10 เด้งในปีเดียว! Palantir (PLTR) ทำสถิติใหม่รายได้ $1,000 ล้าน หุ้นพุ่ง 1,000%
Palantir Technologies (PLTR) บริษัทเทคโนโลยีด้านข้อมูลและ AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ออกมา “แรงเกินคาด” โดยสามารถทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท คิดเป็นการเติบโต48% YoY และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 61 ล้านดอลลาร์
Source: App Economy Insights
ตลาดสหรัฐฯ คือเครื่องยนต์หลัก
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนภาพการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของรายได้บริษัท
- รายได้จากสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง68% คิดเป็นมูลค่า 733 ล้านดอลลาร์
- แบ่งออกเป็นรายได้จากภาคเอกชนที่เติบโตถึง 93% หรือ 306 ล้านดอลลาร์
- และจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้น 53% หรือ 426 ล้านดอลลาร์ผลประกอบการแข็งแกร่ง ปรับเป้ารายได้ ดีลใหญ่หนุนเติบโต
ความแข็งแกร่งของผลประกอบการทำให้ผู้บริหาร Palantir ตัดสินใจปรับเพิ่มประมาณการทั้งปีทันที โดยคาดว่ารายได้ปี 2025 จะเติบโต 43% แตะระดับ 4,150 ล้านดอลลาร์ (จากเดิมคาดไว้ที่ 3,900 ล้านดอลลาร์) ขณะที่กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1,800 – 2,000 ล้านดอลลาร์
อีกหนึ่งจุดเด่นคือการที่ Palantir ทำคะแนน Rule of 40 (แนวทางประเมินสุขภาพของบริษัทซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยี) ได้สูงถึง94 คะแนน ซึ่งถือเป็นระดับยอดเยี่ยมในสายเทคโนโลยี แสดงให้เห็นถึงการเป็นบริษัทที่โตเร็วและมีกำไรจริง
ในไตรมาสนี้ บริษัทยังสามารถเซ็นสัญญาฉบับใหม่ได้รวมมูลค่ากว่า2,270 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 140% จากปีก่อน และยังรวมถึงดีลใหญ่กับกองทัพบกสหรัฐฯ ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งแม้จะไม่เปิดเผยมูลค่าอย่างเป็นทางการ แต่ก็สะท้อนความเชื่อมั่นของภาครัฐต่อระบบของ Palantir ที่นำเทคโนโลยี AI ไปใช้ในงานด้านความมั่นคงระดับสูง
AI ตัวเปลี่ยนเกม
จุดพลิกสำคัญของบริษัทในช่วงหลังมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ซึ่งกำลังเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดย CEO Alex Karp เรียกความสำเร็จครั้งนี้ว่าเป็น “โอกาสครั้งเดียวในรอบชั่วอายุ” (Once in a Generation) โดยชี้ว่านี่คือผลลัพธ์ของการลงทุนระยะยาวในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI เช่น ระบบ Ontology และเครื่องมือ AI ฝังในระบบองค์กร (Embedded AI) ซึ่งตอนนี้เริ่มเห็นดีมานด์พุ่งแรง ทั้งจากฝั่งเอกชนและรัฐบาล
10 เด้งภายในปีเดียว
ด้วยปัจจัยบวกหลายประการ นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ราคาหุ้น PLTR จึงพุ่งขึ้นกว่า 1,000% กลายเป็น “หุ้น 10 เด้ง” อย่างเป็นทางการ สะท้อนกระแสความเชื่อมั่นใน AI และความสามารถของบริษัทในการเป็นผู้นำเทคโนโลยี
แม้ Palantir จะเป็นตัวอย่างของบริษัทที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์ด้าน AI ให้กลายเป็นผลประกอบการจริงภายในเวลาอันสั้น แต่ราคาหุ้นที่พุ่งแรงจนแตะระดับสูงสุดกลุ่มต้น ๆ ของ S&P 500 ก็เริ่มสร้างความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านมูลค่า หากการเติบโตในอนาคตไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวัง
โอกาสลงทุนในกองทุนที่ถือหุ้น Palantir (PLTR)
DAOL-DEFENSE มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและความมั่นคง ซึ่งมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และงบประมาณด้านกลาโหมที่เติบโตต่อเนื่องทั่วโลก
นอกจากนี้ หุ้นในพอร์ตยังมีความสัมพันธ์ต่ำกับตลาดหุ้นทั่วไป และสามารถปรับราคาตามอัตราเงินเฟ้อได้ ทำให้สามารถช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
ปัจจุบัน DAOL-DEFENSE มีสัดส่วนการถือครองหุ้น PLTR อยู่ที่ประมาณ 8.74% (ข้อมูล ณ วันที่ 07/08/25 สัดส่วนอาจมีการเปลี่ยนแแปลง)
อ้างอิง: App Economy Insights, Financial Times
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศและความมั่นคง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FINNOMENAPORT | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299