“เอ็ตด้า” จัดแข่ง Craft Idea ปี5 ทีม BangSare Digital คว้าแชมป์
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ เอ็ตด้า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ได้แก่ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.),บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) พร้อมด้วยเครือข่ายมหาวิทยาลัยเชียงใหม่,มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดการแข่งขัน Craft Idea ปีที่ 5 รอบ Final Pitching
นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการ เอ็ตด้า กล่าวว่า จากสถานการณ์โลกในช่วงที่ผ่านมาได้กลายเป็นตัวเร่งให้ทุกภาคส่วนต้องปรับโมเดลการทำงานและการให้บริการที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยยกระดับ ทั้งในมุมของการเพิ่มช่องทางการสื่อสาร ตลอดจนการขายสินค้าและบริการ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค ลดกระบวนการดําเนินงานมากยิ่งขึ้น โดยพบว่า ธุรกิจออนไลน์ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มดิจิทัล มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่การทำคอนเทนต์ด้านการตลาดและกลยุทธ์ด้านดิจิทัล ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของทุกธุรกิจ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนและชุมชนพร้อมสู่การเปลี่ยนผ่านรองรับโลกอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ETDA ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัล ที่มาพร้อมบทบาทในการมุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านด้วย AI and Digital Transformation จึงเดินหน้าพัฒนาศักยภาพประชาชน คนรุ่นใหม่ นักศึกษา ตลอดจนคนในชุมชนทั่วทุกภูมิภาค ให้พร้อมสู่การเป็นกำลังคนดิจิทัล (Digital Workforce) ที่มีคุณภาพพร้อมด้วยศักยภาพในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและสากล ผ่านโครงการ ETDA Local Digital Coach (ELDC) ที่มุ่งพัฒนากำลังคนดิจิทัลระดับชุมชน
โดยคัดเลือกและบ่มเพาะ “โค้ชดิจิทัลชุมชน” ให้ลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ ล e-Commerce หรือการตลาดดิจิทัลและการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย เพื่อยกระดับรายได้และความยั่งยืนของชุมชนทั่วประเทศ ดำเนินงานต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โครงการ ELDC ได้สร้าง“โค้ชดิจิทัลชุมชน” ไปแล้วกว่า 5,770 ราย และสนับสนุนธุรกิจชุมชนกว่า 854 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งคนรุ่นใหม่ทั้งนักเรียน นักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ และประชาชนที่มีศักยภาพให้มีทักษะด้านดิจิทัลด้านการตลาดดิจิทัล โดยผนวกแนวคิดการพัฒนาธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคม (Social Enterprise หรือ SE)
สำหรับการแข่งขัน Craft Idea ปีที่5 นี้ ภายใต้แนวคิด “Unleash Creativity, Lead the Change” จุดพลังสร้างสรรค์ ผลักดันการขายด้วยคอนเทนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่จะต่อยอดทักษะความสามารถของโค้ชดิจิทัลที่ผ่านการพัฒนาทักษะ ให้พร้อมสู่การส่งต่อความรู้ พร้อมร่วมเป็นเครือข่ายในการพัฒนาแผนธุรกิจที่จะเข้ามาพัฒนาและยกระดับสินค้าและบริการของชุมชนไปพร้อมๆ กับ ETDA และพาร์ทเนอร์ สู่การสร้างรายได้และยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและพร้อมร่วมขับเคลื่อนให้ชุมชนก้าวสู่การจัดตั้งกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) อย่างยั่งยืน
การแข่งขัน Craft Idea ตั้งแต่เปิดรับสมัครโค้ชดิจิทัลรุ่นใหม่ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากเหล่าโค้ชดิจิทัล กว่า 384 คน และชุมชนเข้าร่วมจำนวน 97 แห่ง โดยทุกทีมได้ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญในโครงการ ELDC ครอบคลุมทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ซึ่งได้ติวเข้มการเรียนรู้เทคนิคการตลาดดิจิทัลและการผลิตคอนเทนต์ที่ดึงดูดใจ เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ตลอดจนการวางแผนธุรกิจที่ไม่เพียงแต่เน้นยอดขาย แต่ยังให้ความสำคัญกับการวางแผนธุรกิจซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของชุมชน ใช้กลยุทธ์ดิจิทัลเพื่อสร้างผลกระทบในระยะยาว จากนั้นทุกทีมก็ได้ฝึกปฏิบัติจริงผ่านการลงพื้นที่ชุมชน เพื่อสร้างสรรค์แผนธุรกิจ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันในรอบ Audition ระดับภูมิภาค ต่อเหล่าคณะกรรมการที่ร่วมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และคัดเลือกทีมจนเหลือ 12 ทีมสุดท้ายจากทั่วประเทศ เพื่อเข้าสู่การแข่งขันรอบ Final Pitching กับการนำเสนอแผนธุรกิจ ในวันที่ 22 ส.ค. โดยมีรายละเอียดดังนี้
ภาคกลางและภาคตะวันออก : ทีม Simba ร่วมกับกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตลาดน้ำท่าคา จ.สมุทรสงคราม นำเสนอแผนธุรกิจพัฒนาสินค้า Coconut Sugar Frozen Yogurt และการพัฒนาทริปใหม่ “1 วัน – 1 วิถีชุมชน”/. ทีมสาวน้อยหน้านวลมากับเรือด่วนสายบ้านแพน ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศิริโชติ-สวัสดิ์กิจ จ.นนทบุรี นำเสนอแผนธุรกิจการพัฒนาเเชมพูและครีมนวดสมุนไพรฟ้าทะลายโจร/ทีม BangSare Digital ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเรือท่องเที่ยว และกีฬาบางเสร่ จ.ชลบุรี นำเสนอแผนพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวของชุมชน
ภาคเหนือ : ทีม NEXT STEP CACAO ร่วมกับกลุ่มชุมชนผู้ปลูกโกโก้ในพื้นที่อำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ นำเสนอแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์โกโก้ของชุมชนแบรนด์ AUDIVA ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจของชุมชน / ทีมโคมทัศศา เชียงใหม่ ทำงานร่วมกับชุมชนท่าศาลา จ.เชียงใหม่ นำเสนอแผนธุรกิจสำหรับการพัฒนาโคมล้านนา สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวล้านนา / ทีม Hemp by Lanna Chaingmai ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนดาวม่าง งานผ้าใยกัญชง จ.เชียงใหม่ นำเสนอแผนธุรกิจพัฒนาสินค้าที่ผลิตจากใยกัญชง พืชพื้นบ้านที่ผูกพันกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อ และประเพณีของชาติพันธุ์ม้ง มาตั้งแต่อดีต
ภาคใต้ : ทีมเกาะหมาก พัทลุง ร่วมกับกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลเกาะหมาก จ.พัทลุง นำเสนอแผนธุรกิจพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชน / ทีมวิสาหกิจชุมชนบ้านบางเข็ม ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนบ้านบางเข็ม จ.นครศรีธรรมราช นำเสนอแผนธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์จากปลานิล / ทีม Flare4change ร่วมกับชุมชนบ้านปากซวด จ.สุราษฎร์ธานี นำเสนอแผนธุรกิจพัฒนาสินค้าเมี่ยงคำสมุนไพรให้มีความหลากหลายเหมาะต่อการซื้อเป็นของฝาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) : ทีม Born again ทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผ้าทอมือบ้านบอน จ.อุบลราชธานี นำเสนอแผนพัฒนาธุรกิจฟื้นฟูผ้ากาบบัวให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง และให้คนรุ่นใหม่สนใจการทอผ้ามากขึ้น / ทีม Rai Muang Village (ไร่ม่วงวิลเลจ) ทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนไร่ม่วงหวานการันตี จ.เลย นำเสนอแผนธุรกิจการจัดน้ำหมานเทรล 2025 กิจกรรมหลักของการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน / ทีมดักแด้แกมไหม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร เข้าร่วมกับกลุ่มทอผ้าย้อมครามบ้านกุดจอกน้อย จ.สกลนคร นำเสนอแผนพัฒนาธุรกิจผ้าไหมทอมือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ ทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ได้แก่ BangSare Digital รับถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนาถ และเกียรติบัตร พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนวิสาหกิจชุมชนเรือท่องเที่ยว และกีฬาบางเสร่ จ.ชลบุรี รับเงินรางวัล 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ สาวน้อยหน้านวลมากับเรือด่วนสานบ้านแพน รับเงินรางวัล 50,000 บาท และวิสาหกิจชุมชนศิริโชติ-สวัสดิ์กิจ จ.นนทบุรี รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร และรางวัลรองรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีม NEXT STeP Cacao รับเงินรางวัล 30,000 บาท และชุมชนปลูกโกโก้ในพื้นที่อำเภอสารภี จ.เชียงใหม่ จะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร
“การดำเนินการประกวด Craft Idea ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังของชุมชนที่ต้องการผลักดันอัตลักษณ์ สินค้า หรือจุดขายของชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเปิดรับสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะองค์ความรู้และเครื่องมือทางดิจิทัลซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของโลกยุคใหม่นี้ การเฟ้นหา Digital Workforce ของโครงการ ELDC เองก็นับว่าประสบผลสำเร็จเพราะเราได้จำนวนที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี หลังจากนี้แผนธุรกิจที่พัฒนาขึ้นในโครงการฯ จะถูกส่งต่อให้ สวส. เพื่อนำไปใช้จริงและขยายผลสู่การพัฒนาสินค้าและบริการของชุมชน อีกทั้ง ETDA เองจะใช้โมเดลนี้ต่อยอดไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยร่วมมือกับเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป” นายมีธรรม กล่าว