โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ผนึก เอไอเอส เปิดตัว “191 ELS” ระบุตำแหน่งผู้แจ้งเหตุฉุกเฉินครั้งแรกในไทย

เดลินิวส์

อัพเดต 23 สิงหาคม 2568 เวลา 0.21 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ผนึก เอไอเอส เปิดตัว “191 ELS” ระบุตำแหน่งผู้แจ้งเหตุฉุกเฉินครั้งแรกในไทย ยกระดับภารกิจดูแลประชาชนในทุกสถานการณ์ ด้วยเทคโนโลยีและโครงข่ายอัจฉริยะ

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ AIS ประกาศแผนเปิดบริการ 191 Emergency Location Service (191 ELS) ครั้งแรกในประเทศไทย บริการดังกล่าวจะช่วยระบุตำแหน่งผู้แจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านหมายเลข 191 สำหรับผู้ที่ใช้มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และเครือข่าย AIS โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม ข้อมูลจะถูกส่งจากเทคโนโลยีระบุตำแหน่งขั้นสูงตามมาตรฐาน AML (Advanced Mobile Location) ส่งพิกัดของผู้โทรไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเมื่อมีการกดหมายเลขฉุกเฉิน 191 ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าถึงเหตุฉุกเฉินได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที สะท้อนศักยภาพอันแข็งแกร่งของโครงข่ายอัจฉริยะ ในการสนับสนุนภารกิจด้านความปลอดภัย พร้อมยกระดับบริการสาธารณะด้วยเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) (ผบก.สปพ.) กล่าวว่า “หมายเลขฉุกเฉิน 191 เป็นกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุและช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นเหตุอาชญากรรม อุบัติเหตุ หรือภัยพิบัติ โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อส่งกำลังเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที แต่อุปสรรคสำคัญที่พบมาโดยตลอด คือ ความคลาดเคลื่อนหรือความล่าช้าในการระบุตำแหน่ง ผู้แจ้งเหตุจำนวนมากไม่ทราบที่อยู่ที่แน่ชัด, ไม่สามารถอธิบายสถานที่ได้ถูกต้อง หรือไม่ทราบว่าตนเองอยู่ที่ไหน ส่งผลให้การช่วยเหลืออาจล่าช้าและเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชน

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ จึงได้ร่วมกับ AIS และ Google ตั้งเป้าที่จะนำบริการ 191 Emergency Location Service (191 ELS) มาใช้ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบรับแจ้งเหตุ 191 ให้มีความทันสมัยและได้มาตรฐานสากล ระบบจะสามารถแสดงพิกัดผู้แจ้งเหตุได้อย่างแม่นยำ ลดความคลาดเคลื่อน และย่นระยะเวลาในการค้นหาสถานที่เกิดเหตุ อันจะช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุและให้ความช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

นางสาววันวิสาข์ มิ่งเจริญ หัวหน้าฝ่ายแพลตฟอร์มและอุปกรณ์ ประจำเอเซียแปซิฟิค Google กล่าวถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ว่า "บริการระบุตำแหน่งฉุกเฉินของ Android (Emergency Location Service) ซึ่งทำงานบนพื้นฐานของเทคโนโลยี AML เป็นฟีเจอร์ในอุปกรณ์ Android ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้หน่วยบริการฉุกเฉินสามารถระบุตำแหน่งของผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็ว Google พร้อมสนับสนุนกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) และ AIS ซึ่งเราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อให้บริการ ELS พร้อมใช้งานให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศต่อไป"

นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “เอไอเอส มุ่งมั่นในการพัฒนาเครือข่ายที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความอุ่นใจในทุกการใช้งานให้กับลูกค้าและคนไทย พร้อมเดินหน้าสนับสนุนภารกิจด้านความปลอดภัยของประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการนำเทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผ่านบริการ 191 ELS ภายใต้ความร่วมมือกับ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ Google เพื่อเชื่อมโยงการทำงานให้บริการเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับบริการ 191 ELS จะทำงานตามมาตรฐานของ AML รองรับความสามารถของสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ใช้เครือข่าย AIS ในการส่งพิกัด (Location) ของผู้แจ้งเหตุผ่านโทรศัพท์มือถือ (Device) ไปยังตำรวจ โดยที่ผู้แจ้งเหตุไม่ต้องเข้าแอปใดๆ ซึ่งจะครอบคลุมถึงลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเอไอเอสถือเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายรายแรกในไทยที่เปิดให้บริการในรูปแบบดังกล่าว และยังมีแผนขยายไปยังหน่วยงานอื่นๆ ในอนาคต เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน”

ด้าน นายจาตุรนต์ โชคสวัสดิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. กล่าวถึง "สำนักงาน กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม มีความมุ่งมั่นในการผลักดันการใช้โครงข่ายและเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยเฉพาะการสร้างระบบสื่อสารฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งบริการ 191 ELS ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศ กสทช. จึงได้สนับสนุนและประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ ผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ และหน่วยงานผู้รับแจ้งเหตุ เพื่อให้บริการนี้สามารถใช้งานได้จริง ครอบคลุม และทั่วถึง พร้อมทั้งเร่งประสานงานเพื่อขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ทุกระบบ เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือที่รวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยอย่างเท่าเทียม"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

“สวนกุหลาบวิทยาลัย” แม่นโทษคว่ำ “ปทุมคงคา” สุดมัน ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกลูกหนังขาสั้น “เดลินิวส์ คัพ 2025”

32 นาทีที่แล้ว

สมศักดิ์ศรี! Grand Asia Open 2025 Final คึกคัก แฟนการ์ดเกม ‘One Piece-Union Arena’ แห่ร่วมงานแน่น

35 นาทีที่แล้ว

ช็อก! คดีหมีทำร้ายคนกลายเป็นคดีฆาตกรรม คาดฝีมือลูกชายผู้ตาย

35 นาทีที่แล้ว

อุตุฯ ประกาศฉบับที่ 1 ไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ 24-27 ส.ค.นี้

42 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...