OpenAI เปิด GPT‑OSS โมเดลภาษาเปิด หนุนนักพัฒนา-ธุรกิจเข้าถึง AI ขั้นสูง
OpenAI เดินหน้าขยายขอบเขตเทคโนโลยี AI ด้วยการเปิดตัวโมเดลภาษาแบบเปิด (open-weight) ชุดใหม่ในชื่อ “GPT‑OSS” มุ่งส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีAI อย่างทั่วถึง โดยเปิดให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีภายใต้สัญญาอนุญาต Apache 2.0 ทั้งสำหรับใช้เชิงพาณิชย์และไม่ใช่เชิงพาณิชย์
ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่เพิ่มทางเลือกให้ภาคธุรกิจ นักพัฒนา และองค์กรต่าง ๆ สามารถนำโมเดลภาษาไปต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส
GPT‑OSS ประกอบด้วย 2 รุ่นหลัก ได้แก่ GPT‑OSS -120b ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 117 พันล้านพารามิเตอร์ รองรับการประมวลผลระดับสูงบน GPU ขนาด 80GB และ GPT‑OSS -20b ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้บนอุปกรณ์ทรัพยากรจำกัด เช่น แล็ปท็อปทั่วไป โดยยังคงประสิทธิภาพในระดับใกล้เคียงกับโมเดลเชิงพาณิชย์ของOpenAI รุ่น o3-mini
โมเดล GPT‑OSS ถูกออกแบบด้วยเทคนิค Mixture-of-Experts (MoE) โดยมีผู้เชี่ยวชาญ (experts) ถึง 128 คนในแต่ละเลเยอร์ และเปิดใช้งาน 4 คนต่อโทเคนในแต่ละรอบการประมวลผล รองรับบริบทยาวถึง 128,000 โทเคน เหมาะสำหรับงานด้านการวิเคราะห์เอกสารจำนวนมากหรือโค้ดโปรแกรมขนาดใหญ่
ด้านการฝึกสอน โมเดลได้รับการเทรนด้วยข้อมูลหลากหลาย ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ การเขียนโปรแกรม รวมถึงวัฒนธรรมร่วมสมัย พร้อมผ่านการปรับแต่งด้วยเทคนิค Reinforcement Learning from Human Feedback (RLHF) เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามคำสั่งและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ
OpenAI ยืนยันว่าได้ดำเนินการประเมินความปลอดภัยของโมเดลอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในกรณีการนำไปใช้ในงานอ่อนไหว เช่น ชีววิทยาและความมั่นคงไซเบอร์ ซึ่งพบว่าโมเดลยังไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกในระดับที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ พร้อมทั้งเสริมความโปร่งใสด้วยกลไก “การให้เหตุผลแบบตรวจสอบย้อนกลับ” (chain-of-thought reasoning)
ขณะนี้ผู้สนใจสามารถเข้าถึง GPT‑OSS ได้ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Hugging Face, Databricks, Azure และ AWS โดย OpenAI ระบุว่า การปล่อยโมเดลชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการส่งเสริมระบบนิเวศAI ที่เปิดกว้าง และขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ
การเปิดตัว GPT‑OSS สะท้อนทิศทางใหม่ของ OpenAI ที่ต้องการมีส่วนร่วมในชุมชนโอเพนซอร์สอย่างจริงจัง ท่ามกลางการแข่งขันของผู้พัฒนาAI รายใหญ่อื่น ๆ อาทิ Meta, Google และ Mistral ที่ต่างทยอยเปิดโมเดลของตนสู่สาธารณะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ในช่วงเวลาที่การลงทุนในAI เติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก การเปิดตัว GPT‑OSS ถือเป็นการประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ของ OpenAI ที่ต้องการสร้างพื้นที่กลางระหว่างความสามารถระดับสูงและการเข้าถึงแบบเปิด ช่วยให้ผู้ใช้จากทุกระดับสามารถทดลอง ปรับใช้ และพัฒนานวัตกรรมได้โดยไม่ต้องถูกจำกัดโดยทรัพยากร หรือการเข้าถึงบริการแบบปิด ความสำเร็จของ GPT‑OSS อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้เป็นขององค์กรใดองค์กรหนึ่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นขุมพลังของชุมชนระดับโลกอย่างแท้จริง