือดตีบ จะสูบฉีดเลือดได้ไม่ดี เวลาออกแรงแม้จะเล็กน้อย กล้ามเนื้อก็ขาดออกซิเจน เลยทำให้รู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติ
ถ้าคุณรู้สึกว่าเหนื่อยง่ายแบบผิดแปลกจากเมื่อก่อน โดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ควรตรวจหัวใจไว้ก่อน
อย่ารอให้มีอาการอื่นตามมา เพราะนี่คือสัญญาณเตือนล่วงหน้าแบบเงียบ ๆ ของหัวใจ
4.แน่นหน้าอก
ทุกวันนี้คนทำงานเครียดเยอะมาก อาการแน่นหน้าอก อึดอัด หายใจไม่เต็มปอด
หลายคนเลยสรุปเองว่า “ฉันเป็นแพนิค” หรือ “เครียดเกินไป” ซึ่งก็มีโอกาสใช่ แต่ปัญหาคือ หัวใจวายเฉียบพลัน ก็มีอาการคล้ายกันนะ
สัญญาณอันตราย ยกตัวอย่างเช่น
•แน่นกลางอกเหมือนมีอะไรทับ
•ร้าวไปแขน คอ กราม
•เหงื่อแตก ใจสั่น คลื่นไส้
•หายใจไม่อิ่ม เหมือนใจจะขาด
ถ้าเจออาการแบบนี้รุนแรงขึ้นมาแบบทันทีทันใด รีบไปฉุกเฉิน อย่ารอดูอาการเองเด็ดขาด
เพราะหัวใจวายเฉียบพลันนับเป็น “นาทีชีวิต” ช่วยเร็ว = รอดสูง ช้า = เสียโอกาสรักษา
5. นอน ๆ อยู่แล้วหายใจไม่ออก
เคยตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วรู้สึกเหมือนจมน้ำ หายใจไม่ทัน ต้องรีบลุกขึ้นนั่งหอบไหมครับ?
หลายคนคิดว่าเป็นกรดไหลย้อน บางคนถึงขั้นโทษผีอำ แต่จริง ๆ แล้วนี่คือหนึ่งในสัญญาณอันตรายของ ภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart Failure)
ต้องอธิบายแบบนี้นะครับว่า เวลาหัวใจซีกซ้ายทำงานไม่ไหว เลือดจะคั่งในปอด น้ำเลยซึมเข้าไปในถุงลม ทำให้เกิดอาการ “น้ำท่วมปอด” พอนอนราบ น้ำไหลย้อนขึ้น ทำให้รู้สึกหอบ สำลัก หรือไอ ถ้าเจอแบบนี้บ่อย ๆ รีบไปโรงพยาบาลตรวจหัวใจเลยครับ เพราะนี่ไม่ใช่อาการธรรมดา ต้องใช้ยาขับน้ำและยาช่วยหัวใจทันที
5 อาการนี้คือ “สัญญาณเตือน” ที่หลายคนมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นโรคกระเพาะ ปวดไหล่ เครียด หรือแ
ก่ลง แต่ความจริงคือมันอาจเป็นสัญญาณแรก ๆ ของโรคหัวใจและเส้นเลือดตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการพวกนี้ซ้ำ ๆ หรือผิดปกติ แนะนำว่า ไปตรวจหัวใจให้แน่ใจ อย่ารอให้มันกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีโอกาสแก้ไขได้
ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยนะครับ