เจ้าของเก๋ง MG ตกเหวไฟไหม้พบตร. มอบหลักฐานสาวเช่ารถก่อน GPS ขาดหาย
เจ้าของรถยนต์เก๋ง MG ที่ตกเหวเขาคอม้า นำหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ชาติตระการ เพื่อยืนยันมีหญิงสาวเช่ารถตนเอง และหายตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน พร้อมเผยไม่เชื่อว่า น.ส.รัตน์ชนก ผู้เช่ารถไปไม่น่าใช่คนเดียวกับกระดูกในรถยนต์ เนื่องจากพบว่ามีประวัติก่อเหตุขึ้นอีกในช่วงคราบเกี่ยว
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. จากคดีเกิดอุบัติเหตุรถพ่วงบรรทุกไม้ตกเหวเขาคอม้า ม.15 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก จนนำไปสู่การพบซากรถ MG ปริศนาอีก 1 คัน อยู่ด้านล่างในเหวถูกไฟไหม้ทั้งคัน และพบโครงกระดูกมนุษย์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบรถดังกล่าวมีนายนิโรจน์ อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของรถ และมีธุรกิจเต็นท์รถให้เช่า เคยแจ้งความที่สน.สายไหม ว่าได้ให้ น.ส.รัตน์ชนก เช่ารถไปเมื่อ 2 ปีก่อน โดยได้ทำสัญญาเช่าแบบรายวัน แต่ไม่ได้นำรถกลับมาคืน อีกทั้งสัญญาณ GPS จากรถคันนี้ก็ขาดหายไปบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุบนเขาคอม้า
ผงะ! ซากเก๋งไฟไหม้ในเหวลึก คนขับเหลือแต่โครงกระดูก เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์
ล่าสุดนายนิโรจน์ เจ้าของรถ ได้เดินทางมาที่ สภ.ชาติตระการ เพื่อให้ปากคำและนำหลักฐานเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวมาให้แก่ ร.ต.อ.ชัยณรงค์ คงเมือง พนักงานสอบสวน สภ.ชาติตระการ เพื่อไขปริศนาว่าศพดังกล่าวเป็นของน.ส.รัตน์ชนก ผู้เช่ารถด้วยหรือไม่ โดยนายนิโรจน์ ได้เข้าไปตรวจสอบซากรถ MG และพบว่าตัวเลขคลัชซีตรงกันจริง พร้อมกับกล่าวว่า ตนเองที่เดินทางมาครั้งนี้เพื่ออยากจะทราบว่าศพดังกล่าวเป็นของ น.ส.รัตน์ชนก จริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงก็อยากเจอตัวเขา ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อปี 66 นั้น รถของตนเอง GPS สัญญาณตัดหายไปที่บริเวณเขาคอม้า แต่เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าในปี 67 น.ส.รัตน์ชนก มีคดีฉ้อโกงอีกครั้ง ทำให้เชื่อได้ว่า น.ส.รัตน์ชนก น่าจะยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งโครงกระดูกดังกล่าวก็ไม่น่าจะเป็นของ น.ส.รัตน์ชนก อาจมีการขายต่อให้กับบุคคลอื่นเป็นรถมือสอง มือสาม อีกก็ได้ แต่ก็ต้องรอผลพิสูจน์ดีเอ็นเอจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่แนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบดีเอ็นเอแม่ของน.ส.รัตน์ชนก อีกครั้งว่าตรงกับกระดูกที่พบหรือไม่ อีกทั้งจากการตรวจสอบเวลาที่ GPS รถคันดังกล่าวที่หายไปในช่วงปี 66 นั้น เจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.รัตน์ชนก ยังไม่ได้หมดสัญญาเช่า ณ เวลานั้น ซึ่งเช่ารถมา 10 วัน หากพบว่ากระดูกดีเอ็นเอตรงกันก็อาจเป็นดดีอุบัติเหตุ ซึ่งอาจไม่เข้าข่ายลักทรัพย์ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง