โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ภูมิธรรม” ประชุม4ผู้ว่าฯชายแดนสร้างมั่นใจปชช.กลับบ้านได้

INN News

อัพเดต 9 สิงหาคม 2568 เวลา 19.49 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

"ภูมิธรรม" ประชุมผู้ว่าฯ 4 จังหวัดชายแดน สร้างความมั่นใจ ปชช.กลับบ้านได้ สั่งงดเก็บค่าน้ำไฟ 2 เดือน เชื่อ ครม.ไม่ขัดข้องจัดซื้อยุทโธปกรณ์กองทัพตามสมควร

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี? พร้อมคณะ ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ในการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ ก่อนให้ประชาชนเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน

นายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า การประชุมผู้ว่าทั้ง 4 จังหวัดชายแดน เพื่อทำความเข้าใจและตกลงกันให้ชัด จะดำเนินการต่อจากนี้ไปอย่างไร เนื่องจากภารกิจของเราตามแผนที่จะตกลงกันไว้ คือเป็นผู้พิทักษ์ส่วนหลัง มีหน้าที่ในการที่จะดูแลส่วนหลังให้ดีที่สุด

ฉะนั้นการมาวันนี้ เป็นสถานการณ์หลังจาก พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตกลงหยุดยิง พร้อมกล่าวย้ำว่า ขณะนี้เราเชื่อมั่น โดยได้พิจารณากับฝ่ายกองทัพ ว่าน่าจะปลอดภัย ประชาชนสามารถกลับบ้านได้

นายภูมิธรรม ยังกล่าวชื่นชมทุกคน พยายามตั้งใจเต็มที่ และผู้ว่าราชการจังหวัดถือเป็นแม่ทัพหลังในแต่ละจุด จะทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อตอบสนองประชาชน

ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวกับผู้ว่าราชการจังหวัด ว่า ในส่วนของรัฐบาลมีหน้าที่ที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศ ปกป้องความปลอดภัยของประชาชนชาวไทย ในส่วนของการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน รัฐราชการและรัฐบาล ประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานตั้งแต่เริ่มข้อขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นกรอบของกระทรวงการต่างประเทศและทางกองทัพ มีความร่วมมือผลักดัน สอดรับซึ่งกันและกัน ทำให้ภาพของประเทศไทยในสายตาสากลดีมาก ไม่มีประเทศใดกล่าวตำหนิการใช้สิทธิในการตอบโต้เพื่อที่จะป้องกันตนเอง

โดยหลังจากเหตุปะทะยุติลง มีหลายองค์กรระหว่างประเทศ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่รัฐบาลไทยได้พูด คือเรื่องการให้ความช่วยเหลือ ตนไม่อยากให้ใช้คำว่าแค่มนุษยธรรม เพราะรัฐบาลต้องการที่จะช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว

ฉะนั้นในกลุ่มของต่างประเทศ ทุกประเทศชื่นชมการทำงานของทุกท่าน ซึ่งการที่ทุกภาพส่วนผนึกกำลังกัน และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยนั้นดีเป็นอย่างมาก

นายภูมิธรรม จึงกล่าวเสริมว่า ไม่ว่าประชาชนจะกลับบ้านแล้ว แต่ปัญหาของประชาชนจะดำเนินยังอยู่ ไม่ใช่ว่าปิดศูนย์แล้วจะจบกัน เยียวยาต่างๆจะต้องลงไปให้ถึงหมู่บ้านทุกหมู่บ้านทันทีโดยเร็วไม่มีการหยุดต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามที่เป็นข้อสั่งการและเป็นกฎหมายของประเทศที่ได้ระบุไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ข้อมูลว่า จังหวัดศรีสะเกษ เบิกจ่ายเป็นอันดับ 1 เบิกจ่ายแล้ว 62 ล้านบาท ถือว่ามีประสิทธิภาพ ในส่วนพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้นจาก 5.5 หมื่นบาท เป็น 1.5 ล้านบาทแล้ว แต่ก็ยังถือว่าอย่างน้อย จึงขอให้เร่งดำเนินการเบิกจ่ายให้ประชาชน นายภูมิธรรม จึงกล่าวอีกว่า ขอบคุณทุกส่วนที่ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ วันนี้ตนฟังแล้วจังหวัดสุรินทร์ก็ดำเนินการได้ค่อนข้างดี จึงอยากให้เป็นแบบในการทำงานและสามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการช่วยเหลือประชาชน นำประชาชนเป็นศูนย์กลางทำให้ดีที่สุด และอย่างที่บอกเงินที่ให้มาถ้าไปใช้จ่ายให้กับประชาชน ไม่ต้องเหนียม ทำได้อย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่าอย่าให้เกิดการรั่วไหลหรือเป็นปัญหา จึงขอให้ทุกคนเข้มงวดดูแลในเรื่องนี้

นายภูมิธรรม ยังระบุอีกว่า ข้อสั่งการในการดำเนินการครั้งนี้ คือ ต้องอำนวยความสะดวกประชาชนกลับบ้าน ส่วนกลางได้ประสานงานขั้นต้นให้กระทรวงคมนาคมโดยการขนส่งทางบก และอีกส่วนหนึ่งคิดว่า เป็นปัญหากับหน่วยงานในพื้นที่ เราสามารถช่วยเหลือได้ในสิ่งต่างๆ ที่เรามีก็ให้เร่งดำเนินการ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ของประชาชนด้วย

ก่อนย้ำว่า เงินที่เหลือหากจำเป็นต้องใช้ก็ใช้ เพราะฉะนั้น ผู้ว่านายอำเภอ จะต้องประสานระดมทรัพยากรมาจัดสรรให้ได้ตามกรอบระเบียบในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

พร้อมกับประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) งดเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าและน้ำ 2 เดือน คือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมทในพื้นที่ประสบภัย ทั้งบ้านเรือนประชาชนและศูนย์อพยพ

นอกจากนี้ยังอยากให้ประสานงานกับอาชีวศึกษา เพื่อเข้ามาสร้าง และซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนด้วย พร้อมกับสำรวจอาชีพและการสาธารณสุข ที่แม้จะไม่มากนัก แต่อย่าทอดทิ้ง เนื่องจากมีผู้สูงอายุยังคงเสียขวัญ

ขณะเดียวกันการพูดกับต่างประเทศ ต้องมีหลักฐาน ไม่ใช่พูดเลื่อนลอย เหมือนกับต่างประเทศ การเก็บภาพบันทึกจะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้ระยะยาว จึงจะต้องรักษาอธิปไตยของเราอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้มีการวางแผนบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พร้อมฝากกระทรวงการต่างประเทศ อย่าให้เกิดสงคราม เพราะหากเกิดสงครามแล้วก็เหนื่อย ไม่มีใครอยากให้เกิด

ส่วนเรื่องค่าตอบแทน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านหรือ ชรบ.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอังคารหน้า ที่ทำงาน 6 ชั่วโมงขึ้นไปไม่ถึง 12 ชั่วโมงจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงตอบแทนวันละ 120 บาท แต่หากเกินจาก 12 ชั่วโมงขึ้นไป เราจ่ายให้เป็นวันละ 240 บาท ซึ่งงบประมาณในการจัดการคำนวณและประมาณ 117 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับ ชรบ. ยอดรวมเท่าที่สำรวจมาข้างต้นใน 7 จังหวัดชุด ชรบ.มีอยู่ประมาณ 32,740 นาย โดยแหล่งงบประมาณจะจัดหาให้ส่วนกลางเป็นผู้รับผิดชอบ

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึง เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์หรือโดรน ที่จะเพิ่มตนให้มีประสิทธิภาพสูงมากยิ่งขึ้น เราก็พร้อมที่จะอนุมัติให้ เพราะขณะนี้ตนคิดว่าประชาชนทั้งประเทศก็มีความเข้าใจ ไม่ได้คิดว่าจะมาขัดขวางอะไร เพราะฉะนั้นกองทัพเสริมความเข้มแข็งให้ตามความสมควร ที่จะทำให้การปกป้องอธิปไตยได้ดีขึ้นรักษาชีวิตของทหารและประชาชนของเราครม.ก็คงไม่มีปัญหาก็ยินดี

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า ทุกคำสั่งการหลังจากนี้ไปขอให้คำนึงถึงอธิปไตยของประเทศเป็นหลักสำคัญ เพราะไม่มีใครยอมให้มาบุกรุกล้ำอธิปไตยของเราได้และชีวิตทรัพย์สินของประชาชนถือเป็นหัวใจ ตนเป็นผู้ที่ต้องการความสำเร็จเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ความสำเร็จที่มุ่งมั่นในครั้งนี้ เราทำได้เท่ากับเรารักษาชีวิตทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างเต็มที่ จึงขอให้ตรงนี้เป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอสดุดีวีรชนของประเทศ และให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยและผู้ประสบปฏิบัติงานในทุกกรมกอง ที่เกี่ยวข้อง มีส่วนช่วยในการพิทักษ์รักษาแผ่นดินชีวิตของประชาชน

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก INN News

“COSMOS GLITTER FROM STAR CONCERT“ คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของจักรวาล COSMOS

47 นาทีที่แล้ว

ไทยกัมพูชา หยุดยิง มี 13 ข้อตกลง แต่ปัญหายังไม่จบ

59 นาทีที่แล้ว

”เปรี้ยว ทัศนียา“ โบกมือลาช่อง7 หลังอยู่13ปี ขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“อดีต สว.สมชาย” จี้ “มาริษ” ฟ้องเอาผิด”ฮุนเซน”กี่โมง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

“มาริษ” เผยหลังลงพื้นที่จ.สุรินทร์ ทำให้เห็นภาพชัดความเสียหายกัมพูชาโจมตีไทย เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ

THE ROOM 44 CHANNEL

กองทัพภาคที่ 2 แถลงเหตุทหารเจ็บ 3 ราย คาดเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN 2

สยามรัฐ

ทบ.ชี้ชัดมีหลักฐาน กัมพูชา ละเมิดสัญญา ออตตาวา

News In Thailand

กต.ประณาม "กัมพูชา" ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอนุสัญญาครั้งที่ 3 ในรอบเกือบ 1 เดือน

Thai PBS

กต.ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ทุ่นระเบิด ร้องกัมพูชาหยุดละเมิดอนุสัญญาฯ ทันที

ประชาชาติธุรกิจ

อภิมหาลวงโลก! ‘กัมพูชา’ โกงเงินนานาชาติหนุนทำลายทุ่นระเบิด แต่แอบใช้กับไทย

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม