“ทิม คุก” มอบโล่ทองคำ 24 กะรัตให้ “ทรัมป์” บวกเพิ่มลงทุนในสหรัฐฯ
9 สิงหาคม 2568 ตอนที่ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของแอปเปิล (Apple) เข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม เขาได้การประกาศแผนลงทุนในสหรัฐฯ ที่มีชื่อว่า"โครงการผลิตแอปเปิลอเมริกัน" (Apple American Manufacturing Program) มูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 4 ปี เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบครบวงจรในสหรัฐฯ
ขณะที่วิเคราะห์มองว่า การประกาศครั้งนี้เป็น "กลยุทธ์หลีกเลี่ยงภาษี" ของแอปเปิล เพื่อลดแรงกดดันจากนโยบายการค้าของทรัมป์ เช่น กรณีล่าสุดที่ทรัมป์ประกาศเตรียมเก็บภาษีชิปในอัตรามากกว่า 100% สำหรับบริษัทที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ แต่แอปเปิลได้เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการยกเว้น ที่ช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสินค้าที่ต้องใช้ชิปหลายร้อยชนิด
โครงการนี้ เป็นการลงทุนเพิ่มอีก 1 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิม 5 แสนล้านดอลลาร์ ที่ประกาศไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และแอปเปิลยังคงพึ่งพาผู้ผลิตเดิมที่มีโรงงานในสหรัฐฯ ซึ่งรวมทั้ง TSMC, บรอดคอม (Broadcom) และ เท็กซัส อินสตรูเมนท์ส" (Texas Instruments) ที่ถือเป็นการวางหมากที่ชาญฉลาดในเกมการเมืองด้วยดีล "made in America" เพื่อสร้างความประทับใจให้กับทรัมป์
เท่านั้น ยังไม่พอ เขายังมีของขวัญติดมือไปมอบให้ทรัมป์ด้วย ซึ่งก็คือ "โล่ที่สั่งทำพิเศษ" ออกแบบโดย อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ที่แอปเปิลประกอบไปด้วยฐานที่ทำจากทองคำ 24 กะรัต จากรัฐยูทาห์ และแผ่นแก้วทรงกลมขนาดใหญ่ผลิตโดย "คอร์นนิ่ง" (Corning) ผู้ผลิตกระจกให้ไอโฟน (iPhone) บนแผ่นแก้วสลักโลโก้ของแอปเปิล. ชื่อของทรัมป์และลายเซ็นต์ของ ทิม คุก ในฐานะซีอีโอแอปเปิลด้วย
นักวิเคราะห์บางคน มองว่า แอปเปิลอาจใช้กลวิธี "ขายผ้าเอาหน้ารอด" หรือ การเอาตัวรอดในเหตุการณ์เฉพาะหน้าเอาไว้ก่อน เพราะยากที่จะเชื่อว่าแอปเปิลจะลงเงินจริงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อพิจารณาจากค่าใช้จ่ายประจำ และการซื้อจากซัพพลายเออร์ที่มีอยู่แล้ว ทั้งยังไม่ได้แก้ปัญหาซัพพลายเชนได้จริง นอกจากนี้คำว่า "ครบวงจร" ของ แอปเปิลก็ยังคลุมเครือ และการย้ายห่วงโซ่อุปทานชิปทั้งหมดไปยังสหรัฐฯ ภายใน 4 ปี เป็นไปไม่ได้ เพราะขั้นตอนสำคัญหลายอย่างยังอยู่ที่เอเชีย
แผนเฉพาะหน้าของแอปเปิลนี้ ทำเพียงเพื่อเอาชนะใจทรัมป์ โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างซัพพลายเชนมากนัก ทั้งยังรักษาผลกำไรไม่ให้กระทบ ยิ่งถ้าคู่แข่งถูกเก็บภาษี แต่ไอโฟนได้รับการยกเว้น แอปเปิลอาจเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในสหรัฐฯ ได้อีก